School party
วุ่นรักงานโรงเรียน
ตอนที่ 7
แน่นอนสำหรับวันที่เพื่อนๆต้องมาที่บ้านนั้น
เซนเตรียมตัวไว้อย่างดี เขาสั่งให้แช่มเอาบิ๊กเบนไปฝากที่บ้านคุณตาคุณยายที่อยู่ด้านในสุด
พวกผู้ชายไปแต่งตัวกันที่บ้านของเซนส่วนผู้หญิงก็ไปที่บ้านของเต๋า
ก๊อก ๆ ๆ เสียงเคาะประตูที่เริ่มถี่ขึ้นจนแทบจะกลายเป็นทุบ คิงยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
"เฮ้ย....ไอ้เซน แกเข้าไปตายในห้องน้ำหรือไงวะ เกือบสองชั่วโมงแล้วนะโว้ย"
เขาตะโกนผ่านประตูห้องน้ำ บ้านของเซนมีห้องน้ำสองห้อง ชั้นล่างเพื่อนเขาก็ใช้อยู่
เสียงน้ำจากฝักบัวดังไหลไม่หยุดเขาจึงแทบไม่ได้ยินเสียงตอบ แต่แล้วจู่ๆประตูห้องน้ำก็เปิดออก
ไอน้ำลอยมากระทบหน้าคิง เขาก็แทบลืมหายใจเมื่อเห็นเซนยืนขมวดคิ้วอยู่หลังประตู
ที่รอบเอวพันผ้าขนหนูผืนไม่ใหญ่นักไว้
ท่อนบนหยดน้ำยังเกาะพราวอยู่ทั่วตัว ลำคอคิงแห้งผาก พูดอะไรไม่ออก
กลืนน้ำลายอย่างลำบาก
"เพราะแกทีเดียว...." เสียงพูดลอดไรฟันดังออกมาจากปากคนตัวเล็ก
คิงฟังไม่ค่อยถนัดเขายืนตะลึงบวกกับงงอยู่
"ทำไม..."
"ชั้นสระผมเป็นสิบรอบจนยาสระผมหมดขวดผมชั้นก็ยังมันย่องอยู่อย่างนี้..."
เซนพูดอย่างโมโห ชี้ไปที่หัวตัวเอง คิงจึงเข้าใจ ก็เค้กแบบถูกๆมันมีแต่ครีม
ใครไม่เคยก็ลองเอาเค้กมาทาผมดูก็จะรู้เองว่าล้างออกยากขนาดไหน เขาใส่หมวกว่ายน้ำเอาไว้จึงไม่ค่อยเลอะเทอะเท่าไหร่
แต่เซนโดนไปเต็มๆ คิงหัวเราะออกมาแบบอดไม่ได้
"แก๊....แกไปซื้อยาสระผมมาให้ชั้นใหม่ขวดนึงเดี๋ยวนี้เลย..!!
ถ้าหัวชั้นไม่หายมันเมื่อไหร่แกอย่าหวังจะได้อาบต่อชั้นเลย"
เซนพูดอย่างโมโห คิงได้แต่หัวเราะวิ่งลงไปชั้นล่าง
แม่ของเซนรับอาสาแต่งหน้าให้พวกหนุ่มๆ..เธอทำงานด้านวงการบันเทิงจึงชอบการสังสรรค์
เห็นเด็กๆสนุกกันเธอจึงขอร่วมด้วย พวกผู้ชายไม่ค่อยต้องแต่งหน้ามากเท่าไหร่
บางคนจึงเดินกลับไปที่โรงเรียนให้ช่างแต่งหน้าของโรงเรียนแต่งหน้าให้
"แม่ครับ โปะให้หนาๆหน่อยสิครับ...มันเล่นบทกระเทย" เสียงเซนกำกับผู้เป็นมารดา
"นี่...นายเซน รู้รึเปล่าเครื่องสำอางพวกนี้นะแพงนะ...ถ้าหมดเมื่อไหร่แม่จะหักค่าขนมเธอ..."
คุณแม่พูดปนรำคาญเจ้าลูกชายจึงได้แต่ยืนนิ่ง
"เอ้า ดีรึยัง" คุณแม่หันมาถามเซนหลังจากพยายามแต่งหน้าให้คิง
เธอจับคางชายหนุ่มหันซ้ายหันขวาเพื่อดูความเรียบร้อย
"ก็เกือบได้แล้วครับ...ได้แววให้มันไปแสดงละครลิงแล้ว"
เซนพูดหน้าตาย แต่ก็ถูกแม่ตีดังเพี้ยะ
"หนอย...มาบอกว่าฝีมือแต่งหน้าของแม่เหมือนละครลิงงั้นเหรอ...เพื่อนหน้าตาออกจะหล่อ
ดันไปให้เล่นบทกระเทย" แม่พูด เซนได้แต่ยืนลูบขา คิงแอบยิ้ม
"แม่...ลูกชายของแม่ก็หล่อไม่แพ้มันเหมือนกันนะ...ทีผมไม่เคยเห็นชม!!"
เซนพูดอย่างน้อยใจ แม่มองค้อนนิดๆ
"จ้า...อย่างเซนนะเค้าเรียกว่าน่ารักมากกว่า แบบพวกนักร้องวัยรุ่นหน้าหวานน่ะ
มามะ...มาให้แม่แต่งหน้าให้ต่อหน่อย" แม่ดึงเซนลงมานั่งบนเก้าอี้ที่คิงพึ่งลุก
เซนพยายามปฏิเสธ
"ไหนบอกว่าเครื่องสำอางแพงไง" เซนพูดเคืองๆ
"เอาน่า...สำหรับลูกสุดหล่อของแม่...เดี๋ยวจะหาว่าลำเอียงแต่งให้คิงคนเดียว
ดูฝีมือเจ้าของโรงละครลิงหน่อย" พูดจบแม่ก็ตบแป้งฝุ่นลงไปบนหน้า
เซนแทบจะสำลักออกมา
"เอาละครับ การแสดงเปิดเวทีชุดแรกเป็นการรำนพเก้าของนักเรียนชั้นมัธยมปลาย
ส่วนการแสดงชุดต่อไปเป็นการแสดงของนักเรียนชั้นมัธยมปีที่หนึ่งห้องห้าและห้องหก
ชื่อชุด ฟลามิงโกแดนซ์ครับ" เสียงประกาศชัดเจนดังมาจากปากพิธีการหนุ่มบนเวที
พิธีกรสาวที่ยืนคู่กันเริ่มบอกจำนวนนักแสดงและชื่อ เสียงตบมือต้อนรับดังไปทั่วสนาม
เมื่อพิธีกรประกาศเสร็จก็กลับเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ข้างเวที
"โห ไอ้ธี แกดูหล่อเป็นบ้าเลยว่ะ" เสียงใสๆทักมาจากด้านหลังเวที
ชลธีหันหลังกลับไปมองหน้าเจ้าเพื่อนคู่หูที่ส่งเสียงเรียก เขาเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน
"แก..ไอ้เซน..แกก็ดูดีเป็นบ้าเหมือนกัน" ชลธีมองหน้าเพื่อนรัก
สายตาเขาแทบไม่ละไปจากหน้าเซน เซนหน้าแดงบ่นอุบอิบ
"ดูดีตรงไหน...จะลบก็ถูกแม่ขู่...ไม่ยอมให้ลบ แถมบอกว่าจะมาดูละครด้วย"
"ก็ดู...อืม...น่ารัก" ชลธีพูดตรงๆ เซนยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่
เขาทุบแขนเจ้าเพื่อนตัวใหญ่ดังปึก คิงที่เดินตามเข้ามามองอย่างเคืองๆ
ทีเขาชมละก็ทำหน้าบอกบุญไม่รับ แต่พอเจ้าธีชมทำเป็นหน้าแดง
คุณแม่เซนแต่งหน้าลูกชายตามสไตล์ของเธอ
เมื่อเซนส่องกระจกเข้าก็ถึงกับอ้าปากค้าง
"แม่..............ม่...ทำไมทาลิปสีส้มให้ผมล่ะ!!! แถมปัดแก้มสีนี้อีก!!!
ไม่เอานะ" เซนพูดเสียงดัง คุณแม่ได้แต่มองเคืองๆ
"ห้ามลบนะ...ถ้าแม่จับได้ว่าแอบไปลบละก็จะหักค่าขนม...ทำไม
ไม่ดีตรงไหน สีพวกนี้เหมาะกับเซนที่สุดแล้ว เชื่อแม่สิ...พวกนักร้องวัยรุ่นน่ะแต่งหน้าจัดกว่านี้อีก...จริงไหม
คิง" ประกาศิตที่ออกมาจากปากของมารดาทำเอาเซนสะอื้น แถมหันไปหาเสียงสนับสนุนเป็นเจ้าคู่ปรับเขาเสียอีก
"จริงๆครับ...ผมว่าเซนก็เหมาะกับสีพวกนี้จริงๆด้วย...น่ารักครับ"
คิงพูดออกมาอย่างจริงจังมองหน้าคนถูกชม
"เห็นไหม เพื่อนเขาก็บอกว่าน่ารัก..."
"เจ้าหญิงเสด็จแล้วจ้าาาาา" เสียงแหลมของปุ๊กดังมากระทบโสตประสาทของทุกคน
พอหันไปมองตาม ก็เห็นเหล่าบรรดาสาวๆตัวประกอบพร้อมกับเจ้าหญิงจัสมินเดินเยื้องย่างเข้ามา
เต๋าถักเปียไว้ด้านหลัง เธอสวมเสื้อกั๊กสีฟ้าปักเลื่อมแพรวพราวพร้อมกับกางเกงพองๆสีม่วงอ่อน
"ว้าว...สวยจังเจ๊...เอ๊ย...เต๋า" เซนอดชมออกมาไม่ได้...เต๋ายิ้ม...คิงเองก็อึ้งไปเหมือนกัน...เต๋าแต่งหน้าแต่งตัวสวยแบบที่เขาคิด...แต่ทำไมถึงรู้สึกลังเลแปลกๆไงก็ไม่รู้เมื่อมองญาติหนุ่มของเธอไปพร้อมกัน
"เอ..แล้วตอนแสดงน่าเกลียดนะทำยังไงเหรอ" คิงถามขึ้นมา
ปุ๊กควานเข้าไปในตะกร้าของเธอหยิบอะไรขึ้นมาโชว์ให้ทุกคนดู
"นี่ไง หูดกับไฝปลอม ก่อนแสดงก็ติดที่ตัวแขนแล้วก็หน้า....พอตอนสวยก็ค่อยดึงออก"
เธออธิบายกรรมวิธีของเธอให้ฟัง
ชลธีหันไปมองเห็นพิธีกรสาวรุ่นน้องทำสัญญาณมือให้เขาเตรียมตัวออกไปพูดเพราะการแสดงใกล้จะจบชุดแล้ว...ชลธีจึงขอตัวเพื่อนๆเดินออกไป
การแสดงชุดหลังสามทุ่มจะเป็นการแสดงที่กินเวลาไม่ต่ำกว่ายี่สิบนาทีในแต่ละชุด
ชลธีจึงมีเวลามานั่งคุยกับเพื่อนหลังเวที เพื่อนบางคนก็ลงไปนั่งดูการแสดงที่ด้านล่างของเวที
เสียงเด็กๆรุ่นน้องกับผู้ปกครองหัวเราะกันร่วนอยู่ด้านล่างเมื่อการแสดงชุดเงือกน้อยและยอดมนุษย์ออกมา
เงือกน้อยสวมวิกผมสีทองยาวลากพื้น แถมแต่งหน้าจัดมาก ส่วนยอดมนุษย์แต่งตัวคล้ายๆกับซุปเปอร์แมนบวกกับพวกหนังขบวนการ
ที่ว่าแต่งตัวคล้ายซุปเปอร์แมนก็เพราะมันนุ่งกางเกงในตามสีของแต่ละคนไว้ข้างนอก..ไม่รู้ไปหามาจากไหน
สีแดง สีเขียว แล้วก็สีเหลือง
"ไม่มีอะไรผิดพลาดนะ...เสียง ฉาก ไฟ เรียบร้อยนะ" ชลธีอดไม่ได้ถามย้ำขึ้นมา
"จ้า...ไม่มีพลาด ปุ๊กเตรียมไว้หมดแล้ว นี่เทป แล้วนี่ก็หูดปลอม
ใครปวดฉี่หรือว่าจะไปทำธุระหนักเบาก็รีบๆไปกันนะ มีเวลาอีกสิบห้านาที"
เธอหันไปบอกเพื่อนๆที่กำลังซ้อมกันอย่างขมักเขม้น ถึงจะซ้อมกันมาหลายสิบเที่ยวก็เถอะ
แต่แสดงจริงๆก็ตื่นเวทีเหมือนกัน
"อืม ผมว่าจะไปห้องน้ำด้วยเหมือนกัน" ชลธีบอกขึ้นมา ทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนในการแสดงชุดนี้เลย
"เต๋าก็ว่าจะไปด้วยเหมือนกัน" เต๋าที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องลุกขึ้นมาบ้าง
ปุ๊กแอบมากระซิบถาม
"ไม่ตื่นเวทีแน่นะหล่อน...ถ้าผิดอะไรก็อย่าวิ่งลงเวทีไปล่ะ
เสียงมันก็อัดไว้แล้ว" เธอเตือนเพื่อนสาว เต๋าพยักหน้า
เสียงตบมือดังก้องเมื่อการแสดงชุดเงือกน้อยใกล้จะจบ
อาจารย์ให้สัญญาณมือเพื่อเตือนให้พิธีกรเตรียมลุกจากที่นั่ง พิธีกรสาวรุ่นน้องพยายามมองหาชลธี
"พี่ธียังไม่มาอีกเหรอคะ..ใกล้เวลาออกแล้วนะ" เธอพูดอย่างกังวล
มองซ้ายมองขวา ชลธีไปนานกว่าปกติ
"นั่นสิ เต๋าก็ด้วย หายไปไหนกันสองคน"
แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชลธีอุ้มเต๋ามาทางหลังเวที
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!" ปุ๊กถามเสียงแหลมปรี๊ด เธอทำตาโต
ชลธีเองก็หอบฮักๆ
"ก็เต๋านะสิ เดินอีท่าไหนไม่รู้ตกบันได ท่าทางข้อเท้าจะเคล็ด"
เขาวางเต๋าลงบนเก้าอี้ สาวน้อยก้มลงกุมข้อเท้าตัวเองทำท่าเจ็บปวด
เพื่อนๆเองเข้ามารุมล้อม
"ต้องพาไปหาหมอก่อนหรือเปล่านี่..." เซนพูดอย่างเป็นห่วง
เขามองญาติสาว แต่เต๋าส่ายหัว
"ไม่ได้หักหรอก..ไม่น่าจะต้องถึงหมอ อาจจะแค่เคล็ด...แต่ตอนนี้เดินไม่ไหวน่ะ"
เธอพูดเสียงสั่น ปุ๊กได้แต่ยืนกุมหัว
"ตาย ตาย ตายแน่...แล้วละครห้องล่ะ....จะเริ่มอยู่แล้วนะ"
เธอยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่เมื่อชลธีถูกคู่พิธีกรลากออกไปหน้าเวทีเพื่อประกาศละครชุดสุดท้าย...
"เอาผู้หญิงตัวประกอบคนอื่นเล่นแทนไปก่อนก็แล้วกัน" เพื่อนชายบางคนแนะนำ
"ชั้นไม่แน่ใจว่าจำบทได้รึเปล่านะ...ตำแหน่งที่ต้องยืนชั้นก็ไม่รู้"
เพื่อนสาวพูดพร้อมส่ายหัว พวกตัวประกอบมักไม่ค่อยได้ไปซ้อมพิเศษกับพวกที่มีบทมากมายนัก
"ให้เซนเล่นแทนก็แล้วกัน" เต๋าหันไปจ้องหน้าเซน คนถูกเสนอชื่อยืนอ้าปากค้าง
คิงเองก็อึ้งไปแบบคาดไม่ถึงเหมือนกัน...
"ได้ไง...ผมเป็นผู้ชายนะ..จะไปเล่นได้ไง" เซนพูด
"ก็ดีนะ..เซนหน้าก็คล้ายๆเต๋า แถมเป็นคนเขียนบทด้วยก็ต้องจำบทได้อยู่แล้ว
แถมยังไปดูการซ้อมเกือบทุกครั้ง" ปุ๊กพูดอย่างครุ่นคิด เพื่อนๆเริ่มสนับสนุน
เซนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
"ไม่ได้หรอก...เจ้าหญิงอะไรผมสั้นกุดแบบนี้ ใครดูก็รู้ว่าไม่ใช่
แล้วผมก็มีบทของตัวเองด้วย" เซนใช้มาตรการสุดท้าย
"บทแกมันแค่บทเดินผ่าน ไม่ต้องมีก็ได้!!"
"โอ๊ย อะไรทำไมมันวุ่นวายแบบนี้นะ...ไม่ได้ก็ต้องได้ ไม่มีเวลาแล้ว
หาผ้าอะไรมาคลุมๆก็แล้วกัน" ปุ๊กพูดอย่างเร่งร้อน ชลธีประกาศรายชื่อนักแสดงใกล้หมดแล้ว
"ชั้นไม่รู้ล่ะ พวกเธอสองคนไปหลบหลังเวทีนั่นเปลี่ยนชุดกันก่อนก็แล้วกัน
เอาเพื่อนผู้หญิงไปช่วยดูช่วยบังด้วย" ในที่สุดเซนก็ถูกลางกึ่งบังคับไป
ยังดีที่ฉากแรกไม่ใช่ฉากของเต๋า เป็นฉากเปิดตัวของกระเทยอาละดินกับแม่เลี้ยง
เพื่อนๆก็เลยมีเวลาจับเซนเปลี่ยนชุดกับเต๋า ชลธีเองก็มองอย่างเป็นห่วง
เซนเดินออกมาด้วยชุดที่เต๋าใส่เมื่อสักครู่ เซนสูงกว่าเต๋าเล็กน้อยกางเกงก็เลยดูสั้นไปนิด
แถมด้านบทก็ดูแฟบไปหน่อย เพื่อนๆก็เลยหาทิชชู่มายัด เต๋าเองก็อยู่ในชุดของเซน
"เออ ใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า..เสียอย่างเดียวเรื่องผม."
เพื่อนชายหลายคนเริ่มมองผลงานของตัวเอง..
"นี่...นี่ ชั้นได้ของดีมาแล้ว" โจตัวประกอบวิ่งเข้ามาพร้อมกับของสีทองอร่ามในมือ
"วิกผม" เขายื่นส่งไปให้เซน
"เฮ้ย...เจ้าหญิงแขกที่ไหนผมทองว่ะ...เขามีแต่ผมดำ" เซนอุทธรณ์
"ผมทองก็ยังดีกว่าผมกุดล่ะวะ...เนี่ยกูอุตส่าห์ไปยืมมาจากอีเงือกน้อยห้องหนึ่งนะโว้ย"
เพื่อนๆบังคับให้เซนสวมวิก แถมเริ่มเอาหูดปลอมมาติดให้ที่หน้าอีก
เซนได้แต่ถอนหายใจ
เพลงเปิดตัวเจ้าหญิงจัสมินเป็นเพลงของไมเคิล
แจกสัน ที่ชื่อเพลง ทริลเลอร์ เพื่อนชายที่เป็นตัวประกอบแต่งตัวแต่งหน้าคล้ายๆกับผีซอมบี้
เต้นเป็นฉากหลัง เซนไม่ได้ซ้อมเต้นฉากนี้มาก่อนก็เลยเต้นเงอะๆงะผิดจังหวะตลอด
แต่กลับดูเข้ากับบทบาทเจ้าหญิงน่าเกลียด เพื่อนๆที่อยู่หลังเวทีหัวเราะชอบใจกันใหญ่
เต๋าที่นั่งดูอยู่เองก็อดหัวเราะไม่ได้ เธอนั่งอยู่ตรงมุมหลังเวที
ที่มองออกไปเห็นบทเวทีได้ชัดเจน ชลธีเองก็เข้ามานั่งข้างๆ เพื่อนคนอื่นได้แต่วิ่งวุ่นผ่านไปมา
"หายเจ็บไปบ้างหรือยัง" ชลธีที่ว่างจากการประกาศถามขึ้นมา
"ก็ค่อยยังชั่วไปบ้างแล้ว แต่พอลงน้ำหนักมันยังเจ็บอยู่นะ"
เต๋าตอบ สายตายังมองการแสดงอยู่
"จัสมิน...ตรงนั้นอันตรายมาเดินตรงนี้ดีกว่า"
คิงฉุดมือเซนที่เล่นบทเจ้าหญิงจัสมินเข้ามาโอบ เซนได้แต่คร่ำครวญในใจ
บทที่เพิ่มเข้ามากลายมาเป็นบทเขา แถมมันมีแต่บทจัสมินกับอาละดินจับมือบ้าง
ไม่ก็กอดบ้าง...แถมคนเล่นเป็นอาละดินมันก็อินเสียจนเซนขนลุก ทำไมมันจับแน่นอย่างนั้นว่ะ
!! แถมเวลาโอบทีก็แทบจะกอด ตอนมันมองก็เล่นเอาเสียวสันหลัง ไม่ใช่เต๋านะโว้ย!!!
ทำไม้ทำไมเขาถึงโชคร้ายอย่างนี้ ตั้งแต่ถูกแม่จับแต่งหน้า ต้องมาแสดงแทนเต๋า
มันจะมีอะไรโชคร้ายกว่านี้ไหมเนี่ย
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดด" เสียงร้องโหยหวนราวกับผีถูกข้าวสารเสกตอนที่อาละดินขอพรจากหม้อวิเศษให้เจ้าหญิงจัสมินกลับมาสวยเหมือนเดิม
เซนวิ่งเข้ามาหลังเวทีเพื่อถอดหูดปลอมตามตัวออกก่อนที่จะกลับขึ้นเวทีไปใหม่
เขาเองก็โล่งใจไปโขเมื่อการแสดงใกล้จะจบแล้ว
"ขออวยพรให้เจ้าหญิงจัสมินกับอาละดิน อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข"
เสียงอวยพรดังขึ้นท่ามกลางพิธีแต่งงาน ตอนนี้อาละดินเป็นแมนเต็มตัวแล้ว
คิงลบเครื่องสำอางที่แต่งจนหนาออก ทารองพื้นลวกๆไว้แทน แต่ก็ยังดูดีกว่าตอนแต่งหน้าเป็นลิงเหมือนตอนต้นๆ
คิงกับเซนเดินจับมือกันผ่านไปที่ตรงกลางเวที...ไฟสปอร์ตไลท์ส่องมาที่ทั้งสองคน
ใกล้จะจบแล้ว ใกล้จะจบแล้ว...เซนคิดในใจ แต่แล้วจู่ๆ เสียงเพลงในเทปก็เปลี่ยนไป...เป็นเสียงเจ้าหญิงจัสมินพูดขึ้นมาแทน
"อาละดินคะ....ในที่สุดพวกเราก็แต่งงานกันเสียที.." เซนงงเพราะจำไม่ได้ว่าเขาเคยเขียนบทพูดนี้ลงไปด้วย
มองหน้าคู่เล่นก็เห็นมีสีหน้าประหลาดใจเหมือนกัน แต่เขาก็ได้แต่ทำปากพะงาบๆไปตามเรื่อง...
"ช่วยจูบจัสมินเป็นพยานรักหน่อย..." เซนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินบทพูดต่อไป....มีเสียงโห่เชียร์ดังมากจากล่างเวที
ไฟยังส่องอยู่ที่ทั้งสองคน
เพื่อนหลังเวทีก็งงเหมือนกัน ปุ๊กโวยวายใหญ่
"ตายแล้ว....นี่มันเกิดอะไรขึ้น...พวกเราไม่ได้อัดกันตรงนี้ไม่ใช่เหรอ...ทำไมมันมีบทแบบนี้ด้วย"
เธอพูดอย่างงงงวย
ชลธีที่นั่งข้างๆก็ตกใจไปกับความวุ่นวายด้วย เขาเหลือบมองเต๋าที่ยิ้มมุมปากอยู่
ลางสังหรณ์แปลกๆก็ตามมา
"เต๋า...เธออย่าบอกนะว่าไม่รู้เรื่อง...เธอเจ็บจริงๆหรือเปล่า"
เต๋าหันมายิ้มให้ ยักไหล่ ยังดีที่ทั้งสองคนนั่งอยู่ในมุมมืด เพื่อนจึงไม่ได้สังเกตเท่าไหร่
"แหม..อะไรๆก็มาโทษแต่เต๋า...ปุ๊กอาจจะหยิบเทปผิดไปหยิบเทปที่เต๋าขอให้อัดเพิ่มมาจากห้องอัดก็เป็นได้...เพียงแต่เทปของเต๋า
เต๋านึกสนุกเพิ่มบทพูดตอนจบไปเอง" เธออธิบายคร่าวๆ ชลธีตาเหลือก...อย่างปุ๊กนะเรอะจะหยิบผิดถ้าไม่มีคนจงใจเปลี่ยนเทป
ชลธีมองเต๋าแบบไม่เชื่อถือ เต๋าได้แต่ถอนหายใจ
"เฮ้อ โดนจับได้ซะแล้ว...ก็เซนนะอยากแกล้งเต๋าก่อนทำไม...จู่ๆก็เอาบทเจ้าหญิงน่าเกลียดมาให้เล่น
ใครจะไปเล่นกันเล่า" เธอพูดออกมาลอยหน้าลอยตา
ชลธีกัดฟันกรอดๆ มิน่าตอนที่เซนบอกบทที่ต้องเล่น เต๋าจึงไม่ได้แสดงกิริยาอะไร
ทั้งๆที่เขานึกว่าระเบิดจะลง นี่ยิ่งกว่าระเบิดลงอีก นิวเคียร์เลยมากกว่า
ตายแทบทั้งห้อง
"แต่ก็เล่นกันจนจบได้ไม่ใช่เหรอ..เซนเล่นดีกว่าเต๋าอีกนะ ดีแล้วเต๋าเองก็ไม่อยากให้เซนกับคิงต้องเป็นคู่กัดกันจนจบม.ปลาย..เล่นละครด้วยกันสักเรื่องความสัมพันธ์จะได้ดีขึ้น"
'แต่บทที่เธอเพิ่มเข้าไปมันไม่ได้แค่ให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นอย่างเดียวนะ!!'
ชลธีได้แต่คิดในใจ ไม่กล้าเอ่ยออกมา นี่แหละนิสัยเต๋า ทำอะไรคนเดียว..
"อีกอย่างเต๋าไม่ได้อยากเล่นบทแบบนี้กับคิงสักหน่อย เต๋ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว"
"ใครเป็นชายหนุ่มผู้โชคร้ายกันเนี่ย" ชลธีถามเล่นๆตามประสาเพื่อน
เต๋าถอนหายใจ
"นี่...นายแกล้งโง่หรือว่าซื่อบื้อจริงๆกันเนี่ย...ใครละที่ชั้นอุตส่าห์เข้าไปแอบหึงตอนที่คุยกับเด็กห้องอื่น..ใครกันละที่เวลาไม่สบายชั้นก็อุตส่าห์ลากไปหาหมอ"
"เร็วๆสิคะ อาละดิน" เสียงพูดในเทปดังขึ้นมาอีก เซนทำหน้าบอกไม่ถูกอยู่กลางเวที
เจ้าคิงก็โอบเอวไว้ไม่ยอมปล่อย แถมทำท่าจะดึงเขาขึ้นไปอีกแนะ เฮ้ย..หรือว่ามันจะทำจริงต่อหน้าประชาชีทั่วโรงเรียน!!!!
หน้ามันใกล้เข้ามาแล้ว
พรึบ..จู่ๆไฟก็ดับไปทั่วทั้งเวที ความมืดเข้าปกคลุมชั่วขณะ เสียงคนนั่งชมอุทานกันทั่ว
ผ่านไปเกือบนาทีทุกอย่างก็เป็นปกติ นักแสดงหายไปจากเวทีหมดแล้ว ชลธีกับพิธีกรคู่เดินออกมาประกาศปิดงาน
เสียงตบมือดังก้อง
"เป็นไงบ้าง.." เพื่อนๆได้แต่มองเซนกับคิงที่วิ่งเข้ามาหลังเวที
เหงื่อตก
"ยังดีนะ ที่โจไปขอให้เขาดับไฟที่เวที แก้ปัญหาไปได้หน่อยหนึ่ง
ในที่สุดก็จบซะที" เพื่อนคนอื่นมองอย่างหมดกังวล คิงเดินเข้าไปหาเต๋าถามอาการเจ็บ
เต๋ามองเขายิ้มๆก่อนจะลอยหน้าลอยตาพูดเบา
"ลิปสติกสีส้มเปื้อนปากแนะ"
เซนได้แต่ยืนหอบอยู่ ยกมือถูปากตัวเอง ไม่จริ้งงงงงงง
ถึงมันจะแป๊ปเดียวก็เถอะ..แต่มันจูบเขาจริงๆ!! ตอนไฟดับเขานึกว่ามันจะหยุด
วิ่งกลับเข้าหลังเวที แต่ที่ไหนได้มันกลับใช้ความรวดเร็วก้มลงมาจูบเขาท่ามกลางความมืด
ปุ๊กสรุปว่าอาจจะมีใครแอบมาแกล้งอัดเทปต่อจากที่มี..ไม่มีใครสงสัยเต๋าเพราะถ้าเต๋าไม่เจ็บขาบทนั้นก็ต้องเป็นบทที่เต๋าต้องเล่น..ชลธีเองก็ไม่กล้าบอกใคร
"กลับบ้านไหวแน่นะเต๋า" เพื่อนถามอย่างเป็นห่วง
"โธ่ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เซนกับธีก็กลับด้วย บ้านก็อยู่แค่นี้เอง"
เธอโบกมือลาเพื่อนๆ
"ผมช่วยเดินไปเป็นเพื่อนจนถึงบ้านก็ได้" คิงเสนอตัว เพื่อนๆหลายคนก็โห่ขึ้นมา
"โห แกควงเจ้าหญิงสองคนเลยนะโว้ย"
คิงได้แต่ยิ้มยักไหล่
หลังจากเดินออกมานอกโรงเรียนได้สักพัก เต๋าก็บอกเซนว่า
"ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ...เต๋าคิดว่าเดินเองได้ไม่ต้องมีคนพยุงแล้ว"
พูดจบเธอก็เดินตัวปลิวผ่านหน้าทุกคนไป ชลธีส่ายหัวยิ้มออกมา คิงกับเซนมองอย่างแปลกใจ
ธีเดินไปคู่กับเต๋าทิ้งเซนกับคิงเดินรั้งท้าย เซนเองก็เงียบหันไปมองอีกทางไม่ได้สนใจอะไร
"ชั้นว่ามันดูแย่กว่าเก่าอีกนะ.." ชลธีกระซิบบอกเต๋าหลังจากสังเกตสองคนข้างหลัง
แทบไม่พูดกันเลย เขาเองตกใจไปเหมือนกันตอนที่จู่ๆเต๋าสารภาพว่าชอบเขา
เธอเองก็ต้องใช้ความกล้ามากทีเดียวก่อนพูดออกมา เขาเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเต๋าเพียงแต่คิดว่าถ้าตกลงคบกับเต๋าจริงๆสงสัยเขาต้องเป็นช้างเท้าหลังแน่
"เหรอ...ชั้นว่าไม่จริงหรอก..เชื่อสัญชาติญาณผู้หญิงสิ"
เธอกระซิบตอบ
เมื่อเดินมาถึงบ้านเต๋าแม่ของเซนเดินออกมาชวนคุย เธอเดินออกไปดูการแสดงได้สักพักก็กลับบ้านไม่ได้อยู่จนเลิก
"อ้าว..คิง นี่ก็เกือบเที่ยงคืนแล้วกลับบ้านยังไงล่ะเนี่ย"
เธอถามเพื่อนลูกชาย
"ก็คงนั่งเท็กซี่กลับมั้งครับ..แต่คงต้องรอสักพักเพราะคนทยอยกลับกันแท็กซี่ไม่มีว่างเลย"
คิงบอก
"ค้างบ้านน้าก็ได้...ห้องเจ้าเซนก็ออกจะกว้าง เตียงก็กว้าง
กลับดึกๆอันตราย พรุ่งนี้ก็วันหยุด"
เมื่อได้ยินข้อเสนอของแม่ คิงดีใจจนเนื้อเต้นแต่ไม่ยอมเผยออกมา เขายิ้มพร้อมกับบอกขอบคุณ
"ไม่เอานะแม่..มันบอกว่านั่งแท็กซี่ได้ก็ปล่อยมันนั่งกลับไปสิ
ตัวใหญ่แบบมันใครจะไปทำอันตราย" เซนบอกมารดา
"ไม่มีน้ำใจเลย ลูกคนนี้ เพื่อนลูกไม่ใช่เหรอ" แม่ต่อว่าขึ้นมา
เซนได้แต่นั่งหน้ามุ่ย
คิงเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเซนนั่งอยู่บนเตียง
ไม่ยอมหันหน้ามามองเขา
"โมโหอะไร" เขาถามยั่ว คุณแม่เอาเสื้อยืดกับกางเกงนอนขายาวของพ่อเซนมาให้ใส่เพราะว่าเซนตัวเล็กกว่าเขาแยะ
"แกน่าจะรู้..!!" เซนหันกลับมามองจนได้ คิงทำท่านึก
"นึกไม่เห็นออกเลย"
"ไอ้บ้า..ก็แก..ก็แก..!!" เซนพูดกำมือทำท่าจะเข้ามาต่อย
"อ๋อ..นึกออกแล้ว แบบนี้รึเปล่า" คิงก้มลงจูบเซนเมื่อเซนเข้ามาใกล้แบบไม่ให้ตั้งตัว
กลิ่นแชมพูที่สระกว่าสิบครั้งโชยเข้าจมูก คนตัวเล็กตกใจเผลออ้าปากร้องยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาสรุกรานมากขึ้นไปอีก
แต่แล้วคิงก็หยุดเมื่อสัมผัสได้ถึงรสน้ำตา เขาดันร่างเล็กออก ตกใจนิดนิดๆ
"ร้องไห้ทำไม เซน" ขณะที่ตกใจเขาก็ถูกหมัดลุ่นๆสวนเข้าที่หน้าล้มลงไปกับพื้น
"แก๊...คิดจะแกล้งชั้นไปถึงไหน เกลียดชั้นยังไงแต่นี่มันมากไปแล้วนะโว้ย"
เซนพูดอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ ยกมือลูบปากตัวเอง
"ไม่ได้เกลียดสักหน่อย..ถ้าเกลียดไม่ทำแบบนี้หรอก" คิงพูดเสียงเบา
เซนยังยืนงงๆอยู่ ในสมองทบทวนคำพูด ไม่ได้เกลียด ไม่เกลียดก็ชอบ...
"เฮ้ย!!" เซนอุทานออกมาเมื่อตีความได้ (สมองช้าจริงๆนะหนู
(^.^))
"แกต่างหากที่จ้องแต่จะทะเลาะกับชั้น...อยากรู้จริงๆว่าเพราะอะไร"
คิงถามต่อบ้างลุกขึ้นมา เซนยืนอึ้งอยู่
"ก็แกนะมันพวกหลงตัวเอง...คิดว่าตัวเองดีที่สุด แถมชอบมาดูถูกห้องชั้นอีกหาว่าไม่ฉลาดบ้างละ
เรียนไม่เก่งบ้างล่ะ น่าหมั่นไส้จะตาย" เซนบอก คิงได้แต่ยักไหล่
"ก็มันเป็นนิสัย แต่ยังไงชั้นก็จะเปลี่ยนดู ถ้าแกไม่ชอบ"
คิงพูดอย่างจริงใจ
"ชั้นมันผู้ชายนะโว้ย..แกวิปริตเรอะ" เซนถาม ไม่อยากเชื่อที่คิงบอกว่าจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา
"วิปริตตรงไหน...ก็เป็นกระเทยนี่นา เซนออกจะน่ารัก" คิงยังพูดเล่นต่อ
"แกชอบเต๋าไม่ใช่เรอะ" เซนถามไม่เชื่อหู
"เต๋าก็ชอบ...แต่เริ่มมารู้สึกตัวว่าชอบแกมากกว่าก็ตอนที่แกไม่สบายนั่นแหละ
พอไม่เห็นแล้วรู้สึกเหงาปาก เป็นห่วงด้วย" คิงสารภาพตรงๆ คราวนี้ไม่มีแววขบขันเลย
เซนยืนหน้าแดง
"ซาดิสต์ คนบ้าอะไรชอบถูกแกล้ง" เขาพูดกัดฟัน
"ก็สำหรับเซนคนเดียวนะจ๊ะ" คิงพูดต่อ
"แล้วรู้รึเปล่าว่าเต๋าชอบเจ้าธี" คิงบอก เซนได้แต่ยืนอ้าปากค้างกับข่าวใหม่
"แกรู้ได้ไง!!"
"เต๋าบอกเมื่อกี้นี้" คิงตอบก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง "ว่าไง...ดีกันนะ"
คิงยื่นนิ้วก้อยขึ้นมาแบบเด็กๆ เซนยื่นมือไปเกี่ยวก้อยสัญญาแบบไม่แน่ใจ
"แกไม่แกล้งชั้นแบบเมื่อกี้แล้วนะ" เซนถามย้ำ
"เอาน่า...ก็บอกแล้วว่าชอบ ไม่แกล้งหรอก" -ไม่แกล้งแต่ทำจริงๆเลยจ๊ะ
คิงได้แต่คิดต่อในใจก่อนจะพูด
"เอาละ...งั้นมาต่อกันดีกว่านะ" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ คิงเดินไปโอบไหล่เซน
"ต่ออะไร.." เซนถาม
"แหม ก็ต่อคืนแรกของการแต่งงานระหว่างเจ้าหญิงจัสมินกับอาละดินไง"
"!!!!????"
จบ !!!
14.25 25/08/03
จบแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ..จิ้นต่อกันเอาเอง..อย่าหาว่าเราใจร้ายล่ะ เรื่องนี้กะเน้นน่ารักแล้วก็ตลกอย่างเดียวเพราะพล็อตทีแรกกะจะเขียนสั้นๆ
ไว้เดี๋ยวถ้าว่างๆจะเขียนภาคพิเศษสองคนนี้ต่อ....
Peebee59@hotmail.com