Peebee
คู่รสตำรับรักภาค 2

คู่รสตำรับรัก 2
รักไม่ใสของนายบิลลี่
ตอน 5


“Happy Birthday to you..Happy Birthday to Billy”

เสียงซ้อมร้องเพลงวันเกิดดังสนั่น อดัมกับสาวใช้กุลีกุจอจัดโต๊ะเตรียมงานกันมาตั้งแต่เช้าแล้ว
ผมล่ะทึ่งในความขยันของอดัมจริงๆ ผมเป็นเจ้าของงานวันเกิดแท้ๆ ยังดูไม่ตื่นเต้นเท่ากับพ่อบ้านวัยชราคนนี้เลย อาจจะเป็นเพราะอดัมอยากจะให้ผมมีความสุขในงานวันเกิดก็เป็นได้ อดัมดูแลผมมาตั้งแต่เด็ก เป็นคนเดียวที่เรียกได้ว่ารู้ใจผม รู้ว่าผมค่อนข้างขาดความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่
ไฟกระพริบหลากสีห้อยอยู่ตามต้นไม้ทั่วบริเวณสระว่ายน้ำด้านหลังบ้าน กลีบดอกไม้ลอยฟ่องอยู่เหนือน้ำนิ่งในสระดูเป็นบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก พี่พงศ์กับเก่งมาช่วยงานตั้งแต่ตอนบ่าย ส่วนผมนะหรือครับถูกกันไม่ให้วุ่นเพราะทุกคนให้ความเห็นว่างานวันเกิดผมผมไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่รอเซอไพร์สอย่างเดียว
ผมรัวปุ่มบนจอยสติ๊กอย่างเมามันก่อนจะชนะ K.O. ในเกมต่อสู้อย่างงดงาม นี่ผมเล่นมานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ อยู่แต่ในห้องทำไมมันเซ็งอย่างนี้
“เบื่อโว้ย..” ผมกลิ้งตัวไปมาบนพื้นพรมหนา เสียงคุยกันและเสียงหัวเราะดังอย่างสนุกสนานอยู่ด้านหลังบ้าน ผมชะโงกหน้าออกไปมองผ่านหน้าต่าง...หนอย....บังคับให้เรามานั่งอยู่ในห้องคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ดูสนุกสนานกันซะจริง ผมเป็นเจ้าของวันเกิดนะ!!!
ผมอดอมยิ้มกับสิ่งที่เห็นไม่ได้ โต๊ะหลายตัวมีอาหารจัดวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว แถมมีปาร์ตี้ไวน์อยู่หลายกล่อง ไอ้พวกเพื่อนๆ ผมคงจะชอบตรงนี้มากที่สุดแน่
หน้าพี่พงศ์เลอะช็อกโกเลตเต็มไปหมด ส่วนเจ้าเก่งก็เดินตามพี่เขาต้อยๆ สาวใช้หลายคนเข้าไปคุยด้วย เสียงหัวเราะกันดังคิกคัก
พี่พงศ์ผมยาวขึ้นมากจนต้องรวบไว้ด้านหลัง ผิวดูขาวเพราะไม่ค่อยได้ตากแดดเหมือนอยู่ที่เมืองไทย แถมยังดูมีน้ำมีนวลมากกว่าเดิมเสียอีก
ความคิดผมถูกขัดจังหวะขึ้นด้วยเสียงดังโครมของโต๊ะที่ถูกชนเต็มรัก พงศ์ยกเค้กขึ้นมาถือไว้ได้ทัน แต่น้ำในเหยือกที่ตั้งบนโต๊ะกลับหกไปถูกเสื้อที่พงศ์สวมอยู่เต็มที่ ผมเห็นสาวใช้หลายคนวิ่งกันวุ่นพร้อมกับอดัมรีบเอาผ้าเข้ามาเช็ดตัวให้พงศ์ ผมฟังไม่ออกหรอกว่าข้างล่างพูดอะไรอยู่ ได้ยินแต่เสียงโหวกแหวก เห็นพี่พงศ์ส่งเค้กในมือให้เก่งถือก่อนที่จะถอดเสื้อตัวเองออก
Oh my god!! อย่าหาว่าผมลามกคิดอะไรหยาบโลนเลย หน้าผมแดงขึ้นมาไม่รู้ตัว พี่พงศ์คงไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่าทำแบบนี้เป็นอันตรายต่อหัวใจของผู้ชายหลายคน..ผมเอาหัวโขกกับขอบหน้าต่างตั้งสี่ห้าทีก่อนจะตั้งสติหันกลับไปมองใหม่
โชคดีที่ช่วงนี้เป็นหน้าร้อน ริมทะเลแออัดไปด้วยผู้คน อากาศยามนี้จึงไม่เป็นปัญหาที่จะเดินถอดเสื้อ และท่าทางพี่พงศ์คงไม่อยากจะให้มีปัญหามากจึงเอาเสื้อพาดไว้กับเก้าอี้ คงกะจะรอให้แห้งแน่ๆ
ใจผมไม่รู้จะบรรยายยังไงถูก ผิวพี่พงศ์สีขาวอมชมพูไปหมด โดยเฉพาะตรงติ่งเนื้อที่ยืนออกมาเป็นสีชมพูเข้มจัด นี่ขนาดมองไม่ชัดผมยังเกิดอารมณ์จนได้..แล้วเจ้าคนที่อยู่ใกล้เห็นกันจะๆ ล่ะ
ผมพ่นลมออกจมูกเหลือบตาไปมองหาเก่ง..ขนาดผมยังออกอาการขนาดนี้แล้วเจ้าเก่งที่หลงใหลคลั่งไคล้พี่เขาขนาดนั้นจะเป็นยังไง แต่มองหาแล้วหาอีกกลับไม่เห็น...หรือพระอาทิตย์จะหายเข้ากลีบเมฆไปแล้วหว่า..
พี่พงศ์เองก็คงรู้ตัวว่าคู่หูหายไปจึงหันไปมอง ในที่สุดก็เห็นนั่งยองๆ อยู่ที่มุมหนึ่งของสวนซึ่งค่อนข้างลับตา ผมมองตามไปจนแอบอมยิ้ม เจ้าเก่งต้องแย่แล้วแน่ๆ...ฮ่าๆๆๆๆ ผมเอามือกุมท้องตัวเอง น้ำตาเล็ด สมน้ำหน้า...แต่แล้วก็ชะงักไปเมื่อเห็นพงศ์เดินตามเข้าไปหาในชุดเดิม
พี่พงศ์คร้าบบบบบ!!!! ผมอยากจะตะโกนบอกจริงๆ ไม่รู้ว่าพี่ซื่อจนเซ่อหรือไงถึงได้เดินเข้าไปแบบนั้น แถวนั้นมันยิ่งลับตาคนอยู่ (แต่ไม่ได้ลับตาผม)


“เก่ง เป็นอะไรไปนะ ปวดท้องเหรอ” พงศ์เดินเข้าไปหาชายหนุ่มอายุน้อยกว่า เขาเห็นว่าจู่ๆ เก่งก็หายไปแล้วก็มานั่งตัวงออยู่ตรงมุมหนึ่งของสวน ถ้าปวดท้องหรือไม่สบายอะไรจะได้ขอยาจากคนแถวนี้
เก่งเงยหน้าขึ้นมามองนิดเดียวก่อนจะหันหนี
“พะ...พี่อย่าพึ่งเข้ามาได้ไหม” เสียงสั่นเทาดังออกมาด้วยอารมณ์บางอย่าง แต่เจ้าตัวคนถามไม่รู้เรื่องกลับฉุนกึกขึ้นมา
“นี่เก่ง!! ไม่สบายก็บอกมาสิ เป็นอะไรตรงไหนก็บอกมาให้ละเอียด จะได้ช่วยกันรักษาไง” พงศ์เดินดุ่มๆ เข้าไปหาไม่ฟังเสียง
“ว่าไ.....!!...” ยังไม่ทันจะได้ถามพงศ์ก็ถูกร่างที่นั่งอยู่ดึงแบบไม่ตั้งตัวจนล้มไปกับพื้นหญ้านุ่ม แถมร่างที่ทำท่าป่วยเมื่อสักครู่กลับมานั่งคร่อมทับกลางลำตัวของพงศ์อยู่
“เก่ง!!” พงศ์ร้องอย่างตกใจเมื่อรู้สึกตัวว่าอยู่ในท่าล่อแหลมขนาดไหน แถมสายตาเก่งที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่นี่สิ พงศ์พยายามดันตัวลุกขึ้นมา แต่ก็ถูกเก่งกดหน้าอกไว้
“ไหนพี่พงศ์ว่าจะช่วยรักษาผมไง..” เก่งเสียงพร่า มุมปากยิ้มน้อยๆ
“พะ...พี่หมายถึงถ้าไม่สบาย..ปวดหัว..ปวดท้อง..” พงศ์ตอบ สัญชาตญาณเริ่มรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผมก็ไม่สบายจริงๆ...พี่พงศ์คนเดียวรักษาได้...ผมปวด....ตรงนี้” ไม่พูดเปล่ามืออีกข้างกลับรูปซิปกางเกงตัวเองลงจนเห็นกางเกงในสีขาว
ถึงตรงนี้เองพงศ์หน้าแดงแป๊ด...อ้าปากจะต่อว่าทันที...แต่เสียงกลับถูกกลบลงด้วยริมฝีปากที่รวดเร็วยิ่งกว่า


ตั้งแต่ตอนที่พี่พงศ์ถูกฉุดล้มลงผมก็ยิ่งเอาหัวโขกขอบหน้าต่างมากยิ่งขึ้น....ให้ตายสิไอ้ซันนี่!! ด้วยความที่ผมเป็นบรมครูสั่งสอนมันมาจินตนาการผมจึงโลดแล่นไปถึงสวรรค์ชั้นไหนๆ แล้ว...ตั้งแต่ท่ากบไปจนถึงท่าตีลังกาซัมเมอร์ซอลล์...ยิ่งคิดก็ยิ่งโลดโผนไปเรื่อยๆ จนผมทนไม่ไหวหันตัวเองไปหยิบกล่องทิชชู่เข้ามา...นี่ถ้าเก่งมันรู้ว่าผมมานั่งจินตนาการถึงพี่พงศ์ของมันแล้วทำอย่างว่านี่มันจะฆ่าผมไหมเนี่ย....(แต่ขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อย....มันมาทำประเจิดประเจ้อในสวนหลังบ้านผมเองนี่นา)
ดีพคิสแบบที่พงศ์ไม่ทันตั้งตัวทำเอาเขาแทบหมดสติไปกับความรู้สึกแปลกๆ ลิ้นนุ่มๆ สำรวจไปทั่วช่องปาก มือเปล่าสัมผัสกับผิวเปลือย ลูบไล้เบาๆ ยิ่งทำให้พงศ์ขนลุกซู่ เสียงครางลอดออกมาจากริมฝีปากที่ประกบกัน ท่อนล่างเกร็งด้วยความเสียวซ่าน แถมเก่งยังทิ้งน้ำหนักตัวลงมามากยิ่งขึ้น พงศ์รู้สึกถึงความเจ็บของซิบที่บดเบียดช่วงล่างของเขา มันเจ็บนิดๆแต่กระตุ้นอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก
พงศ์ไม่เคยอยู่ในท่าล่อแหลมกับเก่งถึงขนาดนี้มาก่อน หลังจากที่เขากับเก่งจูบกัน พงศ์ก็ไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับเก่งถึงเนื้อถึงตัวมากไปกว่านั้นถึงแม้เก่งจะชอบขอของรางวัลเป็นจูบหรือเป็นหอมแก้มบ่อยๆ ก็เถอะ เขามักจะบอกว่าติดไว้ก่อนเสมอ แล้วยิ่งเป็นช่วงที่ทั้งสองวุ่นกับการเรียนด้วย พงศ์จึงแทบลืมเรื่องนั้นไป
ริมฝีปากร้อนผ่าวของเก่งเลื่อนต่ำลงมา เขาพรมจูบไปทั่ว จนกระทั่งปากเขาเข้าไปครอบครองติ่งเนื้อสีชมพู มือก็ลูบไล้ผิวเนียนของร่างข้างใต้ พงศ์หอบส่งเสียงครางไม่เป็นภาษาออกมาก่อนที่สติจะบอกให้เอามือปิดปากก่อนจะส่งเสียงดังมากกว่านี้
“ผมอยากได้ยินเสียงพี่....” เก่งลากลิ้นไล่ขึ้นมาก่อนจะกระซิบที่หู เขาจูบไล่ที่เปลือกตา แก้มและซอกคอ ก่อนจะกระซิบต่อ
“พี่มีรสเค้กช็อกโกแลตด้วย”
พงศ์อยากจะหัวเราะกับคำพูดของเก่ง จะไม่ให้มีได้ยังไงก็หน้าเขาเลอะแต่ผงโกโก้....
มือของเก่งเลื่อนลงไปปลดเข็มขัดของร่างด้านใต้..เก่งเปลี่ยนท่านั่งทิ้งน้ำหนักมานั่งคร่อมตัวพงศ์ไว้ ก่อนจะพยายามดึงเข็มขัดของพงศ์ออก
“หยุดนะเก่ง!!” พงศ์จับมือของเก่งไว้ เก่งชะงักกึก...ด้วยเพราะอารมณ์ในน้ำเสียง...ไม่ใช่ด้วยความใคร่ แต่เป็นความกลัว!!
เก่งเองก็ตกใจเหมือนกัน...พี่พงศ์ตัวสั่นแถมยังเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้...มือเย็นเฉียบ
“มะ..ไม่เอานะ...อย่าเข้ามานะ!!” พงศ์ร้องออกมา
“พี่พงศ์ครับ...นี่ผมนะครับ..เก่งนะครับ ไม่ใช่คนอื่น” เก่งจับไหล่พร้อมพงศ์เขย่า จนพงศ์เริ่มบังคับตัวเองได้ เขาหันไปมองหน้าร่างตรงข้าม
“เก่งหรือ...”
เก่งดึงพร้อมพงศ์เข้าไปกอด..อารมณ์อย่างว่าหายไปหมด ผ่านไปสักพักพงศ์พยายามจะลุกขึ้นยืน
“พี่ปวดหัวนิดหน่อย...ขอเข้าไปในบ้านนะ” พงศ์ลุกขึ้นปัดเศษใบไม้ออกพร้อมกับจัดกางเกงให้เรียบร้อย เก่งได้แต่มองตามพงศ์ที่เดินเข้าบ้านไป
ใช่สิ!! พี่พงศ์เกือบถูกไอ้ฝรั่งนั่นข่มขืนเมื่อตอนไปเที่ยว แถมเมื่อกี้เขาคงจะไปกระตุ้นจิตใต้สำนึกอะไรบางอย่างให้พี่พงศ์ไปนึกถึงเหตุการณ์นั้นเข้า...
เก่งได้แต่นั่งกุมขมับอยู่ที่เดิม...ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกปวดหัวจริงๆ ขึ้นมาแล้วสิ

ของขวัญหลายกล่องถูกวางไว้บนโต๊ะ อดัมยืนเรียงอยู่ด้านข้าง กล่องที่ใหญ่ที่สุดเป็นของพ่อกับแม่ ซึ่งเจ้าตัวคนให้ก็ไม่ได้มาให้ด้วยตัวเอง พวกเขาส่งพัสดุด่วนมาให้ ผมเองก็รู้อยู่แล้ว..นี่ขนาดวันเกิดครบรอบยี่สิบปีนะเนี่ย ตอนแรกก็บอกว่าจะมาอยู่ฉลองด้วยกัน แต่แล้วก็ติดงานมาไม่ได้อีก...
ตอนนี้เพื่อนๆ ทุกคนมาครบกันหมดแล้ว..รวมถึงน้อง “คอฟฟี่” ที่ผมตั้งฉายาให้ไว้ก็มาด้วย ดูน้องเขาตื่นเต้นกับขนาดของบ้านผมพอสมควร
“โห พี่บิลลี่นี่ลูกคุณหนูจังเลยนะครับ บ้านใหญ่ยังกะวัง ไม่น่าเชื่อเลย” น้องแมทธิวอุทานออกมา ท่าทางตื่นเต้น
“นั่นสิ..ธรรมดานะ..ทำตัวเหมือนเด็กข้างถนนเลย ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย” แพทริกพูดต่อ ผมแอบมองตาขวางๆ
แพทริกชวนแมทธิวมาพร้อมกับเพื่อนๆ อีกสามสี่คน ที่เขามางานนี้ไม่ใช่เพราะสนิทสนมกับบิลลี่มากมายอะไรหรอก..แต่อยากมาเพราะอยากจะเจอกับเก่งที่มันคลั่งไคล้ใหลหลงต่างหาก บิลลี่เองก็ไม่ได้อยากให้แพทริกมาสักเท่าไหร่..แต่ถ้าแพทริกไม่มา ใครจะชวนน้องแมทธิวมาละ...
แต่ไหนๆ น้องเขาก็มาแล้ว..ผมจะเริ่มจีบวันนี้แหละ...ยิ่งดูยิ่งน่ารัก..(น่าฟัดอีกด้วย)
“อะแฮ้ม..อืม..เขาเรียกว่าทำตัวธรรมดาต่างหากละ..ทำตัวแบบนี้ผมก็มีเพื่อนเยอะกว่าใครบางคนก็แล้วกันนะครับ” ผมพูดย้อนๆ ก่อนจะผายมือออก เชิญชวนทุกคนทานอาหาร พร้อมกับหันไปยิ้มให้แมทธิว
อดัมกับคนรับใช้หญิงชายหลายคนเริ่มยกเครื่องดื่มออกมาบริการ พ่อบ้านคนเก่งเริ่มพูดโฆษณาถึงอาหารที่นำมาทำ
“เนื้อพวกนี้นะครับ..ทำมาจากเนื้อแช่แข็งของบริษัทแมกโดนัลล์ ซึ่งถึงแม้จะแช่แข็งแต่ทำด้วยกรรมวิธีที่ผ่านการรับรองแล้ว เนื้อจะถูกรักษาเสมือนกับของสดใหม่เลยนะครับ รับรองได้ว่ารสชาติเหมือนของสดเชียว อร่อยหวานนะครับ แม้แต่ภัตตาคารเลื่องชื่อก็ยังเลือกเนื้อของบริษัทเรา”
สำหรับคนกินวัยรุ่นทั้งหลาย ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจว่าเนื้อเป็นเนื้ออะไรชั้นดีแค่ไหนหรอก..เมื่ออาหารวางลงเป็นชุดๆ ก็ถูกมะรุมมะตุ้มกันเข้าไปชิม เสียงของอดัมจึงไม่มีใครสนใจฟังเลย แต่พ่อบ้านก็ยังภูมิใจในการบรรยายสรรพคุณของอาหารแช่แข็งอยู่นั่นเอง
ผมที่ยืนตักอาหารคู่กับแมทธิวอดหัวเราะกับท่าทางของพ่อบ้านชายผู้ซื่อสัตย์คนนี้ไม่ได้
“อ๋อ..บ้านของพี่บิลลี่ทำกิจการอาหารแช่แข็งนี่เอง...ยี่ห้อนี้ผมก็เคยซื้อนะครับ..คุณภาพเขาดี..แต่ว่า..เอ่อ..”
“แต่ว่าแพงไปหน่อยใช่หรือเปล่า” ผมต่อให้ แน่นอนของคุณภาพดีก็ย่อมราคาแพงตามคุณภาพของ แล้วยิ่งเป็นนักเรียนต่างประเทศที่ต้องมาอยู่ที่นี่คงจะมีเงินทุนจำกัด
“ผมไม่ได้ว่าของพี่ว่าแพงนะครับ..เพียงแต่ว่า..เวลาผมซื้ออะไรก็จะซื้อที่ถูกที่สุดไว้ก่อน” แมทธิวพูดหน้าแดงนิดๆ
“แหม..พูดตรงๆแบบนี้แหละพี่ชอบ..ถือว่าจะได้เอามาใช้ปรับปรุงไง..ไว้ยังไงวันหลังก็มาที่บ้านพี่บ่อยๆสิ..ไว้พี่จะลองให้เนื้อแช่แข็งตัวอย่างไปลองชิม..แล้วบอกด้วยนะว่าเป็นยังไง” ผมยิ้มหน้าบาน พยายามหาโอกาสชักชวนน้องผิวสีแทนตรงหน้ามาบ้านบ่อยๆ
“จริงนะครับ...ขอบคุณมาเลยนะครับ พี่บิลลี่” แมทธิวหันมายิ้มหวานให้ผม ทำใจผมแทบละลาย น้องคนนี้ยิ้มสวยจริงๆ ให้ตายสิ !!
ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง แสงไฟที่อยู่รอบๆ สระก็ดับลงพร้อมๆกัน รอบตัวมืดไปหมด ทุกคนเริ่มส่งเสียงเอะอะ แต่แล้วเสียงเพลงเบาก็ดังมาจากแถวๆ ประตูหลังของบ้าน อดัมพร้อมกับคนรับใช้เริ่มร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ประสานเสียงกันดังขึ้นเรื่อยๆ
แสงไฟจากเทียนยี่สิบเล่มที่ตั้งอยู่บนเค้กส่องประกายโดดเด่นออกมาจากประตูหลังบ้าน พี่พงศ์ประคองเค้กก่อนใหญ่ออกมา โดยมีเก่งเดินตามหลังมาด้วย พี่พงศ์วางเค้กไว้บนโต๊ะที่เตรียมไว้พอดีกับเพลงที่ร้องจบ
“เป่าเค้กเลยบิลลี่ เป่าเลย..เอ้า” เพื่อนๆส่งเสียงเชียร์เมื่อเพลงจบ ผมสูดลมหายใจลึกๆ ก่อนจะเป่าพรวดเดียวดับหมด เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับเสียงเฮและเสียงเป่าปาก แสงไฟรอบสระก็กลับมาสว่างเหมือนเดิม
เก่งยืนอยู่ด้านหลังของพร้อมพงศ์ มองร่างพี่ชายที่เขานับถือด้วยความรัก..เขาเดินตามพี่พงศ์ไปนั่งพักในบ้าน เขาผิดเหมือนกันที่ไปจู่โจมพี่เขาแบบนั้น..แต่พี่พงศ์ก็ช่างไม่รู้จิตใจเขาบ้างเลย รอจนกระทั่งพี่พงศ์สงบใจได้สักพัก ก่อนจะนัดแนะกันเรื่องเอาเค้กออกมาตามเดิม
“คิดถึงนายจังเลย...ซันนี่!!” แพทริกเดินยิ้มร่า แทบจะวิ่งโผเข้าไปกอดเจ้าของชื่อที่เรียก ดีที่ร่างยักษ์ตะโกนเรียกชื่อเขาขึ้นมาก่อน เก่งจึงเบี่ยงตัวหลบทัน แค่นั้นไม่พอยังยกเท้าขึ้นเกี่ยวร่างยักษ์ที่โผเข้ามาด้วย แพทริกหน้าทิ่มลงสระน้ำอย่างยั้งไม่อยู่
“ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..” เสียงหัวเราะของคนรอบข้างดังขึ้น เนื่องจากทุกคนเริ่มเมาๆ กันแล้ว
“เฮ้ย..แกร้อนหรือไงวะ..อากาศก็ยังไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่นี่หว่า” ทอมตะโกนถาม
“ผมช่วยดึงนะครับพี่” แมทธิวน้องชายที่แสนดี รีบก้มไปยื่นมือให้แพทริกจับ แต่ด้วยที่น้ำหนักตัวต่างกันมากแมทธิวจึงดึงแพทริกไม่ขึ้น แถมมีใครก็ไม่รู้ที่แมทธิวไม่รู้จัก พลักเขาเสียหลักไปอีก เขาจึงโถมลงน้ำตามแรงดึงของแพทริกไปอีกคน
“เฮ้ยยย” ผมร้องของตกใจเมื่อเห็นน้องสุดน่ารักของผมลงน้ำไปเสียแล้ว ไอ้พวกนี้นี่เมาแล้วชอบหาเรื่องจริงๆ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็เลย ถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่บ้าง ก่อนจะวิ่งไปที่สปริงบอร์ดที่อยู่อีกฝั่ง
“ตอนนี้ท่านบิลลี่ จะทำการกระโดดน้ำโชว์ด้วยท่าลังกาหน้าห้าตลบนะครับ...” ผมตะโกนก่อนจะเอามือบีบจมูก กระโดดสองขาหน้าลงมาท่าธรรมดา
ทุกคนหัวเราะร่า...ในที่สุดงานเลี้ยงวันเกิดก็จบลงด้วยการกระโดดลงเล่นน้ำในสระ

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1