Irc Lover -----Hoshine's Side----- Chapter 8 -----New Daylife----- แค่เช้าวันรุ่งขึ้น ปัญหาจากการมีคนอยู่ในบ้านเพิ่มขึ้นก็เกิดขึ้นทันที ของสด ที่จะใช้ทำกับข้าวในตู้เย็นอันตรธานไปด้วยความเร็วผิดจากปกติ จนเช้านี้เหลือของแค่ พอใช้ทำข้าวเช้าและปิ่นโตได้สี่กล่องเท่านั้น สี่กล่อง....... ผมตัดสินใจยอมเป็น ผู้เสียสละ ตัดปิ่นโตของตัวเองทิ้งไป ก็ดีเหมือนกัน จะได้แวะไปหาอะไรกินที่ ร้าน Pia Carrot ไม่ได้ไปตั้งนานแล้วนี่นะ ปัญหาอย่างที่สอง ไม่ได้เกิดจากจำนวนคนที่เพิ่มขึ้น แต่เกิดจากคนที่อยู่ใน บ้านนั่นแหละ เริ่มจากห้องของพี่มุสึกิก่อน ผมใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการแงะพี่สาว คนโตขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะไปเสียเวลาอีก 10 นาทีที่ห้องของพี่สาวคนรองด้วย เหตุผลเดียวกัน และอีก 15 นาทีที่ห้องลูกพี่ลูกน้อง บางครั้งผมก็เคยคิดว่าทำไม ผู้หญิงบ้านโฮชิเนะถึงได้นอนขี้เซากันอย่างนี้นะ อ้อ ที่ว่านี่ไม่ได้รวมถึงคุณแม่กับโนเอมิ หรอกนะ "ชิอน.....โฮโนกะซัง......คาโฮะซัง......ท่าทาง ที่น่ากลัวที่สุดเห็นจะเป็น คาโฮะซังมากกว่าชิอนล่ะมั้งเนี่ย" ผมลองไล่รายชื่อคนที่อาจจะต้องอธิบายเรื่องของ พี่อุซึกิกับนายูกิเช้านี้ โฮโนกะซัง คงไม่มีปัญหาอะไร ชิอนเองก็น่าจะเข้าใจ แต่ คาโฮะซัง.....ผมคงไม่พ้นต้องถูกแซวอะไรอีกแน่ๆ "คุริจัง ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสายนะ!" เสียงนายูกิเรียกผมดังมาจาก ประตูหน้าบ้าน ผมค่อยๆก้าวเท้าเดินไปรวมกลุ่มกับพวกพี่ๆ พอมาถึงสถานีปลายทาง ผมก็ต้องแปลกใจที่ตัวเองคอยสอดส่อง สายตามองหาชิอนมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา แต่พอเจอตัว แทนที่ผมจะดีใจ กลับรู้สึก เหมือนกับว่าเจอ'โชคร้าย'เข้าแล้วซะยังงั้นแหละ "โฮชิเนะซางงงง......." เจ้าตัวพอเห็นผมก็ส่งเสียงเรียกมาแต่ไกลพลาง ค่อยๆวิ่งเข้ามาหา แต่พอเห็นพวกนายูกิ เธอก็หยุดทั้งเสียงและฝีเท้าที่กำลังวิ่ง "....เอ่อ" "อรุณสวัสดิ์ ชิอน" ผมรีบรวบรัดเรื่อง "วันนี้ มีคนอยากจะแนะนำให้ รู้จักนะ" "?" ชิอนมองไปทางพี่อุซึกิกับนายูกิ "นี่ พี่อุซึกิ พี่สาวคนรองของผม แล้วก็ ลูกพี่ลูกน้อง นายูกิ" ทั้งสองคน ทักทายชิอนต่อจากการแนะนำของผม "เรื่องพี่อุซึกิ คงเคยได้ยินจากพี่มุสึกิ ไม่ก็โนเอมิ บ้างแล้วสินะ" ชิอนพยักหน้ารับ "พี่อุซึกิ นายุ นี่ ชิอน เป็น....." ผมหันไปคว้าชิอนมากอด ".....แฟนผมเอง" "โฮชิเนะซัง!" ชิอนหน้าแดงก่ำ คงเพราะทั้งอายและตกใจ เธอมองหน้าผม อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปคำนับพวกพี่อุซึกิ "เห.....แฟนเหรอ..."พี่อุซึกิพูดออกมาเบาๆ "เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน เธอนี่ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ หาแฟนน่ารักๆแบบนี้ได้เนี่ย" พี่อุซึกิหยอกผมเล่น ในขณะที่ นายูกิทำหน้าแปลกๆ "เอ่อ.....โฮชิเนะซังคะ" ชิอนที่ยังอยู่ในวงแขนของผมเรียกเบาๆ "เรื่อง เวลา....ไม่เป็นไรเหรอ" ผมรีบยกนาฬิกาขึ้นดู 8 โมงเศษๆแล้ว! ผมปล่อยชิอนออกจากแขนแทบจะ ในทันที "ขอโทษนะ! ชิอน ลืมไปสนิทเลย" ผมขอโทษ ก่อนจะหันไปหาพวกพี่สาว "วิ่งกันเถอะ พี่อุซึกิ นายุ ไม่งั้นล่ะก็ พวกพี่ได้สายกันตั้งแต่วันแรกแน่ๆ" หลังจากไปส่งพี่อุซึกิที่มหาวิทยาลัยแล้ว พวกผมก็วิ่งต่อมาถึงที่เรียนของ ตัวเองพวกเราแยกกันที่หน้าตึกคณะของผม "วิ่งมาโรงเรียนด้วยกันแบบนี้ คิดถึงสมัยก่อนเลยเนอะ" นายูกิพูดกับผม ก่อนจะแยกกัน "ความผิดของนายุเหมือนเมื่อก่อนด้วยล่ะ" ผมคิดถึงสมัยม.ปลายที่ต้อง วิ่งไปโรงเรียนด้วยกันกับนายูกิทุกวันเพราะเจ้าตัวไม่ยอมตื่น "นี่ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ตื่นเองล่ะก็ ผมก็ไม่ปลุกแล้วนะ" "คุริจัง ใจร้าย....." นายูกิทำหน้างอน ก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม "เอาล่ะ งั้น เจอกันตอนเที่ยงนะ" เสียงกระดิ่งบอกเวลาพักเที่ยงดังขึ้น ผมรู้สึกเหมือนกับเวลาแห่ง ความโชคร้ายกำลังจะมาถึงอีกแล้วอย่างนั้นแหละ "คุริสุ" เสียงโฮโนกะซังดังขึ้นที่ประตูห้องเรียน เวลาโชคร้ายมาถึงเร็ว ขนาดนี้เลยรึเนี่ย ผมลุกจากที่นั่งก้มหน้าเดินไปรับชะตากรรมที่คาโฮะซังกำลังจะมอบให้ ผม.......ไม่มี ข้างๆโฮโนกะซังที่มาเรียกผมที่หน้าประตูห้องนั้น ไม่มี คาโฮะซังยืนอยู่ เหมือนเคย "หยุดน่ะ" โฮโนกะซังตอบเมื่อผมถามถึงคาโฮะซัง "เห็นว่าเป็นหวัดหรือไง นี่แหละ" 'เฮ่อ.....' ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ดูเหมือนโฮโนกะซังจะสังเกต เห็นความผิดปกติ "เป็นอะไรไปเหรอ ทำอย่างกับว่าไม่อยากเจอคาโฮะเค้าอย่างนั้นแหละ" "ก็.....นิดหน่อยน่ะครับ" ผมพูดได้แค่นั้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงคุ้นหูเรียก ผมดังมาจากประตูตึกคณะ เที่ยงวันนั้น ถ้าใครผ่านไปที่ร้าน Pia Carrot คงจะได้เห็นกลุ่มนักศึกษาที่ แปลกที่สุด ในจำนวนคนในกลุ่ม6 คน มีผู้ชายอยู่เพียงคนเดียว นั่นคือ ผม ข้างๆ ทาง ขวาเป็นพี่อุซึกิ ทางซ้ายเป็นนายูกิ ฝั่งตรงข้าม ซายูริซังนั่งตรงกลาง ทางขวาของ เจ้าหล่อนเป็น ไมซัง เพื่อนสนิท ส่วนทางซ้ายก็โฮโนกะซัง ทั้งโต๊ะ 6 คน มีผมกับ โฮโนกะซังทานอาหารของร้านกันแค่สองคน ส่วนที่เหลือเป็นปิ่นโตทำเอง (ของพี่อุซึกิ กับนายูกิเป็นของผม ส่วนของซายูริซังกับไมซัง ซายูริซังเป็นคนทำมา) "ไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะ มินาเสะซัง" ซายูริพูดกับนายูกิหลังจากแนะนำ ตัวกันเรียบร้อยแล้ว ซายูริซังเป็นรุ่นพี่สมัยม.ปลายของนายูกิ และของผมด้วย หลัง จากจบการศึกษา ซายูริซังย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่เมืองห่างจากเมืองของผมไป 3-4 สถานีโดยมีไมซังตามมาด้วย "นั่นสินะคะ ครั้งสุดท้ายก็เมื่อพิธีจบการศึกษาของพวกรุ่นพี่ล่ะมั้ง" นายูกิ ตอบ "ความจริง ตอนที่เห็นพวกรุ่นพี่ในร้าน ยังตกใจอยู่นิดหน่อยเลย ย้ายมาทางนี้ตั้ง แต่เมื่อไหร่คะเนี่ย" "ก็......ตั้งแต่จบการศึกษานั่นแหละ" ไมซังตอบแทน ดูเธอจะเปิดใจให้กับ คนรอบข้างมากขึ้นมากกว่าสมัยเรียนม.ปลาย แต่มาคิดอีกที คนที่เธอพูดคุยด้วยก็มีแค่ ผม ซายูริซัง แล้วก็คนที่รู้จักกับผมเท่านั้น "งั้นก็.....ก่อนหน้าคุริจังครึ่งปีสินะ" "เอ๋? คุริสุซังไม่ได้จบการศึกษาที่โรงเรียนพวกเราหรอกเหรอ" ซายูริซังหัน มาทางผม "ผมย้ายกลับมาก่อนเพราะเรื่องทางบ้านน่ะครับ" ผมตอบ จริงๆแล้ว ผม ได้เจอกับซายูริซังอีกครั้งก็เพิ่งจะอาทิตย์เดียวเท่านั้นเอง แต่ความรู้สึกเหมือนได้พบ เพื่อนสนิทเก่าแก่นี้ ยังคงเหมือนกับเมื่อตอนที่พบเธอครั้งแรกไม่มีผิด "แล้วก็ทิ้งฉันเผชิญชีวิตปีสามไว้ทางโน้นคนเดียว......" นายูกิทำเสียงต่ำๆ "นี่ อย่าพูดอะไรให้คนอื่นเข้าใจผิดได้มั้ย" ผมยกมือซ้ายขึ้นเคาะหัว เจ้าหล่อนเบาๆ "ผมเองก็ไม่ได้อยากย้ายแบบกะทันหันอย่างนั้นซักหน่อย ถ้าไม่เพราะจู่ๆ คุณแม่ก็บอกว่าจะตามไปอยู่กับคุณพ่อล่ะก็" บทสนทนาเหล่านี้ ยังคงดำเนินไปจนกระทั่งมื้ออาหารกลางวันวันนั้น จบลง...... . . . . . ชีวิตคนเรานี่ บางทีก็มีอะไรแปลกๆเหมือนกันนะ ไปเจออะไรมารึไง เปล่า ก็แค่อยู่ๆก็ได้เจอคนที่เคยสนิทด้วยเมื่อก่อนติดๆกัน หลายๆคนเท่านั้นเอง ถี่ขนาดไหนกันเชียว ถึงได้เรียกว่าแปลกน่ะ สองอาทิตย์ก่อนก็เจออดีตรุ่นพี่ที่โรงเรียน อืมๆ แล้วเมื่อวาน พี่สาวกับลูกพี่ลูกน้องก็ย้ายกลับมาอีก พี่สาว? ตกลงนายมีพี่น้องกี่คนกันแน่เนี่ย ก็.....พี่สาวสองคน น้องสาวอีกคนนึง ทั้งบ้านมีนายเป็นผู้ชายคนเดียวเนี่ยนะ ใช่ เชื่อเลย แค่นายโตมาได้ขนาดนี้โดยไม่เบี่ยงเบนก็ถือว่า มหัศจรรย์แล้วนะเนี่ย มั้งนะ...... ต่อๆ แล้วที่ว่าสนิทน่ะ ขนาดไหน เอาใครก่อนล่ะ ลูกพี่ลูกน้องก่อนก็แล้วกัน ก็ รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด เรียนอนุบาลที่เดียวกัน แล้วสมัย ม.ปลายก็อยู่บ้านเดียวกัน แค่นั้น อืม แล้วรุ่นพี่ล่ะ อืม คนนึงก็ขนาดเพื่อนสนิท ส่วนอีกคนก็รักแร (...) ผมรีบหยุดมือที่กำลังกดแป้นพิมพ์ติดต่อกัน ไอ้นิสัยคิดยังไงก็พิมพ์ลงไป อย่างนั้นเกือบจะทำให้ผมเผยความลับอะไรออกไปซะแล้ว ผมลบข้อความที่พิมพ์ลงไป ออกจนหมด แล้วพิมพ์ข้อความใหม่ลงไป ก็ขนาดช่วงสองปีที่อยู่ด้วยกัน ไม่เคยห่างกันเกิน 12 ชม.เลย ล่ะมั้ง . . . . . นอกจากในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ยังมีโลกอีกแห่งหนึ่งที่ผมสามารถจะ พูดคุยเรื่องที่ในโลกจริงๆหาคนพูดด้วยได้ยากอยู่อีกหนึ่งที่ ผมไล่มือไปตามคีย์บอร์ด ตาก็มองดูตัวอักษรที่โผล่ขึ้นมาทีละบรรทัด ตอนนี้มีเพียงผมกับคนที่ใช้ชื่อว่า Shinji อยู่ในห้องเพียงสองคนเท่านั้น หลังจากที่มีคนเข้ามาในห้องใหม่ ผมก็ขอตัวออกมาเพื่อ จะพักผ่อน To be Continued......