Peebee

Message in the bottle

ตอนที่ 3

รถจิ๊บคันใหญ่บรรทุกหกชีวิตดูเล็กไปถนัดตา ดักลาสขับกลับไปที่บ้านของมิเกล แต่ทุกคนไม่ได้เข้าไปเพราะไม่อยากรบกวนแม่ของมิเกลที่ป่วยอยู่ มิเกลพาดักลาสกับพวกไปนั่งด้านนอกที่มีม้านั่งยาวกับโต๊ะวางไว้ แม้จะมีกลิ่นคาวปลาคละคลุ้ง แต่ดักลาสก็ไม่ได้ว่าอะไร จริงๆเขาไม่ได้รังเกียจกลิ่นคาวนักเพราะชอบกินอาหารทะเลอยู่แล้ว แถมน้องชายตัวดีก็ชอบลากออกไปตกปลาอีก เพราะเขาต้องเป็นคนจ่ายค่าน้ำมัน
"โทษนะฮะ...กลิ่นแรงไปหน่อย" มิเกลขอโทษขอโพย ก่อนจะหยิบแก้วน้ำมาบริการทุกคน
"ไม่เป็นไร...ธรรมชาติดีออกชั้นชอบ" ดักลาสพูดยิ้มๆ มิเกลถูกชะตากับดักลาสทันที"ชั้นแค่จะมาเยี่ยมแล้วก็นัดเวลานะ..." ดักลาสพูดต่อก่อนจะแนะนำแจ๊กกี้กับพอลให้มิเกลกับกาเร็ทรู้จัก
"น้องมิเกลนี่น่ารักจริงๆเลยนะคะ....ตาโต๊โต...เหมือนตุ๊กตาเลย" แจ๊กกี้เอ่ยชม มิเกลยิ้มอายๆ
"ถ้าไม่รังเกียจพี่ขอสัมภาษณ์มิเกลวันพรุ่งนี้เลยได้ไหมคะ ส่วนวันอื่นจะได้มีเวลาให้มิเกลนำเที่ยวที่นี่หน่อย"
"ได้สิครับ...ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ยังไงก็ได้ เพียงแต่ว่าพี่กาเร็ท..." มิเกลยิ้มกว้าง ก่อนที่จะหันไปหากาเร็ท กาเร็ทยิ้มให้
"ไม่มีปัญหาหรอกมิเกล ไม่ต้องไปช่วยพี่ขนอุปกรณ์ก็ได้ ทางนี้สำคัญกว่า" กาเร็ทบอก ธรรมดาเขาขนเองคนเดียวก็ได้ เพียงแต่ให้มิเกลไปช่วยจะได้ให้เงินเล็กๆน้อยๆ
"ขอบคุณครับทุกคน" มิเกลดีใจจนน้ำตาซึม ก่อนจะลุกขึ้นขอตัว
"ขอโทษนะครับ ผมต้องไปเตรียมอาหารเย็นให้แม่กับพ่อก่อน ไว้ยังไงพรุ่งนี้เจอกันนะครับ" มิเกลโค้งก่อนเดินเข้าบ้านไป ก่อนจะผลุบหายเข้าไปก็อุตส่าห์โบกมือมาทางพวกดักลาสอีกด้วย
"คุณกาเร็ทนี่ถ้าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับอโซเรสดีเหมือนกันนะครับเนี่ย..." ดักลาสชวนคุย
"ก็พอตัวครับ ผมมาทุกปี รู้ว่าวิวตรงไหนสวยตรงไหนไม่สวย" กาเร็ทพูดเรียบๆ ถึงแม้ท่าทางมิเกลจะชอบหนุ่มหล่อคนนี้ แต่ว่าเขาไม่ค่อยถูกชะตะแฮะ อาจจะเป็นเพราะแววตาพราวระยับที่ชอบมองมาทางเขาต่างหาก
"พรุ่งนี้ผมจองตัวลูกหาบของคุณกาเร็ทเสียแล้ว..คุณกาเร็ทจะมาดูเขาสัมภาษณ์ด้วยก็ได้นะครับ" ดักลาสชวน
"ผมว่าคงจะแวะมาดูๆแค่ช่วงเช้า...แล้วก็คงจะออกไปถ่ายรูปต่อ" กาเร็ทบอก "ถ้ายังไงไม่มีอะไรผมก็คงจะกลับบ้านแล้ว"
"คุณอยู่โรงแรมอะไรครับ"
"ผมไม่ร่ำรวยขนาดอยู่โรงแรมสี่ห้าเดือนหรอกคุณ ผมเช่าบ้านชาวบ้านแถบนี้อยู่ ราคาไม่แพงเท่าไหร่" กาเร็ทบอก
"งั้นผมไปส่งให้ก็แล้วกันนะครับ...ไหนๆก็รู้จักกันแล้ว..อุปกรณ์คุณก็เยอะแยะเดินไม่สะดวกหรอกครับ" ดักลาสกระตือรือร้นมาก กาเร็ทยักไหล่นิดหนึ่ง ก่อนมองอุปกรณ์กระเป๋ากล้องใบใหญ่พร้อมทั้งขาตั้งกล้อง
"ขอบคุณครับ"


วันต่อมากาเร็ทมาหามิเกลเกือบสิบโมงเช้า ปรากฏว่าการสัมภาษณ์เริ่มไปบ้างแล้ว ดักลาสมอบเช็คให้มิเกลเรียบร้อย เจ้าหนูยกขึ้นอวดกาเร็ท
"มิเกลต้องไปเปิดบัญชีกับธนาคารก่อนนะ...แล้วเอาเชคไปเข้า จากนั้นค่อยพาแม่ไปหาหมอ" กาเร็ทแนะนำ เมื่อเห็นว่าเชคนั้นสั่งจ่ายในชื่อมิเกลโดยตรง
"ครับ คุณแจ๊กกี้กับพอลบอกว่าจะพาผมไปพรุ่งนี้" มิเกลบอก ก่อนจะถามต่อ "แล้ววันนี้กาเร็ทจะไปไหนล่ะฮะ"
"ก็คงแถวนี้แหละ ไม่อยากไปไกลเท่าไหร่ ไว้มิเกลว่างแล้วเราค่อยนั่งเรือไปเกาะอื่นกัน" กาเร็ทบอกมิเกลพยักหน้ารับคำ
"สวัสดีครับ มาแล้วเหรอครับกาเร็ท" ดักลาสเข้ามาทักทาย
"แต่จะไปแล้วครับ มิสเตอร์เบอร์เรย์" กาเร็ทตัดความ
"เรียกดักลาสเฉยๆก็ได้ครับ ผมยังเรียกคุณว่ากาเร็ทเฉยๆเลย...เรียกเหมือนมิเกลแหละครับ" ดักลาสขำ จริงๆเขารู้สึกเหมือนกันว่ากาเร็ทเคืองเขาที่เรียกกาเร็ทเฉยๆ เลยยกมิเกลขึ้นมาอ้างซะเลย
"วันนี้ผมขอเป็นผู้ติดตามคุณกาเร็ทได้ไหมครับ...คุณกาเร็ทรู้จักที่นี่ดีน่าจะนำเที่ยวผมได้" ดักลาสถาม กาเร็ทอ้าปากค้าง
"อ้าว แล้วคุณไม่ทำงานเหรอครับ"
"งานนั่นของแจ๊กกี้กับพอลเขา งานผมแค่มอบเงินให้ก็เสร็จเรียบร้อย ยิ่งถ้าผมอยู่พวกนั้นอาจจะเกร็งจนถามไม่ออกก็ได้" ดักลาสอมยิ้ม มองหน้าประหลาดใจของฝ่ายตรงข้าม อยากเอื้อมมือเข้าไปจับแก้มแดงๆนั่นจัง
"ก็ให้ลุงฮวนพาไปสิครับ" กาเร็ทยื่นไม้ตาย ไปกับคนอื่นพอว่า แต่จะให้ไปกับดักลาสรู้สึกเหมือนไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้
"โธ่คุณ ลุงฮวนเขาเป็นล่าม ต้องอยู่ช่วยสัมภาษณ์อยู่แล้ว มิเกลเองก็ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ หรือว่าคุณไม่อยากไปกับผมบอกตรงๆก็ได้" ดักลาสยื่นไม้ตายบ้าง...แถมหันหน้าไปหามิเกล เจ้าหนูก็ใจเสีย
"พี่กาเร็ทฮะ...ยังไงก็ช่วยพาคุณดักลาสไปหน่อยก็ได้นี่ฮะ...พี่กาเร็ทรู้จักแถบนี้ดีกว่าคนที่นี่บางคนเสียอีก แถมพูดกันรู้เรื่องด้วย" มิเกลอ้อนวอน เอาละสิ กาเร็ทยิ่งแพ้หน้าตาน่ารักนี่ด้วย
"เอ่อ...พี่ไม่ได้รังเกียจนะ เพียงแต่ว่าพี่ไปถ่ายรูป...กลัวว่าคุณดักลาสจะรำคาญนะ" กาเร็ทพึมพำ จะให้บอกได้ยังไงว่ากลัวสายตาหมอนี่
"ไม่เป็นไรครับ...ผมทำงานด้านนิตยสารการบันเทิงอยู่แล้ว เรื่องนี้ผมชอบไม่รำคาญหรอกครับ" ดักลาสยิ้มดีใจ
ในเมื่อเจ้าตัวเขาบอกว่าชอบ กาเร็ทจะปฏิเสธออกได้ยังไง ในที่สุดเขาก็เลยต้องลากภาระหนักใจชิ้นใหญ่นี่ไปด้วย


กาเร็ทมัวนั่งคิดอะไรเพลินเลยไม่ได้ใส่ใจว่าดักลาสขับรถพาไปไหน กว่าจะรู้ตัวออกปากถามดักลาสก็ขับรถมาตั้งนานแล้ว
"นี่คุณจะไปไหนนะ..." กาเร็ทงงๆ
"ก็คุณไม่ได้บอกผมนี่ว่าจะไปไหน เห็นนั่งเงียบตลอดทาง ผมก็แค่ขับไปเรื่อยๆ ถนนนี้เมื่อวานผ่านมาแล้ว...ไหนๆก็ไปดูอนุสาวรีย์โคลัมบัสก็แล้วกันนะครับ แล้วคุณจะไปไหนต่อก็ค่อยบอกผม" ดักลาสยิ้ม กาเร็ทได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
อนุสาวรีย์โคลัมบัสเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ว่าโคลัมบัสเคยแล่นเรือแวะมาที่นี่หลังจากกลับจากสเปนในเดินทางค้นหา 'โลกใหม่' ใกล้กับอนุสาวรีย์มีโบสถ์เล็กๆตั้งอยู่ การ์เรทบอกว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในอโซเรส
"บรรยากาศดีจังนะครับ...มาพักผ่อนหลังจากทำงานหนักทั้งปีทีนี่ก็ดีเหมือนกัน" ดักลาสพูด พอเขาหันไปดูกาเร็ทก็เห็นว่าเตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูปอยู่
"อ้าว..จะถ่ายที่นี่ด้วยเหรอครับ นึกว่าจะไปที่อื่นต่อ"
"ก็ดีกว่าอยู่ว่างๆ...ที่ซานต้า มาเรียนี่มีจุดสวยๆไม่กี่จุด วันนี้ผมก็ไม่ได้กะจะไปไหนไกลอยู่แล้ว ไหนๆมานี่แล้ว ก็ถ่ายรูปที่นี่ไปซะด้วยเลย" พูดไม่ทันจบเขาก็ได้ยินเสียงดังแชะ พอหันไปดูก็เห็นดักลาสถ่ายรูปเขาอยู่
"นี่คุณ...ถ่ายรูปผมเหรอ ผมไม่ได้อนุญาตสักหน่อย" กาเร็ทพูดเคืองๆ แต่คนถ่ายทำหน้าไม่รู้เรื่อง
"ผมถ่ายวิวครับ บังเอิญตรงที่คุณกาเร็ทยืนวิวมันสวยดี ติดคุณกาเร็ทไปด้วยไม่น่าจะว่ากันนะครับ"
"ทีหลังจะถ่ายวิวด้านหลังก็บอกผมก่อนก็ได้ ผมจะหลบให้..." กาเร็ทตาขวาง ไอ้หมอนี่กวนจริงๆ
"แต่ที่จริงคุณกาเร็ทเอาแต่ถ่ายคนอื่น ให้ผมลองถ่ายคุณบ้างก็น่าจะดีนะครับ คุณกาเร็ทออกจะหน้าตาดี.." ดักลาสชมตรงๆ แววตายิ้มๆ คนถูกชมหน้าเริ่มแดง
ไอ้หมอนี่นอกจากกวนแล้วยังหน้าด้านอีกด้วย....
"แต่บังเอิญผมถ่ายได้แต่กล้องปัญญาอ่อนด้วยสิ คงไม่เป็นปัญหานะครับ..." ดักลาสชูกล้องพร้อมพูดยิ้มๆ กล้องปัญญาอ่อนสำหรับคนระดับดักลาสก็เป็นกล้องดิจิตอลชั้นดีราคาโขอยู่
"ยิ้มหน่อยสิครับบบบ ชีสสสสส" ดักลาสพูด กาเร็ทก็ดันบ้าจี้ยิ้มออกไปก็เพราะขำกับคำพูดของดักลาสนั่นแหละ
"รูปนี้สวยมากเลยครับ.." ดักลาสบอก กาเร็ทยิ้มหุบ
"สวย ใครสวย ผมไม่ชอบให้ใครชมว่าสวยนะ"
"เอ่อ....ผมหมายถึงรูปครับ..." ดักลาสแก้ตัว กาเร็ทรู้สึกเหมือนหน้าแตก "แต่จริงๆนายแบบก็สวยครับ" ดักลาสพูดยั่ว อันนี้เขาพูดจริงๆ เขารู้สึกว่ากาเร็ทยั่วสนุกดี กาเร็ทเป็นคนชอบแสดงออกทางสีหน้า โมโห ดีใจ หรือว่าอายก็ดูออกหมด เป็นสเน่ห์ที่ดูน่ารัก แถมเวลายิ้มเขาก็รู้สึกว่าโลกสดใสขึ้น
"คุณ ลบรูปไปเลยนะ...." กาเร็ทเดินเข้าไปจะแย่งกล้องในมือ ดักลาสชูสูง กาเร็ทเตี้ยกว่าดักลาสประมาณคืบหนึ่งอยู่แล้วจึงเอื้อมไม่ถึง เขาพยายามเขย่งแต่ก็ยังไม่ถึงอยู่ดี จึงเข้าไปชิดดักลาสมากขึ้นโดยไม่ทันได้สนใจ ใบหน้าสวยห่างจากดักลาสนิดเดียว สายตามัวแต่มองกล้อง ข้างฝ่ายคนแกล้งตอนนี้เริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว...หน้าตาแบบนี้ไม่ให้เรียกว่าสวยจะให้เรียกว่าอะไรฟะ...ถ้าหล่อมันต้องแบบเขามากกว่า แถมแก้มใสๆก็อยู่ห่างจากเขานิดเดียว ดักลาสก้มไปขโมยหอมแก้มคนสวยหนึ่งที
กาเร็ทหยุดกึก เขาสัมผัสได้ถึงริมผีปากที่ผ่านแก้มเขาไป...แต่คนขโมยหอมกลับทำเป็นไม่รู้เรื่องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ผมขอเก็บไว้ดูนะครับ อย่าลบรูปของผมเลย เดี๋ยวผมเปิดรูปให้ดู" ดักลาสพูด กาเร็ทสังเกตมองสีหน้าคนพูด ไอ้หมอนี่มันตั้งใจหรือว่าไม่ได้ตั้งใจวะเมื่อกี้...
เขาหันหลังเดินกลับไปที่อุปกรณ์ของเขาทันที ไม่สนใจรูปที่ดักลาสจะเปิดให้ดูแล้ว ถ้ากังวลมากเดี๋ยวไม่ได้งานพอดี เขาทำหูทวนลมกับเสียงเรียกเขา คนเรียกก็เลยไปยืนบังด้านหน้ากล้องซะเลย
"นี่คุณ! ผมจะถ่ายรูปนะ มายืนบังอย่างนี้ผมจะถ่ายได้ยังไง"
"ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คุณกาเร็ทช่วยถ่ายรูปผมให้สักรูปสองรูปสิครับ...ผมมันไม่ใช่มืออาชีพ ออกมาคงไม่สวยเหมือนมืออาชีพเท่าไหร่"
กาเร็ทกดชัตเตอร์ที่กล้องตัวเองไปสองที ก่อนจะบอกว่า
"เสร็จแล้ว! หลบๆไปสักทีผมจะทำงานแล้ว"
"ฮ้า...แค่นี้เหรอครับ ไม่วัดแสงดูมุมให้ผมหน่อยหรือ มุมไหนหล่อบ้าง"
"ก็บอกว่าให้ถ่ายก็ถ่ายให้แล้ว อยากถ่ายให้หล่อโน่น นายพอลช่างกล้องส่วนตัว...มืออาชีพเหมือนกัน" กาเร็ทโบกมือไล่ คราวนี้ดักลาสเดินไปโดยดีเพราะเห็นว่ากาเร็ทเคืองเต็มที แหย่มากกว่านี้เดี๋ยวจะทะเลาะกันเสียเปล่าๆ เขาจึงเดินมองความสวยงามของวิวรอบตัว...บางทีก็เหลือบมองกาเร็ทเป็นระยะๆ กาเร็ทตอนนี้อยู่ในโลกส่วนตัวไปเสียแล้ว เดินไปมาระหว่างกล้องกับมุมที่จะถ่ายตลอด ยกมือขึ้นกะนู่นกะนี่...ดักลาสมองอย่างสนใจ กาเร็ทอายุเท่าไหร่นะ ดูๆน่าจะไม่ต่างจากเจ้าน้องชายตัวดีเท่าไหร่...แต่ความรับผิดชอบเรื่องงานนี่ต่างกันแยะเลย...พอนึกถึงตอนนี้ก็หัวเราะมุมปาก เจ้าอาชเลย์จะโวยวายขนาดไหนนะถ้าไปเห็นงานที่สุมรวมๆกันไว้ของเขา....

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1