Miss independent
คำสาบเงือก

ตอนที่ 13

         ตอนที่ 13 เจ้าของหัวใจ

ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดแรง เสียงใบมะพร้าวเสียดสีกันราวกับเสียงโหยหวน ไร้เสียงสัตว์ร่ำร้อง ทุกคนในหมู่บ้านมานั่งรวมตัวกันที่ลานบ้าน ไม่มีเสียงพูดหรือเสียงปรึกษากันทำให้บรรยากาศน่าขนลุกเข้าไปอีก นาฟนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลาง ก้มหัวนิ่ง ข้างๆ เขามีชายชราผมขาวใส่เสื้อคลุมเปิดท่อนบนเผยให้เห็นรอยสักอักขระแปลกๆ ทั้งตัวยืนอยู่ ในมือชายชราถือไม้เท้าปลายโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว ตรงปลายติดกระดิ่ง ตอนนี้กระดิ่งสั่นไปตามแรงลมไม่หยุด เสียงใสเย็นดังก้องไปทั่วอย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปสักพักเมื่อเห็นแสงอาทิตย์ลอดผ่านหมู่เมฆดำ ชายชราก็เริ่มส่งเสียงเอื้อนเป็นทำนองแปลกๆ ก่อนที่ลูกบ้านหลายคนที่นั่งอยู่รอบๆ จะร้องประสานเสียงตามฟังดูคล้ายกับเสียงสวดอะไรสักอย่าง ราวกับปาฏิหาริย์เมฆบนฟ้าหมุนวนเป็นรูปก้นหอยขนาดใหญ่มีลำแสงแปลบปลาบอยู่ตรงกลาง ชายชรายกไม้เท้าขึ้นสูงเมื่อเห็นสายฟ้าฟาดลงมาที่ตรงปลายไม้เท้า...
“ในที่สุดหายนะก็กำลังมาเยือน...” เสียงชราภาพพูดสั่นๆ ไม้เท้าในมือร้อนฉ่า..แต่เขาก็ยังกำไว้แน่น ตาถลนออกมาจ้องมองไปที่นาฟ
“ไม่เกินวันที่พระจันทร์เต็มดวง...คราวนี้...เด็กผมน้ำตาลจะนำเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายมาาาา”
นาฟเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสของเผ่า ใช่แล้วคำทำนายของท่านผ่านอักขระไม่เคยพลาด...ทำเอาคนในหมู่บ้านตัวเกร็ง
“แล้วเราควรจะทำอย่างไรดีล่ะ ท่านเอวอน” เสียงของหัวหน้าหมู่บ้านที่นั่งแถวหน้าดังขึ้น ชายชราที่ถูกเรียกว่าเอวอนเหลือบตามอง
“ข้าเห็นภาพนิมิตร...เรือใหญ่หนึ่งลำ.....คนมากมายพร้อมอาวุธร้าย” ท่านเอวอนหลับตาราวกับจะใช้จิตเพ่งมองภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เสียงพึมพำดังออกมาจากหมู่คนที่นั่ง นาฟไม่ได้ปริปากอะไร แน่นอนเขารักอัล..เขาตัดสินใจที่จะไม่ทำร้ายอัล..แต่เขาก็รักผู้คนในเผ่าเช่นเดียวกัน...
“จงจำไว้...เราจะต้องปกป้องไม่ให้เจ้าพวกบาปหนานั่นเหยียบย่างมาบนแดนสวรรค์นี้ได้....แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต” เสียงท่านเอวอนดังลอดผ่านหูเขา


ชลทิศนอนสั่นสะอื้นอยู่บนเตียงเดียวกับดีเร็ก เขาทั้งเหงาทั้งน้อยใจ เขาไม่เคยคิดแค้นดีเร็ก..ไม่เคยคิดรังเกียจดีเร็ก แต่ทำไมพี่ชายของเขาถึงกลับพยายามถอยห่างจากเขา ญาติเพียงคนเดียวของเขา ระหว่างที่ชลทิศนอนหันหลังให้นั้น เขาก็รู้สึกได้ถึงไออุ่นที่เข้ามาโอบด้านหลัง เขาหลับตาปล่อยให้น้ำตาหยดที่ปริ่มอยู่ไหลลงมา
“นายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะ....” เสียงเบาๆ ของดีเร็กกระซิบข้างหู เขาโอบชลทิศจากด้านหลังแน่นขึ้น “พี่ยังอยู่กับนาย”
ชลทิศพยายามหันตัวกลับมานอนเผชิญหน้ากับดีเร็กในความมืด ดวงตาสองคู่มองประสานกัน...รอยยิ้มบางๆ ฉาบบนหน้าของดีเร็ก
“ร้องไห้เป็นเด็กๆ..ตาบวมไปหมดแล้ว” พี่ชายร่างบางยกนิ้วเรียวแตะที่ขอบตาของร่างตรงข้าม ชลทิศยิ้มออกทั้งน้ำตาก่อนจะพูดสวน
“พี่เองก็ตาแดงน้อยกว่าผมเสียเมื่อไหร่” ความรู้สึกอบอุ่นไหลเข้ามาในหัวใจ
“ผมรักพี่...” เขาหลุดปากพูดออกมาเบาๆ
“พี่ก็รักเธอ” ดีเร็กตอบคำ ยกมือขึ้นลูบปอยผมสีน้ำตาลที่ปรกหน้าร่างตรงข้าม


สัมผัสเมื่อคืนเปรียบดังความฝัน ความอบอุ่นนุ่มนวลที่กอดเขาจนกระทั่งหลับไป..เมื่อตื่นขึ้นมาชลทิศก็พบว่าพี่ชายแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เขาจึงลุกไปเตรียมตัวบ้าง รอยยิ้มบางๆ ฉาบบนใบหน้า เขาอยากให้เวลาหยุดลงแค่เพียงตรงนี้


อลัสเตอร์ ชลทิศ ซิลเวอร์สโตนมองการจัดเตรียมงานของกลุ่มคนที่จะไปกับเรือด้วยดวงตาเลื่อนลอย ลังไม้ปิดผนึกหลายใบถูกขนขึ้นเรือโดยสารขนาดมหึมาของตระกูลกิลกาเมซ เฟอดินานยืนออกคำสั่งอยู่ด้านข้าง
คำพูดของคนพวกนี้จะเชื่อถือได้หรือ
เขากำลังจะนำหายนะไปสู่คนบนเกาะหรือเปล่า...
แต่เขาไม่มีทางเลือก หลายชีวิตที่เขารู้จักขึ้นอยู่กับการตกลงของเขา ปืนกระบอกนั้นที่เขาเอามาจากร่างทนายทิมอนถูกเก็บไว้อย่างดี ไม่มีใครคาดว่าเขามีปืนเก็บไว้ ปืนกระบอกนี้จะช่วยเขาตัดสินอะไรได้มาก...ดีเร็กที่ยืนข้างๆ บีบหัวไหล่เขาเบาๆ
ในช่วงเย็นพวกเขาถูกเชิญให้ขึ้นไปบนเรือใหญ่ เรือลำนี้จะออกเดินทางเลย ไม่มีการรีรอ...ชลทิศตามติดดีเร็กไม่ห่าง..ข้อตกลงของเขาคือต้องการอยู่ห้องเดียวกับดีเร็ก พวกเขาพักด้วยกัน คุยกัน หัวเราะให้กัน..นับเป็นความสุขที่สุดในชีวิตของชลทิศ เขาไม่มีวันยอมให้ดีเร็กต้องถูกทำร้ายจากนายเฟอดินานอีกแน่นอน เฟอดินานเองก็ไม่ค่อยได้เข้ามายุ่มย่ามกับดีเร็กเท่าไหร่ แต่ชลทิศก็เห็นชายผู้เย็นชาคนนั้นเหลือบมองดีเร็กบ่อยครั้ง
คนที่มากับเรือลำนี้มีหลายคน แน่นอนต้องมีหัวหน้าตระกูลกิลกาเมซทั้งสอง หมอซิซิเลีย และผู้ช่วย บอดี้การ์ด พ่อครัว และเหล่าบรรดาลูกเรือร่างใหญ่ๆ อีกหลายคน
เรือลำมหึมาเดินทางตลอดเวลา..เสบียงจัดเตรียมไว้เรียบร้อย ไม่มีการแวะที่ไหน กลิ่นทะเลให้ความคุ้นเคยกับชลทิศ..ความทรงจำต่างๆ บนเกาะหลั่งไหลเข้ามา ทั้งความทรงจำที่ดีและความทรงจำอันเลวร้าย ชลทิศสะบัดหัวหลายๆ ทีเพื่อให้ความทรงจำพวกนั้นหลุดไป แน่นอนในความทรงจำของเขาทุกครั้งต้องมีนาฟ ชายหนุ่มผิวสีแทน ร่างกำยำ หน้าตาหล่อเหลา กับดวงตาสีแดงที่จ้องมาทางเขา!!
“ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นนกทะเลเลยนะ” เสียงเบาๆ ดังออกมาจากปากดีเร็ก ชลทิศสะดุ้ง หันมองไปทางต้นเสียง ดีเร็กยืนเงยหน้ามองท้องฟ้า ลมทะเลพัดผมสีอ่อนปลิวไสว สายตาของชลทิศตรึงอยู่ที่ร่างบางตรงหน้า ใช่แล้ว...ตอนนี้เขามีดีเร็ก พี่ชายที่เขารัก!! แน่นอนเขารักดีเร็ก ชลทิศเดินเข้าไปจับไหล่พี่ชาย
“พวกเราเริ่มออกทะเลลึกแล้ว นกทะเลส่วนใหญ่จะหากินอยู่ริมฝั่ง ยกเว้นนกอพยพเท่านั้นแหละ ถึงจะบินระยะทางไกลๆ” ชลทิศอธิบาย ก้มศีรษะลงไปสูดกลิ่มหอมจากผมของคนข้างหน้า ดีเร็กสะดุ้งนิดหนึ่งเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ
เขาเบี่ยงตัวเล็กน้อยหลบออกมา ชลทิศขมวดคิ้ว
“เอ่อ..พี่..พี่กลับห้องก่อนดีกว่า” เขาเดินเลี่ยงไปที่ประตู ชลทิศถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินตามไป เขาชะงักเมื่อเห็นร่างบางหยุดตรงทางเดิน สายตาของเขาสบตากับดวงตาสีน้ำตาลเย็นชาที่ยืนขวางอยู่ เฟอดินาน กิลกาเมซ
“หึ..พวกเธอนี่สบายอารมณ์กันจริงนะ...มีเวลาชมนกชมไม้เสียด้วย” เขายื่นมือไปที่ดีเร็ก แต่ชลทิศฉุดพี่ชายมาไว้ใกล้ตัวเสียก่อน ดวงตาเย็นชาฉายแววไม่พอใจ
“น้องติดพี่...” เสียงพูดแฝงแววเยาะเย้ย “แต่นายไม่มีวันได้เห็นเหมือนชั้นหรอก” รอยยิ้มเหยียดผุดขึ้นที่ริมฝีปาก “นายเคยเห็นร่างกายของพี่ชายนายยามเร่า...”
“หุบปากกก!!!” ชลทิศตะโกนกลบเสียงของเฟอดินาน เขาชูกำปั้นขึ้นอยากจะตั๊นหน้าไอ้ผู้ชายข้างหน้านัก ถ้าไม่เห็นว่ามีคนอื่นๆ เดินตามหลังมาอีกหลายคน ร่างตรงข้ามหัวเราะอย่างสนุกสนานก่อนจะเดินเบียดผ่านออกไป เขาได้ยินเสียงเฟอดินานพูดเบาๆตอนเดินผ่าน “พี่ชายนายเป็นของชั้น”
ชลทิศกัดริมฝีปากตนเอง ส่วนดีเร็กได้แต่ก้มหน้านิ่ง เขาดึงตัวพี่ชายกลับห้อง


“พี่สมควรจะทำอะไรบ้าง! พี่ควรจะตอบโต้เขาบ้าง” ชลทิศพูดระบายอารมณ์กับตัวเอง ขณะเดินกระทืบเท้าอยู่ในห้อง ใช่แล้วเขาอารมณ์เสีย หงุดหงิดไปเสียทุกเรื่อง
“เธอจะให้พี่ทำยังไง..ยกมือต่อยเขาเหมือนเธองั้นหรือ” ดีเร็กพูดเสียงเย็น
ชลทิศถอนหายใจ “ผมไม่ได้หมายความให้พี่ทำอย่างนั้น..แต่พี่ทำตัวเหมือนกับปล่อยให้เขาพูดดูถูก...”
“ก็พี่มันน่าดูถูกจริงๆ นี่นา ถูกเขาหลอกมาตั้งแต่ต้น...หลงเชื่อคำพูดลมๆ แล้งๆ..หลงรักเขา..” ดีเร็กเสียงสั่น แต่คำพูดท้ายประโยคยิ่งทำให้ชลทิศหัวเสีย
“หลงรักมัน หลงรักมัน!!! ขนาดนี้แล้วพี่ยังพูดว่าหลงรักมันได้อีก” ชลทิศตะโกนเสียงดัง เขากระทืบเท้าเดินเข้าไปหาพี่ชาย ดีเร็กเดินถอยหลังจนกระทั่งไปสุดที่เตียง
“ผมถามพี่เป็นครั้งสุดท้าย พี่ยังรักมันหรือ รักไอ้เฟอดินาน กิลกาเมซนั่น” เขาจ้องตาสีฟ้าใสของร่างตรงข้าม ดีเร็กหลบสายตาไม่ตอบคำ
อาการของพี่ชายยิ่งทำให้ชลทิศหัวเสียยิ่งขึ้น เขานึกไปถึงเหตุการณ์ที่เฟอดินานทำกับดีเร็ก ร่างของพี่ชายยามที่....
“หรือว่าจริงๆ แล้วพี่ชอบ...พี่ชอบสิ่งที่เขาทำกับพี่ใช่ไหม...” ชลทิศแค่นเสียงออกมา ก่อนจะดันร่างบางให้ล้มไปบนเตียง เขารีบขึ้นคร่อมทันที ดีเร็กหน้าเผือดลง
ก่อนที่ดีเร็กจะตอบโต้ ชลทิศก็จูบร่างพี่ชายอย่างหนักหน่วง ในสมองของเขามีแต่คำพูดของเฟอดินาน..
เพียะ!! เสียงตบหน้าดังขึ้น ชลทิศถูกดีเร็กตบอย่างสุดแรง เขาชะงักไปชั่วครู่ เจ็บที่หัวใจมากกว่าที่ถูกตบ ร่างบางน้ำตานองหน้า เหมือนเรียกสติคืนมา ชลทิศสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเดินลงจากเตียงไปนั่งที่เก้าอี้
“พี่ตอบโต้ผมได้..แต่ทำไมถึงไม่ทำกับมัน..ทั้งๆ ที่ผมก็รักพี่”
ดีเร็กพึมพำเสียงเบา “เธอไม่ได้รักพี่แบบนั้น....ถ้าเธอใช้กำลังกับพี่..เธอจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต”
“ทำไมผมถึงไม่ได้รักพี่...!!”
ดีเร็กจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เขาจ้องตาน้องชายตรงๆ
“เธอรักพี่..เพราะพี่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ หรือบางทีก็เพราะหน้าตาของพี่................พี่มันผู้ชายอ่อนแอดูเหมือนต้องมีคนปกป้องตลอดเวลา...” ดีเร็กพูดเสียงเบา
“ไม่จริง!!” ชลทิศเถียงเสียงสั่น ดีเร็กสบตาน้องชายยิ้มบางๆ
“หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอถูกกระตุ้นจากเฟอดินาน...” ดีเร็กหน้าแดง กัดริมฝีปากแน่น “วันที่เธอเห็นพี่กับเขา...........”
“ผมรักพี่..ไม่ใช่เพราะมัน!!” ชลทิศยังยืนยันเสียงแข็ง
ดีเร็กไม่ได้พูดอะไรต่อ...เขาเขยิบไปที่กระเป๋าใบเล็กใส่ของจุกจิกของตัวเอง หยิบอะไรอย่างหนึ่งขึ้นมาโดยที่ชลทิศสังเกตไม่ออก
“หรือบางทีเธอก็ยังไม่รู้ใจตัวเอง...” ดีเร็กพูดช้าๆ เขาแบมือที่กำของนั้นยื่นไปตรงหน้า
ชลทิศอ้าปากค้างเมื่อเห็นของในมือดีเร็ก ดวงตาเป็นประกายด้วยความยินดี
สร้อยคอเขี้ยวฉลามของเขา!!
ชลทิศเอื้อมมือจะเข้าไปคว้า แต่ดีเร็กดึงมือกลับไปอย่างรวดเร็ว
“สร้อยเส้นนี้หมอซิซิเลียให้พี่มา จริงๆ เธอฝากพี่มาคืนเธอ เธอบอกว่าเป็นของสำคัญของนาย ตอนแรกเธอไม่เห็นมัน แต่หลังจากที่นายถามเธอก็เลยกลับไปหาใหม่และพบมันตกอยู่ที่มุมห้อง...” ดีเร็กหยุดสังเกตสีหน้าน้องชาย “ใครให้.....” ดีเร็กถามต่อ
ชลทิศมองสร้อยนิ่ง แน่นอนคนทำให้ไม่สำคัญแต่คนที่สู้กับฉลามตัวนี้ต่างหากที่สำคัญ คนที่เสี่ยงชีวิตสู้กับมัน...สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ
“นาฟ..” เขาเผลอตอบออกมา ดีเร็กชักมือกลับก่อนทวนชื่อไม่คุ้นหู
ชลทิศพึ่งรู้ตัวว่าเขาพูดชื่อนั้นออกไปทั้งๆ ที่ไม่คิดจะเอ่ยมันขึ้นมาให้ใครรู้ เขาไม่เคยพูดเรื่องนาฟกับใครแม้แต่สจ๊วตที่เคยสนิทกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนาฟ
“เขาเป็นใคร..?”
ชลทิศฮึดฮัดเมื่อถูกคาดคั้น ก่อนจะหันหน้าหนี
“เพื่อนที่เกาะ ไม่สนิทเท่าไหร่หรอกน่า..แค่ของที่ระลึก” เขาหลบสายตาพี่ชายไม่ยอมมอง
“งั้นเหรอ ไม่สนิทด้วย...งั้นนี่ก็ไม่น่าจะใช่ของสำคัญสินะ” ดีเร็กยื่นมือออกไปที่หน้าต่างกลมๆ เล็กๆ ข้างเตียง ชลทิศหันขวับทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดหน้าต่าง
“พี่ทำอะไรน่ะ” ชลทิศร้องเสียงหลงเมื่อเห็นดีเร็กปล่อยมือทิ้งของลงไป เขากระโจนไปดึงมือพี่ชายเข้ามาทันที แต่มือของพี่ชายว่างเปล่าไปเสียแล้ว
“พี่ทำแบบนี้ได้ไง...นั่นของๆ ผมนะ” เขาตะโกนใส่ดีเร็กก่อนจะรีบชะโงกหน้าไปที่หน้าต่างเล็กๆ ท้องทะเลกว้างใหญ่ขนาดนั้นจะหาของชิ้นเล็กๆ เพียงชิ้นเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้แน่
“ก็ไม่เห็นเป็นของสำคัญอะไรนี่...แค่สร้อยเขี้ยวอะไรเก่าๆ ก็ไม่รู้ ไม่เห็นมีตรงไหนที่ดูมีค่าเลย” ดีเร็กพูดพลางมองน้องชาย
“ถึงไม่มีค่าแต่มันก็เป็นของของผม!!” ชลทิศพูดเสียงสั่นไม่ยอมหันหน้ากลับ เขานั่งหมดแรงอยู่บนเตียง
“สำคัญกว่าพี่หรือเปล่า” ดีเร็กพูดพร้อมกับเขยิบเข้าไปใกล้น้องชาย ลูบผมสีน้ำตาลเบาๆ ชลทิศไม่ตอบ
เขาอึ้งไปกับคำถามของดีเร็กเหมือนกัน...สร้อยกับพี่ชายอะไรสำคัญสำหรับจิตใจเขามากกว่า เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมให้ความสำคัญกับสร้อยเส้นนี้นัก เลียม่าเคยบอกกับเขาตอนให้สร้อยเส้นนี้ว่านาฟทำทุกอย่างก็เพื่อเขา...

นาฟกับดีเร็ก...

ชลทิศไม่รู้ว่าทำไมถึงเปรียบเทียบพี่ชายตัวเองกับนาฟ ตอนออกจากเกาะมาเขาทั้งแค้นทั้งเกลียดชายคนนั้น...แต่ตอนนี้ความแค้นกับความเกลียดเหมือนหล่นหายไปพร้อมกับสร้อยที่ถูกโยนลงทะเล
หล่นไปพร้อมกับหัวใจ

ดีเร็กรวบผมน้องชายหลวมๆ ก่อนจะโอบมือไว้ด้านหน้า เอนศีรษะไปพิงไหล่ด้านหลังน้องชาย
“พี่เข้าไปตอบปัญหาในหัวใจเธอไม่ได้หรอกนะ....หัวใจเธอเป็นของใครลองคิดดูให้ดี เธอรักพี่แบบไหน”
เสียงออดดังขึ้นมาขัดจังหวะ ดีเร็กจูบขมับของชลทิศเบาๆ แบบเอ็นดู
“ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว...พี่เดินไปก่อนนะ” ดีเร็กลุกลงจากเตียง เปิดประตูเดินออกไป ชลทิศยังนั่งอยู่ที่เดิม น้ำตาซึมขอบตา มือกำสิ่งที่พี่ชายพึ่งคล้องเข้ากับคอให้เขาเมื่อสักครู่ สร้อยคอเขี้ยวฉลามที่ดีเร็กแกล้งทิ้งไปสวมอยู่ที่คอของเขาเหมือนเดิม


หัวใจเขาเป็นของใคร....

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
www.clik.to/miracle
1