Episode 3 -----Goddess?----- หลังจากวันนั้น เฟรซิสกับฟีเมลก็ยังคงเดินทางต่อไปด้วยกัน จนกระทั่ง เวลาผ่านเข้าสู่วันที่สามหลังจากเหตุการณ์ที่เมืองเจนัวรี่ ฟีเมลเริ่มหายจากอาการช็อค แล้ว แต่ยังคงมีอาการซึมอยู่นิดหน่อย ทั้งสองคนเดินอยู่ในป่าโปร่ง สวมชุดกระโปรงสี ชมพูและถักเปียผูกด้วยริบบิ้นสีขาวเหมือนกัน ดูราวกับเป็นพี่น้อง ระหว่างที่เดินอยู่นั้น ในหัวเฟรซิสก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย . . . . . "แล้วจากนี้ไป จะเอายังไง" วันนั้น หลังจากการต่อสู้จบลง เฟรซิสเอ่ยถาม ฟีเมลหลังจากที่เธอพาเด็กน้อยออกมาจากบริเวณเมืองเจนัวรี่ได้ห่างพอสมควรแล้ว "จะกลับไปหาคุณลุงมั้ย ถ้าอย่างนั้น พี่จะพาไปส่งให้" ฟีเมลถือถ้วยโกโก้ร้อนที่เฟรซิสชงให้นั่งอยู่บนขอนไม้ เธอก้มหน้านิ่ง สักพักก็หันมาหาเฟรซิส "ขอหนูไปกับพี่ด้วย ได้มั้ยคะ?" ฟีเมลถามกลับ "ตอนนี้ หนูไม่มีเป้าหมาย ของการเดินทางแล้ว อย่างน้อยก็ขอให้หนูได้เห็นปลายสุดของการเดินทางของ พี่เฟรซิสหน่อยเถอะค่ะ แล้วหลังจากนั้น จะกลับไปหาคุณลุงหรือเปล่า ค่อยคิดอีกที ได้มั้ยคะ?" เด็กน้อยทวนคำถามซ้ำอีกครั้ง และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เฟรซิสได้เพื่อนร่วมทางน้อยๆคนนี้ . . . . . "นี่ พี่เฟรซิสคะ ไม่ได้ยินเหรอ" เสียงเรียกของฟีเมลดึงเฟรซิสกลับมาจาก ห้วงความคิด "อะไรเหรอ" เฟรซิสหันกลับไปตามเสียง ก็เห็นฟีเมลหยุดยืนอยู่ข้างๆ พุ่มไม้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าตะเข็บด้านข้างของกระโปรงเด็กน้อยมีรอยขาดเป็นรอยยาว "กระโปรงหนูมันโดนกิ่งไม้เกี่ยวขาดซะแล้วน่ะค่ะ" ฟีเมลพูดพลางยิ้มแห้งๆ "อีกแล้วเหรอ" เฟรซิสถอนหายใจ "พี่จำได้ว่าเมื่อวานก็เพิ่งเย็บตัวสีฟ้าให้ เธอไปหยกๆ วันนี้ขาดอีกตัวแล้วเหรอเนี่ย" ถึงคำพูดจะออกไปในเชิงเบื่อหน่าย แต่ น้ำเสียงและสีหน้าไม่ได้บ่งบอกอารมณ์นั้นของเฟรซิสเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังฟังและ มองดูอ่อนโยนอย่างยิ่ง "อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะค่ำแล้ว ทนหน่อยละกัน" เฟรซิสเดินกลับไปหา "ไว้หา ที่พักซะก่อน แล้วคืนนี้พี่จะเย็บให้" . . . . . "นี่ ฟีเมล" เฟรซิสเอ่ยขึ้นระหว่างที่มือก็กำลังเย็บรอยขาดบนกระโปรง ของฟีเมล "พี่รู้ว่าจริงๆแล้วมันไม่ควรจะพูดตอนนี้ แต่ขอพี่ถามอะไรหน่อยได้มั้ย" "อะไรเหรอคะ" ฟีเมลที่พันร่างด้วยผ้าเช็ดตัวกลับมาจากอาบน้ำที่ลำธาร ใกล้ๆเดินเข้ามาหา "ที่เจนัวรี่ ตอนที่พี่กำลังสู้อยู่น่ะ" เฟรซิสเงยหน้าขึ้นมามองคู่สนทนา ตัวน้อยนิดหนึ่ง ก่อนจะก้มลงไปเย็บผ้าต่อ "สายฟ้าที่ผ่าลงมาช่วยพี่ไว้ตอนนั้น ฝีมือ เธอใช่มั้ย" ฟีเมลที่กำลังเอาผ้าอีกผืนเช็ดผมอยู่ พอได้ยินเข้าก็หยุดไปนิดหนึ่ง ผม สีทองที่ยังเปียกน้ำต้องแสงจันทร์เป็นประกาย "หนูเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนที่เห็น พี่เฟรซิสถูกโจมตีจากข้างหลัง หนูกำลังกำหินที่คุณลุงให้มาไว้ในมือ แล้วพอคิดว่าไม่ อยากให้พี่เป็นอะไรไป ก็พอดีกับที่สายฟ้าผ่าลงมา อาจจะเกี่ยวกันก็ได้มั้งคะ" "หิน?" "ค่ะ คุณลุงเป็นคนให้หนูมาเอง แล้วยังบอกอีกว่าถ้ามีอันตรายอะไร ให้ถือ หินนี้ไว้ในมือ แล้วอธิษฐานขอให้ปลอดภัย ก็จะหลุดพ้นมาได้น่ะค่ะ" "ขอพี่ดูหินนั่นหน่อยได้มั้ย" เฟรซิสพูดพลางส่งชุดกระโปรงที่เย็บเสร็จ แล้วให้ฟีเมล "ได้ค่ะ งั้นขอหนูเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บนึงนะคะ" แล้วเด็กน้อยก็เดินไปค้น สัมภาระของตัวเอง เลือกชุดกระโปรงสีขาวมีระบายที่ชายขึ้นมาสวม จากนั้นมือก็คว้าหิน ที่เก็บไว้ในกองสัมภาระขึ้นมา ก่อนจะวิ่งกลับไปหาเฟรซิส "หินนี่ มัน..." เฟรซิสนึกในใจระหว่างที่ถือหินน้ำเงินเทาไว้ในมือ ภาพใบหน้า ที่มีนัยน์ตาสีม่วงเข้มตัดกับผมสีม่วงอ่อนของเธอสะท้อนอยู่บนหิน "...ครีน่า สื่อของ เวทย์สายฟ้านี่นา" แล้วเธอก็หันไปทางฟีเมลที่นอนหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม หลังจากที่เด็กน้อยส่งหิน ให้เฟรซิสแล้ว เธอก็ขอตัวไปนอนทันที "วันนี้เดินมาทั้งวัน เหนื่อยจะแย่ ขอหนูนอนก่อนแล้วกันนะคะ" ฟีเมลให้ เหตุผลไว้แค่นั้น "ไม่ผิดแน่ เด็กนั่นมีความสามารถของเวทย์สายฟ้า เพียงแต่ยังไม่รู้สึกตัว เท่านั้นเอง" เฟรซิสหันกลับมามองหินครีน่าในมือ "ที่ลุงของเธอให้หินนี่มา คงเพราะถ้า เกิดอะไรขึ้นกับเธอจริงๆ หินนี่จะเป็นสื่อเรียกพลังที่มีอยู่ออกมาช่วยปกป้องเธอได้ ล่ะมั้ง" เฟรซิสละสายตาจากหินขึ้นมองฟ้า "แล้วเราควรจะบอกเรื่องนี้กับเธอดีมั้ยนะ" . . . . . "นี่ พี่เฟรซิสคะ ตกลงหินก้อนนั้น มีอะไรรึเปล่า" ฟีเมลถามระหว่างที่ เฟรซิสกำลังหวีผมของเธอให้เป็นทรง "ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เป็นแค่เครื่องรางธรรมดาๆน่ะ" เฟรซิสตอบ เธอ ตัดสินใจยังไม่บอกความจริงให้เจ้าตัวรู้ "แต่ว่า เอาติดตัวไว้ตลอดเวลาดีกว่านะ" "งั้นเหรอคะ" ฟีเมลทำหน้าเศร้าลง "น่าเสียดายจัง อุตส่าห์คิดว่าจะช่วย อะไรพี่เฟรซิสได้บ้างอยู่แล้วเชียว" "ช่วย?" "ค่ะ ก็ระหว่างที่กำลังเดินทางอยู่นี่ คงต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง แน่ๆ อย่างน้อย ถ้าหนูพอจะดูแลตัวเองได้ ก็จะได้ลดภาระของพี่เฟรซิสลงไปได้บ้าง" "ลดภาระเหรอ" เฟรซิสทวนคำของเด็กหญิง แล้วก็อดหยอกเล่นไม่ได้ "ถ้า งั้นอย่างแรกเลย ถักเปียเป็นแล้วไม่ใช่เหรอ ช่วยถักผมก่อนจะนอนทุกคืนได้มั้ย ลืมมา สองคืนแล้วนะ ดูซิเนี่ย กระเซิงซะจนแทบไม่เป็นทรงเลย แล้วพี่ก็ต้องมาหวีให้เธอเช้านี้ เป็นครั้งที่สองแล้วนะ" "บ้า" "ใครบ้ากันแน่ เป็นผู้หญิงแท้ๆ น่าจะห่วงเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเอง หน่อยสิ ขนาดพี่ จริงๆแล้วไม่ใช่ผู้หญิงยัง....." แต่ยังพูดไม่ทันจบ เฟรซิสก็รีบเอามือ ปิดปากตัวเองเพราะนึกขึ้นได้ว่าเกือบหลุดอะไรบางอย่างออกไปซะแล้ว "ไม่ใช่อะไรนะคะ" ฟีเมลหันกลับมาถาม "เปล่าๆ พี่จะพูดว่า จริงๆแล้ว ขนาดพี่ไม่ใช่คนชอบแต่งตัว ยังรู้เรื่องการ ดูแลรูปร่างหน้าตามากกว่าเธอซะอีก" "งั้นหรอกเหรอคะ" ฟีเมลหันกลับไป "แต่เมื่อกี้ หนูรู้สึกเหมือนกับพี่พูดว่า จริงๆแล้วพี่ไม่ใช่ผู้หญิง น้า" "ช่างมันเถอะๆ เอ้า เสร็จแล้ว ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาช่วยพี่เตรียม อาหารเช้าหน่อยนะ ทานเสร็จแล้วจะได้ออกเดินทางกันต่อ" เฟรซิสตัดบท ในขณะที่ ฟีเมลตอบรับเต็มเสียง . . . . . อีกไม่กี่วันต่อมา เฟรซิสและฟีเมลก็มาถึงเมืองอีกเมืองหนึ่ง ขนาดของ เมืองพอๆกับเจนัวรี่ซึ่งบัดนี้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว สิ่งก่อสร้างในเมืองเป็น ตึกสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ สองข้างทางเดินก็มีร้านค้ามากมาย ให้ความรู้สึกว่าเป็นเมืองที่มี ผู้คนจำนวนมากอาศัยอยู่กันอย่างสงบสุข ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินหาโรงแรมที่พักในเมือง ทางเดินก็นำทั้งคู่ ผ่านไปหน้าตึกหลังหนึ่ง ความใหญ่โตและลักษณะการตกแต่งพอจะทำให้รู้ว่าตึกหลังนี้ คือโบสถ์ประจำเมือง คนกลุ่มใหญ่รวมตัวกันอยู่บริเวณทางเข้า "คนเยอะจังเลย มาทำอะไรกันที่นี่นะเนี่ย" ฟีเมลพูดขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็น ฝูงชนที่กำลังจับกลุ่มกันอยู่ "ที่นี่ดูท่าทางจะเป็นโบสถ์ ก็คงมาประกอบพิธีอะไรกันซักอย่างล่ะมั้ง" เฟรซิสหันไปมองบ้าง ก่อนจะหันกลับไปทางเดิม "นี่ หนูสองคนตรงนั้นน่ะ" เสียงหญิงมีอายุคนหนึ่งทักพวกของเฟรซิส คง จะเป็นนักเดินทางสินะ จะไม่แวะขอพรจากท่านเทพธิดาหน่อยเหรอ การเดินทางจะได้ เป็นไปโดยปลอดภัยไงล่ะ" "เทพธิดา?" เฟรซิสหันมามองหญิงคนนั้นที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน "ลองแวะกันหน่อยเถอะค่ะ นะ พี่เฟรซิส" ฟีเมลดึงกระโปรงเฟรซิสเป็นเชิง อ้อนวอน "ก็ได้ๆ" เฟรซิสยอมตามใจฟีเมล ก่อนจะจูงมือเด็กน้อยตรงเข้าไปหากลุ่ม คนที่รวมตัวกันอยู่หน้าโบสถ์ ภายในโบสถ์ก็มีกลุ่มคนมากมายคุกเข่าล้อมวงกัน โดยมีเด็กสาวคนหนึ่งยืน อยู่ตรงกลาง กลางหลังของเธอมีปีกสีขาวเช่นเดียวกับชุดที่สวมตัดกับผมยาวดำ ท่าทางของเหล่าคนที่ล้อมรอบเธออยู่ดูสงบเสงี่ยมนอบน้อมราวกับเธอเป็น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ "อ๊ะ มีเทพธิดาจริงๆด้วย" ฟีเมลพูดออกมาเมื่อได้เห็นภาพที่ปรากฏอยู่ เบื้องหน้า ดวงตาส่งประกายด้วยความตื่นเต้น ผิดกับเฟรซิสที่ยืนมองภาพนั้นอย่าง นิ่งเฉย "พวกเฟเธอร์น่ะ" เฟรซิสเอ่ยปากออกมาหลังจากประโยคของฟีเมล เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยความสงสัย เฟรซิสจึงเริ่มอธิบายต่อ "ชนเผ่ามีปีกที่ อาศัยอยู่ลึกเข้าไปในเขตหุบเขาทางตะวันตก แต่ว่า ทำไมถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้นะ เขตหุบเขาที่ว่า อยู่ห่างจากที่นี่ไปอีกตั้งไกล ขนาดที่ใช้เวลาเดินเท้าอย่างเร็วสุดก็คง ประมาณสามอาทิตย์แน่ะ" "พี่เฟรซิส รู้ดีจังนะคะ" ฟีเมลทึ่งกับความรู้ของเฟรซิส "แน่ล่ะ นอกจากดาบ พี่ยังถูกท่านพ่อจับให้เรียนอะไรอีกตั้งเยอะนี่นา" ระหว่างที่เฟรซิสกับฟีเมลกำลังคุยกันอยู่นั้น สาวน้อยที่ถูกเรียกเป็น เทพธิดาก็หันมาเห็นทั้งคู่ เธอค่อยๆเดินออกมาจากวงของผู้คนที่ล้อมรอบเธออยู่เข้ามา หา แต่ยังไม่ทันจะถึงตัว โบสถ์ทั้งหลังก็เกิดสั่นสะเทือนไปทั่ว "ท่านฟาร์นี่ครับ!!! มอนสเตอร์!!!!" ชายคนหนึ่งตะโกนมาจากทางประตู โบสถ์ เมื่อได้ยิน เด็กสาวเทพธิดาที่ถูกเรียกชื่อก็หันหลังวิ่งไปยังประตูหนึ่งที่อยู่ด้านใน ของโบสถ์ ในขณะที่เฟรซิสกำดาบทั้งสองไว้ในมือ วิ่งออกไปทางประตูโบสถ์ "พี่เฟรซิสคะ!" ฟีเมลร้องเรียก น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความเป็นห่วง "เธอรออยู่ที่นี่แหละ ห้ามออกไปข้างนอกเด็ดขาดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะกลับมา" เฟรซิสหันกลับมาพูดทั้งที่กำลังวิ่งอยู่ "บ้าจริง เพิ่งออกจากเขตโจรแท้ๆ เข้าเขตมอนสเตอร์ซะแล้วเหรอเนี่ย ใน โลกนี้จะไม่มีที่ๆสงบสุขจริงๆเลยหรือไงกัน" ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Author's Favourite : ".....ในโลกนี้จะไม่มีที่ๆสงบสุขจริงๆเลยหรือไงกัน" ;เฟรซิส