ส า ย สั ม พั น ธ์ .. 5
รังสรรค์พาลูกไปพักผ่อนเพื่อให้เด็กชายลืมเหตุการณ์ร้ายที่ได้ประสบมาและเขาเองก็ต้องการใช้เวลาอยู่กับลูกในช่วงนี้ให้ใกล้ชิดมากที่สุด
ระหว่างรอผลพิสูจน์ซึ่งใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 3 วัน ตราบใดที่ผลยังไม่ชี้ชัดออกมา
เขายังหลอกตัวเองได้ว่ารอยเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอยู่ แม้เหตุการณ์ในวันนี้ก็ยังทำให้เขาไม่เข้าใจว่ารอยจะไม่ใช่สายเลือดเขาได้อย่างไร
ต๊าย! แก้มแดงเชียว หล่อเหมือนคุณพ่อเลยนะคะ
เจ้าหน้าที่สาวของโรงแรมกล่าวทัก เพราะนอกจากเด็กชายจะน่ารักแล้ว
คุณพ่อยังหล่อและสมารท์ด้วย
ตาสวยจังค่ะ ขนตายาวเหมือนคุณพ่อเลยนะคะ หนูอายุเท่าไรครับ
เด็กชายหน้างอเริ่มไม่พอใจที่ถูกสาวๆเข้ามารุมล้อมจับแขนจับแก้มเหมือนเห็นเขาเป็นเด็กเล็กๆ
โดยเฉพาะเมื่อถูกเรียกว่า หนู รังสรรค์รู้ว่าลูกกำลังหงุดหงิดแล้วจึงขอตัวพาเดินจากมา
ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะรอย หือ.. พี่เค้าถามดีๆ
ผมไม่ชอบครับ แกล้งชม ไม่จริงใจ เด็กชายบ่นอุบ
รังสรรค์เลิกคิ้วแปลกใจที่ลูกมีความคิดเช่นนี้
ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะลูก
ก็จริงนี่ครับ ผมรู้ว่าสาวๆ พวกนั้นไม่ได้ตั้งใจชมผมหรอก
พวกเค้าจงใจจะมาชมว่าพ่อหล่อต่างหาก อยากจะมาอยู่ใกล้ๆ พ่อ
ผมรู้....
รังสรรค์อดหัวเราะไม่ได้กับความคิดของหนูน้อย
ลูกคิดอย่างนั้นเหรอ พ่อว่าลูกเข้าใจผิดมังครับ
ไม่ผิดหรอกครับพ่อ ผมเห็นกับตา ปากชมผมแต่ตาของสาวๆ พวกนั้นมองพ่อทุกคนเลย
รังสรรค์หัวเราะเสียงดัง เขาเพิ่งรู้สึกผ่อนคลายเป็นครั้งแรกหลังจากที่รู้สึกเครียดอย่างหนักในช่วงสองวันนี้
เด็กชายยังคงพูดต่อแต่ด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้น
อารุตเคยบอกว่าเรื่องผู้หญิง..อาสู้พ่อไม่ได้ ผมไม่อยากเชื่ออา
แต่วันนี้ผมชักจะเชื่อแล้วครับ
เหลวไหล นี่รอยเชื่ออารุตเหรอ อาเขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า
พ่อจะสู้เขาได้ยังไง ลูกเคยเห็นพ่อมีผู้หญิงที่ไหน หือ..
ก็...อารุตสู้พ่อไม่ได้เพราะอาต้องไปจีบผู้หญิง แต่พ่อของผมมีแต่ผู้หญิงมาจีบนี่ครับ
รู้มากนักนะ รังสรรค์ช้อนร่างเด็กชายขึ้น
เป็นเด็กเป็นเล็ก รู้มั้ยว่าที่ลูกพูดมันแก่แดดเกินไปแล้ว พ่อจะเอาลูกไปโยนทิ้งทะเลเลยดีมั้ย
ชายหนุ่มอุ้มลูกเดินไปที่ทะเล
ไม่นะครับพ่อ อย่าทิ้งผมนะ เด็กชายกอดคอพ่อไว้แน่น
ทำยังไงก่อนพ่อถึงจะยกโทษให้
เด็กชายโน้มศีรษะขึ้นไปหอมและจุ๊บแก้มพ่อ กิริยาที่ลูกปฏิบัติทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหดหู่และทุกข์ใจขึ้นมาอีก
เมื่อคิดว่าเขากำลังเผชิญกับความจริงที่อาจจะต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสในอีกสามวันข้างหน้าแล้ว
ชีวิตในอ้อมแขนที่เขารักดั่งแก้วตาดวงใจนี้จะอยู่ในสภาพเช่นไรต่อไปถ้าไม่มีเขา
รังสรรค์หอมแก้มและจุ๊บที่หน้าผากหนูน้อย
รอยครับ พ่อรักลูกเหลือเกิน ลูกรักพ่อคนเดียวจริงหรือเปล่า
รอยงง ! ...อีกแล้วเหรอ... พ่อถามคำถามนี้เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วในวันนี้...
แม้จะสงสัยแต่เด็กชายก็ตอบเอาใจพ่อ
จริงซีครับ ผมรักพ่อคนเดียวจริงๆ ไม่มีใครมาแทนพ่อของผมได้หรอก
ผมไม่มีวันยอมรับใครเป็นพ่อ หรือรักใครอีกนอกจากพ่อรังสรรค์ของผมคนเดียว
ขณะที่พูดเด็กชายก็หวนนึกถึงผู้พันสินชัย รู้สึกทั้งเกลียดชังและหวาดกลัวขึ้นมาทันที
รังสรรค์กอดลูกชายแน่น นึกถึง วิศรุต ผู้ที่รอยกล่าวถึงเมื่อครู่
....ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนรุต.. ทำไมไม่ติดต่อกลับมาเลย รู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันและลูก
ฉันกำลังทุกข์ใจมากเหลือเกิน หัวใจฉันกำลังจะแตกสลายอยู่แล้ว
จะมีใครเข้าใจความรู้สึกฉันนอกจากนาย.... ได้โปรดติดต่อกลับมาก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป...
วิศรุต หนุ่มโสดวัยเดียวกับรังสรรค์
ทั้งสองเป็นทั้งเพื่อนและญาติสนิทกัน วิศรุตเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง
แต่เพิ่งลาออกเพราะปัญหาความขัดแย้งของผู้บริหารภายใน ประกอบกับในช่วงเวลานั้นวิศรุตเป็นหนึ่งในบัญชีผู้ถูกปองร้ายจากผู้มีอิทธิพลที่เสียผลประโยชน์อันเนื่องมาจากการนำเสนอข่าวของเขา
รังสรรค์เป็นห่วงเพื่อนจึงแนะให้เขาหลบไปอยู่เมืองนอกสักพัก วิศรุตจากไปไม่ใช่เพราะเห็นด้วยกับรังสรรค์
เขาไม่ได้หนีการถูกปองร้ายแต่เขาจากไปเพราะเบื่อกับปัญหาวุ่นวายต่างๆ
เขาตัดสินใจจากเมืองไทยไปใช้ชีวิตเพื่อหาประสบการณ์อย่างสันโดษและอิสระในแถบแอฟริกาใต้
โดยเดินทางตะลอนไปเรื่อยๆ ไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่งแน่นอน
วิศรุตจะเป็นฝ่ายโทรติดต่อกลับมาหารังสรรค์เพื่อให้เพื่อนรู้ว่าขณะนี้เขาอยู่ที่ไหน
ซึ่งครั้งสุดท้ายรังสรรค์ได้รับการติดต่อจากวิศรุตว่าอยู่ที่แหลมกู๊ดโฮป
แต่นั่นก็เกือบสองเดือนผ่านมาแล้ว
จนถึงวันนี้กว่าครึ่งปีแล้วที่วิศรุตจากไป ตลอดเวลารังสรรค์ไม่เคยบอกกล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระว่างเขากับรอยให้เพื่อนฟัง
เพราะวิศรุตจากไปได้เพียง 2 เดือนก็เกิดเรื่องขึ้น รังสรรค์ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงเนื่องจากสถานการณ์ของวิศรุตเองยังไม่คลี่คลายในทางที่ดีนัก
หากบอกไปหมอนั่นคงต้องยุติการเดินทางและรีบกลับมาอย่างแน่นอน
เพราะวิศรุตรักรอยมากเหมือนลูกชายคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ถึงขนาดเคยเอ่ยปากขอเด็กชายเป็นลูก...
เสือ.. ฉันขอให้รอยเป็นลูกฉันด้วยได้มั้ย
ทำไมล่ะ นายเป็นอาก็ดีอยู่แล้ว
ก็ฉันอยากจะเป็นพ่อมั่งอ่ะ
นายจะเป็นพ่อได้ยังไง นายจะให้รอยมีพ่อสองคนไม่งงตายเหรอ เอางี้ซี
ถ้านายอยากให้รอยเป็นลูกของนาย มีทางเดียวคือนายต้องเป็นแม่ของลูก
เพราะรอยมีฉันเป็นพ่ออยู่แล้ว
วิศรุตนิ่งไป
ให้ฉันเป็นแม่เหรอ...อืมม์...ก็ได้... ถ้างั้นฉันต้องเป็นเมียนายก่อนนะ
วิศรุตขยับเข้าสวมกอดรังสรรค์พยายามหอมแก้มเพื่อนโดยที่อีกฝ่ายดิ้นรนสุดฤทธิ์
คืนนี้ฉันจะนอนกับนายนะเสือ.. ฉันต้องเป็นของนายให้ได้
ไอ้บ้า!... ปล่อยนะรุต.. เฮ้ย! รอย.. ช่วยพ่อด้วย
เด็กชายนั่งอมยิ้มดูอากับพ่อกอดกันแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข
ภาพนั้นคงไม่มีให้พบเห็นอีกแล้ว...
หลังอาหารเช้าในวันที่สามของการพักผ่อน เด็กชายฉุดแขนพ่อให้เดินไปที่ชายหาดเมื่อออกจากห้องอาหารของโรงแรม
พ่อจ๋า ไปเล่นน้ำกันดีกว่าครับ
เอ่อ.. เช้านี้พ่อไม่อยากเล่นเลยครับ ลูกไปเล่นกับน้ามั่นได้มั้ย
ไม่เอาครับ ผมจะเล่นกับพ่อ
แล้วลูกจะเล่นทั้งชุดนี้เหรอ
ผมใส่กางเกงว่ายน้ำอยู่ข้างในแล้ว
เด็กชายดึงขอบเอวกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่เพื่อให้พ่อเห็นกางเกงว่ายน้ำที่ใส่อยู่ข้างใน
รังสรรค์ต้องยอมแพ้ลูก ขนาดเด็กชายอยู่ในสายตาเขาตลอด แอบใส่กางเกงว่ายน้ำตอนไหนเขายังไม่รู้
แต่พ่อยังไม่ได้เปลี่ยนกางเกงเลย เอาอย่างนี้นะ ให้น้ามั่นพาลูกไปที่ชายหาดก่อน
พ่อจะขึ้นไปเปลี่ยนชุดแล้วตามลูกไปนะครับ
เด็กชายนิ่งคิดก่อนพยักหน้าตกลงแต่ไม่ลืมกำชับพ่อ
เร็วๆ นะครับ ผมจะไปเล่นฝังทรายรอพ่อก่อนนะ
ตกลงครับ
รังสรรค์มองดูเด็กชายวิ่งตามนายมั่นคนขับรถไปที่ชายหาด วันนี้จิตใจเขาไม่อยู่กับตัวเลย
คุณหมอสุรีย์นัดไว้ว่าจะโทรมาแจ้งผลการตรวจดีเอ็นเอกับเขาทันทีที่รู้ผลในเช้าวันนี้
รังสรรค์ดูเวลาที่ข้อมือรู้สึกใจเต้นแรงขึ้น วันนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร
แม้แต่อาหารเช้าเมื่อครู่ก็แทบไม่ได้แตะอะไรเลย จิบกาแฟไปเพียง
2 คำเท่านั้น
ชายหนุ่มเปลี่ยนชุดเตรียมพร้อมจะลงไปเล่นน้ำกับลูก รีรออยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินไปที่ระเบียงห้อง
มองลงไปที่ชายหาดเห็นเด็กชายกำลังง่วนอยู่กับการตักทรายฝังร่างนายมั่น
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกให้ความรู้สึกทั้งทุกข์และสุขกับเขาเหลือเกิน
รังสรรค์เดินกลับเข้ามาในห้องหยิบโทรศัพท์มือถือและเดินไปที่ประตู
ขณะกำลังจะก้าวออกจากห้อง โทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือดังขึ้น
RRRR....
รังสรรค์สะดุ้งใจเต้นแรงเมื่อเห็นเบอร์ผู้ที่โทรเข้ามา ไม่สามารถระงับความตื่นกลัวได้
เดินกลับเข้ามาในห้องยืนทำใจอยู่ชั่วครู่ก่อนกดรับสาย
สวัสดีครับ ผมรังสรรค์..
สวัสดีค่ะ ดิฉันหมอสุรีย์นะคะ
ชายหนุ่มใจหายวาบอีกครั้งไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรเท่านี้มาก่อนในชีวิต
น้ำเสียงที่กล่าวแหบพร่า
สวัสดีครับคุณหมอ ผมกำลังคอยอยู่
ผลตรวจออกมาแล้วนะคะคุณรังสรรค์ หมอเสียใจค่ะ สิ่งที่คุณกังวลเป็นเรื่องจริง
ด.ช.รังสิมันต์ ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ
ไม่ได้เป็นลูกของคุณตามสายเลือด
แต่หมอคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งสำคัญแล้ว ถึงวันนี้ความรักที่คุณและลูกมีต่อกันมันยิ่งใหญ่มากกว่า
จนหมอเชื่อว่าไม่มีใครมาพรากหรือแยกความรักที่มีให้กันได้
เชื่อหมอเถอะค่ะ ฮัลโหล! คุณรังสรรค์คะ ฟังหมออยู่หรือเปล่า....
รังสรรค์รู้สึกเหมือนกำลังถูกศาลสั่งพิพากษาให้ตายทั้งเป็นอย่างช้าๆ
และทรมาน สิ้นสุดประโยคที่ว่า..
รอยไม่ได้เป็นลูกของเขาตามสายเลือด ชายหนุ่มไม่สามารถรับฟังสิ่งที่หมอสุรีย์พูดต่อได้อีก
หูอื้อและชาไปตลอดทั้งร่าง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าไม่สามารถรับความรู้สึกใดๆ
ได้อีก น้ำตาไหลอย่างไม่สามารถอดกลั้นได้ ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดทรมานมากมายเท่านี้มาก่อนในชีวิต
เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่รอยรอพ่อตามลงไปแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา
ในที่สุดเช้าวันนั้นเด็กชายก็ไม่ได้ลงเล่นน้ำตามที่ใจต้องการ นายมั่นพาคุณหนูมาส่งที่ห้อง
เมื่อพบว่าประตูไม่ได้ล็อกก็รู้สึกเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นเจ้านายนอนอยู่บนเตียงก็โล่ง
อก และขอตัวกลับไปยังห้องพักตัวเองซึ่งอยู่ติดกัน
รอยเดินหน้ามุ่ยเข้ามาหาพ่อที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง เข้าใจว่าพ่อต้องเผลอหลับแน่ๆ
ถึงไม่ได้ลงไปเล่นน้ำตามนัด แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็หายหงุดหงิดและรู้สึกแปลกใจกับท่านอนของพ่อคือแขนสองข้างก่ายอยู่บนหน้าผาก
เด็กชายคลานขึ้นไปบนเตียงเรียกพ่อตื่น
พ่อจ๋า... พ่อครับ เป็นอะไร ทำไมไม่ลงไปฮะ
เด็กชายถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้งอแง
กางเกงที่พ่อใส่อยู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นแล้ว แสดงว่าพ่อพร้อมที่จะลงไปแต่อาจมีปัญหาบางอย่าง
ชายหนุ่มยังคงนอนนิ่ง แต่มีคำตอบออกจากริมฝีปากอย่างแผ่วเบาจนหนูน้อยต้องเงี่ยหูฟัง
พ่อขอโทษ รอย... พ่อลงไปไม่ไหว พ่อเจ็บ เจ็บมาก...
ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินทำให้รอยตกใจ เขย่าร่างพ่อและพยายามเอาแขนลงเพื่อให้เห็นหน้าพ่อชัดๆ
พ่อจ๋า.. เจ็บตรงไหนครับ พ่อไม่สบายเหรอ...
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อได้เห็นใบหน้าพ่อชัดๆ
ก็พบว่าพ่อกำลังร้องไห้ พ่อคงจะเจ็บมากจริงๆ.....
พ่อครับ พ่อเป็นอะไร เจ็บตรงไหนฮะ เจ็บมากมั้ย พ่ออย่าเป็นอะไรนะ
ผมจะไปเรียกน้ามั่นพาพ่อไปหาหมอนะครับ เด็กชายขยับจะลงจากเตียงแต่ถูกพ่อดึงแขนไว้
รอย พ่อเจ็บตรงนี้ รังสรรค์จับมือเล็กแนบไว้ที่หน้าอกตรงหัวใจ
พ่อเจ็บข้างใน เจ็บมากเหลือเกิน น้ำใสยังคงไหลออกจากดวงตาผู้เป็นพ่อไม่ขาดสายจนเด็กชายหน้าเสียจะร้องไห้ตาม
เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้เลย
รอยครับ กอดพ่อหน่อย พ่อเจ็บ
รอยซบลงที่อกพ่อและกอดเบาๆ เพราะกลัวพ่อเจ็บ
พ่อครับ อย่าเป็นอะไรนะ พ่อเป็นอะไรแล้วรอยจะอยู่กับใคร
พ่อจ๋า... ฮึก ฮืออ....
รังสรรค์สวมกอดร่างเล็กที่นอนซบอยู่บนตัวเขา รู้สึกว่าลูกสะอื้นอย่างหนักเพราะเสียขวัญ
รีบกล่าวปลอบทั้งที่ตัวเองก็ยังน้ำตาไหล
พ่อไม่เป็นไรลูก อย่าร้องไห้ เดี๋ยวพ่อก็หายเจ็บแล้ว กอดพ่อแน่นๆ
ซีครับ พ่อจะได้หายเร็วๆ
เด็กชายกอดพ่อแน่นขึ้นทันที เพราะอยากให้พ่อหายเร็วๆ เป็นเวลานานทีเดียวที่สองพ่อลูกนอนกอดกันอยู่อย่างนั้น
รังสรรค์ครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียง มีเด็กชายอยู่ในอ้อมแขน
มือใหญ่เสยผมชื้นเหงื่อของหนูน้อยไปมา
พ่อไม่เป็นไรแล้วนะครับ พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกตกใจ
ผมเสียใจครับที่ทิ้งพ่อไว้คนเดียว มัวแต่ห่วงเล่นน้ำ เด็กชายต่อว่าตัวเอง
รังสรรค์อดยิ้มไม่ได้เมื่อลูกชายตำหนิตัวเอง ก้มลงหอมแก้มใสฟอดใหญ่
เดี๋ยวเราลงไปเดินเล่นกันใหม่นะ พ่อไม่เป็นไรแล้ว
ไม่เอาครับพ่อ พักผ่อนดีกว่า เดี๋ยวไม่สบายอีกนะครับ
พ่อหายแล้วลูก รอยพาพ่อไปเดินสูดอากาศที่ทะเลหน่อยซีครับ จะได้หายดีกว่านี้..
เป็นเหตุผลที่ทำให้เด็กชายกุลีกุจอพาพ่อลงไปเดินเล่นที่ชายหาดทันที
รังสรรค์จูงมือรอยเดินเลียบไปตามชายทะเล เล่นหยอกล้อกับลูกเพื่อคลายเครียดโดยแข่งกันกระโดดหนีคลื่นที่ซัดมากระทบฝั่ง
แดดเริ่มแรงขึ้นจนแก้มหนูน้อยเป็นสีแดงเรื่อ รังสรรค์จึงพาลูกเดินเลี่ยงไปนั่งใต้ร่มเงาไม้
มานั่งพักคุยกันก่อนลูก...
สองพ่อลูกทรุดตัวลงนั่งบนพื้นทราย
รอยครับ..พ่อมีเรื่องอยากจะบอก มันอาจจะเข้าใจยากสักหน่อย แต่พ่อเชื่อว่าลูกเข้าใจ...
ครับ
เด็กชายตาแป๋วรับคำพ่อ มือเล็กคว้าทรายขึ้นมาโปรยลงที่ขา
รังสรรค์ลูบศีรษะและเสยผมหนูน้อยไปมาก่อนจะเริ่มอธิบาย
ลูกรู้ใช่มั้ยครับว่าทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ไม่สามารถกำหนดอะไรให้เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการได้ทุกเรื่อง
รอยพยักหน้ารับทราบ เพราะพ่อเคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังตอนที่แม่ย้ายออกไปจากบ้านเมื่อ
3 ปีที่แล้ว
และทุกสิ่งที่เรากำลังเป็นหรือดำเนินอยู่ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจนบางครั้งเราก็ตั้งรับไม่ทัน
แม้สิ่งที่เราคิดว่าดีอยู่แล้วในวันนี้ มันก็อาจจะไม่ดีในวันหน้า
และความสุขที่มีอยู่ในวันนี้ ชั่วเวลาข้ามวันอาจจะกลายเป็นความทุกข์อย่างแสนสาหัส
ความเข้าใจและความพอใจเท่านั้นที่จะทำให้เรารับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโดยทันไม่ตั้งตัวเหล่านี้ได้
เด็กชายยังคงนิ่งฟังอย่างตั้งใจแม้จะเริ่มเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง
สิ่งที่พ่ออยากจะบอกลูกในวันนี้เป็นเรื่องระหว่างพ่อกับลูก เรื่องที่เราเคยคิดตรงกันเมื่อ
3 ปีก่อนว่า.. เราพอใจและมีความสุขแล้วที่ได้อยู่ด้วยกันถึงจะไม่มีแม่ของลูกอยู่ด้วย
และเราก็สามารถอยู่กันสองคนได้อย่างมีความสุขจริงๆ .....
......และเมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมานี้ ระหว่างลูกกับพ่อเราก็ต้องเปลี่ยนความพอใจของเราใหม่อีก
ขอให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันอย่างเต็มที่แค่เพียงสองวันในหนึ่ง
สัปดาห์ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ลูกว่าจริงมั้ยครับ
รอยพยักหน้า เพราะเรื่องที่พ่อพูดเป็นความจริงที่ทั้งพ่อและเขาร่วมเผชิญมาด้วยกัน
แต่ถ้าหากสถานการณ์ในวันนี้ต้องเปลี่ยนไปอีก ลูกกับพ่อก็ต้องปรับความรู้สึกกันใหม่
ลูกคิดว่าจะปรับได้มั้ย รอย..
เด็กชายขมวดคิ้ว
ต้องปรับอะไรอีกหรือครับพ่อ
หากความสัมพันธ์ของเรา เอ่อ... พ่อหมายถึงระหว่างพ่อกับลูก..หากความสัมพันธ์จะต้องเปลี่ยนแปลงไป
ลูกจะรับได้มั้ยครับ
เปลี่ยนอะไรอีกครับ รอยเริ่มไม่เข้าใจที่พ่อพูด
รังสรรค์กลั้นใจบอกกับลูก
เอ่อ.. รอยครับ ลูกคงจะเข้าใจยากสักหน่อย ถ้าหากพ่อจะบอกว่า บางครั้งสิ่งที่เราพบเห็นหรืออยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด
เช่นพ่อกับลูก และเราก็คิดว่าเขาเป็นของเรา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่
เขาเป็นของคนอื่น เอ่อ...
พ่อกำลังหมายถึง...รอยไม่ใช่ของพ่อ ลูกไม่ใช่ลูกของพ่อ เป็นลูกของคนอื่น
รังสรรค์หลุดประโยคสุดท้ายออกมาด้วยความลำบาก มือที่เสยผมลูกชายสั่นระริก
เด็กชายนิ่งไปเพราะรู้สึกงงกับคำพูดของพ่อ
ตั้งแต่เกิดมาผมก็มีพ่อเป็นพ่อแล้ว ผมจะไม่ใช่ลูกของพ่อได้ยังไงฮะ
รังสรรค์พยายามหาคำอธิบายพร้อมกับต้องใช้ความพยายามอย่างสูงสะกดกลั้นความรู้สึก
เอ่อ... พ่อเป็นพ่อของลูกหลังจากที่ลูกเกิดมา แต่ก่อนที่ลูกจะเกิดลูกมีพ่อคนอื่น
สีหน้าหนูน้อยเริ่มเครียดพอจะเข้าใจบ้างแม้จะไม่ลึกซึ้ง รู้สึกสับสนและเสียใจกับเรื่องที่ได้ยิน
ประโยคที่พูดออกมากลายเป็นน้ำเสียงสะอื้น
ผมไม่อยากมีพ่อคนอื่น
รังสรรค์จับศีรษะเด็กชายสบตาดวงตากลมโตที่มีน้ำใสเอ่อรื้นอยู่
ฟังพ่อนะรอย.. ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง ระหว่างพ่อกับลูกจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับลูก นอกเสียจากว่าลูกอยากจะมีพ่อใหม่
ไม่มีทางครับพ่อ ผมไม่อยากมีพ่อใหม่ ผมไม่มีวันยอมให้ใครมาเป็นพ่อผมนอกจากพ่อรังสรรค์ของผมคนเดียว
คำพูดของรอยทำให้น้ำใสไหลอาบแก้มผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
รังสรรค์รั้งร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักและสวมกอดไว้ด้วยความรักสุดหัวใจ
ไม่มีทางเลยลูก พ่อก็ไม่มีวันยอมให้ใครพรากลูกของพ่อไป พ่อสัญญาด้วยชีวิตของพ่อเลย