Episode 8 -----Black Wings----- เฟรซิสร่ายรำดาบอยู่ท่ามกลางฝูงมอนเตอร์โดยมีฟาร์นี่เป็นกำลังสนับสนุน จากท้องฟ้า ชุดนอนที่ยาวจนถึงข้อเท้าไม่ได้ทำให้สาวน้อยทั้งสองเคลื่อนไหวด้อยลงไป แม้แต่น้อย ในขณะที่กำลังต่อสู้ เฟรซิสก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของมอนสเตอร์ที่ ตัวเองกำลังต่อกรด้วย "แปลกแฮะ พวกริโม่น่ะฝีมือแข็งแกร่งก็จริง แต่โดยนิสัยแล้วเป็น พวกรักสงบ ไม่ทำอันตรายให้ใครนี่นา" สาวน้อยคิดในใจ ขณะเดียวกัน มอนสเตอร์ รูปร่างคล้ายแมว,หมู,และสุนัขผสมกันก็ดาหน้ากันล้อมวงเข้ามาเรื่อยๆ "แล้วไอ้วิธีต่อสู้ แบบบ้าเลือดนี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย" คมอาวุธของริโม่บางตัวสามารถสร้างบาดแผลให้กับเฟรซิสได้สำเร็จ แต่ ถึงกระนั้น ถ้าเทียบกับบาดแผลที่เธอให้มันกลับคืนไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเพียง แค่แผลถลอกเท่านั้น ทางด้านฟาร์นี่เองก็หยุดใช้วิธีพุ่งลงจากท้องฟ้า ร่อนลงมายืนอยู่ข้างๆ เฟรซิส การเคลื่อนไหวของทั้งสองที่สอดประสานกันอย่างดีเริ่มทำให้รีโม่บางตัวรู้สึก ลังเลที่จะบุกเข้ามา "พวกนั้นไม่ล้อมเข้ามาแล้ว ได้เวลาแยกกันแล้วมั้ง ฟาร์นี่" เฟรซิสหันมาส่ง สัญญาณให้สาวน้อยอีกคน แล้วในพริบตาต่อมา ทั้งสองสาวก็พุ่งออกจากวงล้อมของ มอนสเตอร์ที่เริ่มเบาบางลง คนหนึ่งใช้น้ำแข็งเป็นเกราะกำบัง พุ่งตัวฝ่าออกมา อีกคนก็ใช้ปีกที่พระเจ้าประทานให้กับสายเลือดของเธอ ทะยานขึ้นจากพื้นลงมาหยุดลง ตรงฝั่งตรงข้ามกัน ทันทีที่เท้าสัมผัสถูกพื้น ฟาร์นี่ก็ถูกอีกร่างหนึ่งที่พุ่งลงมาจากท้องฟ้าที่สูง กว่าจู่โจมทันที "ฟาร์นี่!!" เฟรซิสส่งเสียงเรียกสาวน้อยที่บัดนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทของ เธอไปแล้วด้วยความเป็นห่วง เธอลุยฝ่ามอนสเตอร์ตรงไปยังฟาร์นี่ "ฉันไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง" ฟาร์นี่ที่ใช้มือซ้ายกุมแผลที่ต้นแขนขวาไว้ อยู่หยุดเฟรซิสไว้ เธอรู้ดีว่าถ้าหากเฟรซิสเข้ามารวมกลุ่มกับเธออีกครั้งล่ะก็ อาจจะถูก ร่างลึกลับพุ่งเข้าโจมตีไปพร้อมๆกันก็ได้ เฟรซิสเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจอีกฝ่ายหนึ่ง เธอหยุดฝีเท้าลงแล้วหันกลับไปตั้งสมาธิกับศัตรูตรงหน้าแทน แต่คราวนี้ เป้าหมายของร่างลึกลับไม่ใช่สาวน้อยเทพธิดา แต่กลับเป็น อดีตอัศวินของฟอนเนล มันพุ่งตรงลงจากท้องฟ้าด้วยความรวดเร็ว หมายจะปักอาวุธ ในมือลงบนร่างสาวน้อย ขณะที่คมอาวุธอยู่ห่างจากร่างเพียงเล็กน้อย เฟรซิสที่รู้สึกตัว ได้ทันควันก็เบี่ยงตัวหลบไปได้อย่างหวุดหวิด เธอเหวี่ยงดาบในมือซ้ายเข้าใส่ ร่างลึกลับที่บัดนี้หยุดยืนอยู่บนพื้น แต่มันก็ยกมีดยาวที่เป็นอาวุธขึ้นป้องกันไว้ได้ สายตาของเฟรซิสสะดุดเข้ากับของสีดำขนาดใหญ่ที่ออกมาจากกลางหลัง ของชายลึกลับ ในขณะที่ฟาร์นี่เองก็มองมาทางข้อมือซ้ายของชายคนนั้นอย่างไม่เชื่อ สายตาตัวเอง "เฟรซิส! ที่ข้อมือหมอนั่น ดวงตาแห่งมารินี่!" "ดวงตาแห่งมารินี่?" เฟรซิสที่สงสัยกับคำพูดของเพื่อนสนิทเผลอละ สายตามองไปทางต้นเสียง ชายคนนั้นสลัดมีดหลุดจากดาบของเฟรซิสแล้วก็พุ่ง มีดอันเดียวกันเข้าใส่ แต่เฟรซิสก็หันกลับมาใช้ดาบอีกเล่มรับไว้ได้ มันผละออกห่างจาก ตัวสาวน้อยเพื่อหลบให้พ้นรัศมีดาบที่เหลืออีกข้าง "นี่ ช่วยอธิบายสั้นๆ ชัดๆได้มั้ย ไอ้ดวงตาแห่งมารินี่น่ะ มันอะไรเหรอ" เฟรซิสตะโกนถามฟาร์นี่ระหว่างที่สายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่ชายมือมีด "ก็ได้ๆ เอาเป็นว่าถ้าอยากให้พวกมอนสเตอร์พวกนี้หยุดบุกเข้ามาแบบ บ้าเลือดแบบนี้ล่ะก็ จัดการกำไลที่ข้อมือหมอนั่นซะ จะทำลายทิ้งหรือจะแย่งมาก็ได้" ฟาร์นี่เบี่ยงตัวหลบการโจมตีของโมรี่ที่บุกเข้ามาก่อนจะแทงหอกสวนกลับไป "แต่ถ้า เป็นไปได้ ขอเป็นอย่างหลังดีกว่านะ จะได้หากระดิ่งแอนนิต้าได้ง่ายขึ้นไง" หลังจากที่เฟรซิสได้ยินคำอธิบายทั้งหมดแล้ว เธอก็ยังคงหยุดยืนอยู่กับที่ "ตอนนี้น่ะ ฉันสนใจปีกของหมอนี่มากกว่ากำไลที่ข้อมือซะอีก" ชายผู้มีปีกค้างคาวดำทะมึนอยู่กลางหลังใช้การจู่โจมจากท้องฟ้าบุกเข้าใส่ เฟรซิสอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาวน้อยก็ทำได้เพียงแค่หลบหลีกและป้องกัน โดยที่ไม่ สามารถโต้ตอบอะไรได้แม้แต่น้อย "แย่จริง ถ้าขืนปล่อยให้หมอนี่โฉบไปโฉบมาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เราเองก็ ต้องโดนเข้าจังๆซักทีแน่" เฟรซิสนึกในใจขณะที่มือก็ควบคุมดาบรับคมมีดยาวของ คู่ต่อสู้ "ในเมืองแบบนี้จะใช้เวทย์แบบสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้ซะด้วย" เวลาที่ค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ ประกอบกับความเร็วของอีกฝ่าย ทำให้เฟรซิส ที่เริ่มอ่อนแรงลงเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายฝากรอยแผลไว้ตามร่างกาย บางจุดของชุดนอน สีขาวถูกเลือดย้อมเป็นรอยขีดสีแดงอ่อนๆ ระหว่างที่ร่างกายกำลังป้องกันตัวเองจากการโจมตีอยู่นั้น ในหัวเธอก็คิด หาวิธีรับมือวิธีที่ชายปีกดำใช้จู่โจมอยู่ในขณะนี้ และแล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ของสาวน้อยพร้อมๆกับความคิดหนึ่งที่แว่บเข้ามาในสมอง "ลำบากไปซักหน่อย แต่ก็เห็นจะมีแต่วิธีนี้วิธีเดียว ลองเสี่ยงดูก็แล้วกัน" การเคลื่อนไหวของเฟรซิสเปลี่ยนจากที่ใช้การปัดป้องเป็นส่วนใหญ่มาเป็น การหลบหลีกให้มากขึ้น ซึ่งก็มีทั้งสัมฤทธิ์ผลและล้มเหลว ถ้าหากสำเร็จ พริบตาที่หลุด พ้นจากอาวุธของชายปีกดำ เธอจะพยายามอ้อมไปด้านหลังแล้วเอื้อมมือซ้ายซึ่งทิ้งดาบ ไปแล้วเข้าหาปีกสีดำเมื่อม แต่ทุกครั้งสาวน้อยก็คว้าได้แต่เพียงอากาศว่างเปล่าตรงหน้า 'ฉึก!' แล้วในที่สุด ชายปีกดำก็สามารถฝังมีดยาวลงไปในร่างของเฟรซิส ได้จนเกือบมิด เลือดสดๆพวยพุ่งตามคมมีดที่ถูกถอนออกมา ชุดบริเวณบ่าซ้ายของ สาวน้อยถูกเลือดย้อมจนเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน "เฟรซิส!" ฟาร์นี่ที่เห็นเพื่อนของตัวเองถูกโจมตีเข้าอย่างจังก็ทะยานขึ้น จากกลางฝูงมอนสเตอร์ บินตรงเข้าไปหาเจ้าหล่อน ปลายหอกของเธอรับมีดยาวที่ ชายปีกดำใช้โจมตีซ้ำลงมาได้ทันก่อนที่มันจะปักลงไปในท้ายทอยของเฟรซิส และใน พริบตานี้ที่ชายคนนั้นชะงักไป เฟรซิสก็คว้ามือซ้ายของเธอเข้าที่ปีกกลางหลัง เกิด น้ำแข็งปกคลุมไปทั่วแผ่นปีก ชายปีกดำสูญเสียความสามารถในการบินไปในทันที สาวน้อยนักดาบเองก็ไม่ปล่อยโอกาสชั่วเสี้ยงวินาทีนี้ เธอเหวี่ยงดาบในมือ ขวาเข้าใส่ร่างชายคนนั้น ก่อนที่ดาบจะถูกหยุดไว้ได้ในพริบตาต่อมาและร่างของผู้ถูก โจมตีลอยไปตามแรงปะทะเล็กน้อย "คราวนี้นายก็โฉบไปโฉบมาน่ารำคาญแบบเมื่อกี้ไม่ได้แล้วล่ะนะ คงได้เวลา วัดกันให้รู้ผลแบบยุติธรรมซะทีล่ะ" เฟรซิสพูดขึ้นระหว่างที่ขาก็เตะดาบอีกเล่มที่เธอ บังเอิญไปหยุดอยู่ตรงที่มันตกอยู่ขึ้นมา แต่พอเธอใช้มือรับดาบไว้ มือซ้ายที่ไร้ เรี่ยวแรงกำดาบไปซะแล้วก็ปล่อยให้มันตกลงกับพื้นเหมือนเดิม "ทำเป็นพูดดีไป แกเองก็เหลือดาบแค่เล่มเดียวแล้วเหมือนกันนั่นแหละ" ชายผู้ถูกแช่แข็งปีกบนหลังไปแล้วพูดขึ้นหลังจากได้เห็นภาพเฟรซิสเมื่อครู่ "ใช่แล้วล่ะ อย่าฝืนเลยดีกว่านะเฟรซิส" ฟาร์นี่ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอพูดขึ้นบ้าง "ตอนนี้หมอนั่นบินไม่ได้แล้ว ให้ฉันสู้แทนน่าจะได้เปรียบกว่านะ" "ให้จัดการกำไลที่ข้อมือหมอนั่นด้วยใช่มั้ย" เฟรซิสถามราวกับไม่ได้ยิน คำแนะนำของฟาร์นี่ สิ้นเสียงประโยค เธอก็พุ่งเข้าหาชายที่เป็นคู่ต่อกรทันที ถึงจะเหลือแขนแค่ข้างเดียว แต่เฟรซิสก็สามารถสู้กับชายมือมีดได้อย่าง สูสี ทุกครั้งที่ชายคนนั้นกลับมาเป็นฝ่ายโจมตีบ้างก็จะถูกเธอหลบหลีกแล้วโจมตีสวน กลับไปก่อนที่เธอจะพลิกโอกาสกลับมาเป็นฝ่ายรุกอีกครั้ง "บ้าเอ๊ย!" ชายปีกดำแทงมีดเข้าใส่กลางลำตัวของเฟรซิส แต่เธอก็หมุนตัว หลบออกไปด้านข้างได้ ก่อนที่จะใช้มือซ้ายแตะเข้าที่ท่อนแขนข้างที่มีกำไลดวงตาแห่ง มารินี่เพื่อสร้างน้ำแข็งหุ้มบริเวณที่ถูกสัมผัสนั้น 'ตึง!' เฟรซิสใช้ด้ามดาบทุบลงบนน้ำแข็งที่เธอเพิ่งสร้างขี้นมา แขนท่อนที่ อยู่ล่างลงไปจากบริเวณที่ถูกแช่แข็งขาดออกจากร่างเจ้าของอย่างง่ายดาย สาวน้อย รีบถีบตัวหนีออกมาจากร่างของคู่ต่อสู้เพื่อให้พ้นรัศมีของมีดที่กวาดตามมาหา ในขณะเดียวกัน ทันทีที่กำไลมารินี่ถูกแยกจากร่างเจ้าของพร้อมๆกับ แขนข้างที่สวมอยู่นั้น ฝูงมอนสเตอร์ที่กำลังต่อสู้อยู่อย่างบ้าเลือดก็กลับสงบลงทันที "แก.......แขนของข้า........" ชายปีกดำมองเฟรซิสด้วยแววตาโกรธแค้น ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปหาเฟรซิสบ้าง น้ำหนักมีดที่กวัดแกว่งไปมานั้นมากพอที่จะตัดอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งออก จากร่างสาวน้อยได้อย่างสบาย แต่การโจมตีอย่างขาดสติทำให้ความแม่นยำลดลงไป ด้วยซึ่งเฟรซิสก็สามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย และอาศัยช่องว่างที่ถูกเปิดมากขึ้น เพราะความขาดสตินั้นโจมตีสวนกลับไป เพียงไม่นาน ร่างของอีกฝ่ายก็เต็มไปด้วย บาดแผลฉกรรจ์ แต่ดูเหมือนเจ้าของร่างจะถูกความโกรธเข้าครอบงำจนไม่สนใจ สิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ยังคงเดินหน้าเข้าหาหมายจะเอาชีวิตของเฟรซิสให้ได้ หลังจากปล่อยให้อีกฝ่ายรุกเข้าหามาตลอด ในที่สุดเฟรซิสก็อ้อมหลบไป ด้านหลัง แล้วใช้ดาบปาดคอของชายปีกดำจนหลอดลมขาด ชีวิตของมันหลุดลอยไป พร้อมๆกับเลือดสีแดงสดที่ทะลักออกมา ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- Author's Favourite : ชุดนอนที่ยาวจนถึงข้อเท้าไม่ได้ทำให้สาวน้อยทั้งสอง เคลื่อนไหวด้อยลงไปแม้แต่น้อย ;Scene