channel 3 Trick of Trips เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ ในการเดินทาง ที่ได้นำมาให้อ่านกัน มีมากมายหลายเรื่อง จะค่อยๆ รวบรวม และเพิ่มเติมเมื่อมีข้อแนะนำใหม่ๆ หรือเรื่องน่ารู้ต่างๆ คอยติดตามอ่านกันเรื่อยๆ นะครับ

Trick of Trips

เที่ยวทะเลอย่างไรตัวไม่ดำ(มาก)
ดำน้ำให้สนุกและปลอดภัย
ซิป กระดุม และเข็มกลัด
ดับไฟ ก่อนไฟจะไม่ดับ
แผนที่และคู่มือท่องเที่ยว
บันทึกนักเดินทาง

เที่ยวทะเลอย่างไร ตัวไม่ดำ(มาก)

ทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่เราจะสามารถแต่งตัวแบบสบายๆ ได้อย่างเต็มที่ ทั้งเสื้อสีเจ็บ กางเกงขาสั้น ขาก๊วย สายเดี่ยว สุดแท้แต่จะหามาประชันกัน  แต่สิ่งที่สำคัญสำหรับการไปเที่ยวทะเลคือ ต้องไม่ลืมครีมกันแดด อันนี้สำคัญนะครับ บางคนอาจจะนึกว่าไม่กลัวตัวดำไม่ต้องทาก็ได้ แต่สิ่งที่จะตามมาคือ อาการแสบผิว ผิวลอก และการถูกแดดเผานานๆ ก็ไม่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผิวอันบอบบางของเราเลยนะครับ ผมจึงขอแนะนำว่าเราทาครีมกันแดด ถ้าคนที่อยากตัวดำก็ทาที่เป็นแบบ Sun tan หรือ SPF น้อยๆ น่ะครับ รับรองได้ผิวสีแทนสมใจแต่ไม่แสบ ถ้าคนที่กลัวผิวจะดำก็ใช้แบบที่ SPF สูงๆ ซัก 30 ขึ้นไป ผิวเราจะเปลี่ยนสีน้อยกว่าไม่ทาอะไรเลย และควรจะทาก่อนออกแดด 30 นาทีนะครับ จะปกป้องได้เต็มที่ ที่กล่าวมาคือการทาครีมสำหรับผิวกาย ถ้าเป็นผิวหน้านี่ สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ขอแนะนำให้ใช้สูตรสำหรับผิวหน้าโดยเฉพาะนะครับ เพราะบางคนทาครีมที่หน้าแล้วเกิดอาการแสบ หรือหน้าเป็นผื่นเลยก็มี และถ้าจะให้ดีนะครับ เราควรมีผ้าผืนใหญ่ๆ เช่น ผ้าบาติกลายสวย หรือผ้าขาวม้า ซักผืน เวลาที่เราต้องนั่งเรือเล็ก (ซึ่งอาจจะไม่มีหลังคา) ไปดำน้ำ หรือนั่งเรือชมวิว ผ้าเหล่านี้สามารถช่วยกันแดดเราได้อีกชั้นนึง และถ้าเราดำน้ำเสร็จ ตอนขึ้นมาจากน้ำยังสามารนำมาห่มได้ถ้าเผื่อเจอลมแรงแล้วหนาวน่ะครับ เพิ่มเติมอีกนิดนึง ถ้าเรากลับจากดำน้ำหรือกลับมาที่พักแล้ว หลังจากอาบน้ำล้างครีมกันแดด และคราบน้ำทะเลหมดแล้ว ถ้ามีโลชั่น After sun ก็อย่าลืมทานะครับ จะช่วยทำให้เรารู้สึกชุ่มชื่นผิว และลดอาการแสบจากการโดนแดดเผาได้นะครับ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ เท่านี้เราก็เที่ยวทะเลแบบตัวไม่ดำ(มาก)ได้แล้วครับ

 กลับไปหัวข้อ

ดำน้ำให้สนุกและปลอดภัย

ในการไปเที่ยวทะเลหรือเที่ยวเกาะสวยๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการดำน้ำดูปะการัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการดำแบบผิวน้ำ หรือ snorkel นะครับ เวลาที่เราจะดำดูปะการัง ผมก็มีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ครับ ตอนที่เราจะลงน้ำน่ะครับ อย่าลืมตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ ทั้งชูชีพ ซึ่งต้องรัดให้พอดี และสวมแว่นตาว่ายน้ำให้เรียบร้อย ถ้าเรายังไม่สวมแว่นตาว่ายน้ำไว้ที่ตา ขอแนะนำให้เอามาสวมไว้ตรงคอนะครับ บางคนชอบเอามาคาดไว้บนหน้าผากน่ะครับ มันจะทำให้แว่นตาเป็นฝ้าได้ แล้วตอนโดดลงน้ำอาจทำให้แว่นตาหลุดจากหน้าผากของเราที่มีความลื่นจากครีมกันแดดน่ะครับ แล้วทีนี้แว่นตาก็จะหลุดล่วง จมหายลงไปในน้ำทันทีเลยครับ นอกจากจะอดดูปะการังแล้ว ยังต้องเสียเงินหากไม่สามารถลงไปงมขึ้นมาได้นะครับ แล้วตอนที่เราดำน้ำดูปะการังเนี่ย อย่าเผลอหายใจทางจมูกเชียวนะครับ การสำลักน้ำทะเลนี่เป็นความทรมานอย่างหนึ่งทีเดียว แต่ส่วนใหญ่แว่นตาดำน้ำจะบีบจมูกเรา ไม่ให้เผลอหายใจอยู่แล้วนะครับ

ตอนที่เราดำน้ำดูปะการังอยู่เนี่ย บางทีเราจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ตามตัว เหมือนโดนอะไรกัดน่ะครับ ใช่แล้วครับ สิ่งนั้นคือแตนทะเล เป็นสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ น่ะครับ ซึ่งจะชอบอยู่ตามที่ๆ มีปะการัง น่ะครับ เพราะฉะนั้นคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับเจ้าพวกนี้ ข้อแนะนำก็คือ เราควรดำน้ำด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่นเสื้อแขนยาว ผ้าบางๆ ที่แห้งง่ายๆ กางเกงขายาวก็ดีครับ แต่ควรเลือกที่ผ้าแห้งง่ายน่ะครับ เพราะจะช่วยป้องกันเราจากแตนทะเลได้ ไม่มากก็น้อย หากเราโดนกัด จะทั้งเจ็บทั้งคัน และจะทิ้งรอยผื่นไว้เป็นเวลานานเลยครับ ก็ป้องกันเท่าที่จะทำได้นะครับ อย่าซีเรียส โดนกัดบ้าก็ไม่เป็นไร เจ็บๆ คันๆ ดี

อีกอย่างตอนที่เราดำน้ำคือ ดูแต่ตามืออย่าต้องนะครับ เพราะปะการังเนี่ยค่อนข้างบอบบาง และกว่าจะโตขึ้นมาได้ต้องใช้เวลานานทีเดียว อย่าไปโดนเค้านะครับ เพราะนอกจากเป็นการทำร้ายเค้าแล้ว เราอาจโดนพิษจากปะการัง หรือดอกไม้ทะเล ซึ่งจะทำให้เราคัน หรือแสบได้ครับ

ถ้าเราว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ โขดหิน ต้องระวังนะครับ เพราะคลื่นจะซัดเราเข้าไปใกล้โขดหิน ซึ่งจะมีเพรียงเกาะอยู่ เจ้าเพรียงนี่แหละครับ คมเหลือเกิน ถ้าเราไปโดนเข้าก็จะบาดเจ็บได้ครับ

การว่ายน้ำทะเลเนี่ย ถ้าคุณมีฟิน หรือตีนกบเนี่ย จะช่วยผ่อนแรงได้เยอะเลยนะครับ เพราะจะทำให้เราว่ายน้ำได้เร็วขึ้นจากการตีฟินไม่กี่ครั้ง ผมเองก็อาศัยฟิน(ของเพื่อน)ประจำครับ เวลาต้องว่ายทวนน้ำเนี่ย ก็เกาะไปกับเพื่อนที่มีฟินครับ ช่วยทุ่นแรงได้เยอะเลยครับ แต่การตีฟินเนี่ย ต้องระวังนิดนึง คืออาจทำให้ขาเป็นตะคริวได้หากตีแรงเกินไป ทางที่ดีคือตีฟินเพียงเบาๆ ตัวเราก็พุ่งไปได้ไกลกว่าคนไม่มีฟินเยอะแล้วครับ

ถ้าคุณเป็นคนที่ว่ายน้ำแข็งนะครับ การว่ายแบบมีชูชีพนี่ เป็นเรื่องที่กินแรงอยู่ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ ถ้าคุณไม่ชอบที่จะใส่ชูชีพว่ายน้ำ ก็้ถอดออกได้ครับ แต่ขอให้นำชูชีพติดตัวไปด้วย อาจจะลากไป หรือจับไว้ ก็แล้วแต่สะดวก เพราะชูชีพจะช่วยเราได้เวลาที่เราว่ายน้ำเหนื่อย เราก็เกาะชูชีพลอยตัวได้ หรือถ้าเกิดเป็นตะคริวขึ้นมา ก็เกาะชูชีพไว้ แล้วร้องให้เพื่อนช่วยได้

แว่นตาว่ายน้ำนี่ก็สำคัญนะครับ ควรจะอยู่ติดหน้า หรือถ้าต้องการถอด ควรเอามาไว้ที่คอนะครับ แว่นตาว่ายน้ำนี่สามารถช่วยชีวิตเราได้นะครับ ถ้าเป็นกรณีที่เราอาจจะประสบเหตุ ที่ต้องลอยคออยู่ในทะเลนานๆ แล้วไม่มีชูชีพติดตัว เราสามารถใช้อากาศที่มีอยู่ในแว่นตา ช่วยให้ตัวเราลอยอยู่ปริ่มๆ น้ำได้ แต่ต้องทำตัวตั้งตรงๆ กับทะเล และอยู่นิ่ง นะครับ แล้วทีนี้เราก็อาศัยอากาศจากท่อหายใจ เราก็จะสามารลอยตัวและหายใจอยู่ในน้ำได้ จนกว่าจะมีคนมาช่วยเหลือครับ

อีกนิดก็คือ เวลาที่เรานั่งเรือเข้าฝั่งน่ะครับ หากไม่มีท่าเทียบเรือ ก็จะต้องนั่งเรือเล็กเข้าไป ซึ่งบางทีเรือจะเข้าไปไม่ถึงหาด อาจต้องลงเดินย่ำน้ำไป ตอนที่เดินย่ำน้ำนี่ต้องระวังนิดนึงนะครับ อาจโดนเปลือกหอย เศษแก้ว หรือหอยเม่น ตำเท้าได้ ทางที่ดีสวมรองเท้าจะปลอดภัยกว่านะครับ รองเท้าที่ที่เอาไปเที่ยวทะเลจึงควรเป็นรองเท้าที่ลุยน้ำได้ครับ ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการไปเที่ยวทะเล คงพอมีประโยชน์บ้างนะครับ

 กลับไปหัวข้อ

ซิป กระดุม และเข็มกลัด

อันนี้เป็นประสบการณ์กับตัวเองเลยครับ คือตอนที่ผมจะไปเที่ยวแบบแคมปิ้งน่ะครับ ในการจัดกระเป๋า ก็ต้องเลือกเอาเฉพาะที่จำเป็น เสื้อผ้าที่เอาไปจึงไม่มากนัก ผมเลยเอากางเกงขายาวไปแค่สองตัว เป็นแบบซิป และแบบกระดุม อย่างละตัว วันแรกที่ไปก็ใส่แบบกระดุมไปก่อน พออีกวันหยิบเอาตัวที่เป็นซิปมาใส่ เป็นเรื่องเลยครับ เพราะขณะที่รูดซิปขึ้นมา (เป็นซิปแบบโลหะฟันห่างๆ ) เจ้าตัวที่จับ ก็หลุดตามมือมาเลย แต่ตอนนั้นรูดขึ้นมาสุดแล้ว เราก็คิดว่า คงแค่ตัวที่จับหลุด ไม่เป็นไรน่า  แต่พอสักพัก เจ้าฟันซิปก็เกิดอาการแยกออกจากกัน ผมพยายามรูดใหม่ไม่ให้มันแยกออกจากกัน ก็ต้องบรรจงรูดอยู่หลายทีกว่ามันจะยอมติดกันครับ และในที่สุด ความกังวลเรื่องซิปจะแยกออกจากกันโดยไม่รู้ตัวของผมก็หมดลง เมื่อเจ้าตัวที่ทำหน้าที่ให้ซิปทั้งสองข้างปรองดองกัน (ตัวที่รูดน่ะครับ) ก็กระเด็นออกเป็นสองส่วน แล้วซิปทั้งสองข้างก็แยกจากกันโดยถาวร เอาละซิ ทีนี้จะทำยังไงล่ะ กางเกงก็เตรียมมาน้อย ก็เลยต้องอาศัยเข็มกลัดช่วยชีวิต โดยปกติผมจะเอาชายเสื้อออกนอกกางเกงอยู่แล้ว ก็พอปิดบังไดับ้าง แต่ไม่อุ่นใจเท่าใส่กางเกงที่รูดซิปได้ปกติหรอกครับ

ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากจะแนะนำกันเอาไว้น่ะครับ ให้ตรวจสภาพเสื้อผ้าให้พร้อมด้วย และก็อย่าลืมพวกอุปกรณ์ซ่อมเสื้อผ้าฉุกเฉิน เช่น เข็ม ด้าย เข็มกลัด พวกเนี้ย ชิ้นเล็กๆ แต่ช่วยเราได้ในเวลาที่จำเป็นนะครับ

 กลับไปหัวข้อ

ดับไฟก่อนไฟจะไม่ดับ

เวลาที่เราไปเที่ยวตามป่าตามเขา โอกาสที่จะเจออากาศหนาวก็เป็นไปได้สูงนะครับ และทีนี้พอตอนกลางคืนเราก็จะมีการก่อกองไฟเพื่อความอบอุ่นและเพื่อสร้างบรรยากาศน่ะครับ ความอบอุ่นท่ามกลางความหนาวเย็น มีเสียงเพลงบรรเลงเป็นเพื่อน จิบเครื่องดื่มที่ถูกใจ โอ้โห สุขอย่าบอกใครเลยครับ หลังจากที่ความสุขเปลี่ยนเป็นความง่วงและความเมาแล้ว ก็คงถึงเวลาเข้านอน ซึ่งพอถึงเวลานี้ หลายคนมักจะง่วงและอยากนอน จนลืมดูแลความเรียบร้อยก่อนนอน เช่น กองไฟซึ่งยังไม่ดับ เราก็ควรจะดับให้เรียบร้อยนะครับ เพราะไฟที่คุระอุอยู่ในกอง อาจโดนลมพัดโหม หรือเปลวไฟอาจกระเด็นไปที่อื่น แล้วทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาได้ ดังเหตุการณ์ที่ผมเจอที่ ภูชี้ฟ้า น่ะครับ โชคดีที่ไฟไม่แรงมาก และดับได้ทัน ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายร้ายแรงได้ครับ อ้อ นอกจากจะดูแลดับไฟให้เรียบร้อย ก็อย่าลืมนะครับ ถ้ามีเพื่อนๆ ที่เมาหลับอยู่แถวนั้น ก็อย่าลืมเอาไปเก็บในเต็นท์หรือในบ้านพักด้วยนะครับ เพราะกลางคืนอากาศจะหนาวมาก เดี๋ยวเพื่อนจะไม่สบายเอาครับ

 กลับไปหัวข้อ

แผนที่และคู่มือท่องเที่ยว

เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการท่องเที่ยวของเราไม่น้อย ยิ่งเป็นสถานที่ ที่เราไม่เคยไปยิ่งสำคัญุครับ เพราะจะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้เราได้เวลาต้องเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราต้องเดินทางไปต่างประเทศ ก็อย่าลืมหยิบแผนที่ท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะมีแจกฟรีตามสนามบิน ติดมือมาด้วยนะครับ มีกันคนละแผ่นเลยยิ่งดี ผมมีประสบการณ์ตอนที่ได้มีโอกาสไปต่งประเทศ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกน่ะครับ ก็เลยไม่ค่อยรู้อิโหน่อิเหน่ เวลาจะไปเที่ยวที่ไหนที ก็อาศัยคู่มือท่องเที่ยวบวกกับแผนที่นี่แหละ เป็นผู้ช่วยเหลือในการเดินทาง เลยได้ไปเที่ยวในหลายๆ ที่ แต่ขอบอกไว้นะครับว่าถ้ามีแผนที่แล้วเราต้องใช้ให้เกิดประโยชน์นะครับ เคยมีเหมือนกันที่ไปกันเป็นกลุ่ม แต่มีแผนที่แค่แผ่นเดียว ที่เราจะไปเที่ยวกันเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมาก ก็เลยมีป้ายบอกทางไปตลอด เราก็เลยเดินตามป้าย โดยไม่ได้เปิดแผนที่ดู กว่าจะไปถึงที่เที่ยวได้ ต้องเดินลัดเลาะเข้าซอยโน้น ออกซอยนี้ เล่นเอาเมื่อยไปเลยครับ พอไปถึงที่เที่ยว คุณเพื่อนตัวดีก็หยิบแผนที่มาดูปรากฏว่า จุดที่เราเดินมาถึง กับจุดที่เราเริ่มต้นเดิน ห่างกันไม่ไกลเลย แต่เราเดินอ้อมมาซะเยอะเลย แต่เราเข้าใจนะว่า ทางการที่นั่น เขาคงอยากให้เราได้เดินชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน และได้อุดหนุนสินค้าของเค้าด้วย ซึ่งแต่ละคนในคณะก็ได้ของติดไม้ติดมือกันมาพอสมควร (ก็แหมเดินมาตั้งไกล ถ้าเจอของถูกใจแล้วไม่ซื้อนี่ ก็คงจะเดินกลับไปซื้ออีกไม่ไหว แต่ก็มีต่อรองตามนิสัยคนไทยแหละครับ)

ข้อดีของแผนที่อีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าสถานที่ ที่เราไปมีคนพลุกพล่าน โอกาสที่จะพลัดหลงกันก็มีมากเช่นกัน ยิ่งเป็นต่างประเทศเนี่ย บ้านเมืองดูแปลกตาไปหมด ดูแล้วก็งง แถมเครื่องมือสื่อสารก็ไม่ได้นำติดตัวมาด้วย ถ้าหลงไปใจหายแย่เลย เราจึงใช้แผนที่ไว้กำหนดจุดนัดพบ หากเกิดหลงกันได้  และยังช่วยนำทางเราไปสู่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ซึ่งไม่มีอยู่ในโปรแกรมก็ได้ เคยมีอยู่ครั้งนึงครับ ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มครับ แต่ที่เราไปเที่ยวจะมีคนเยอะมาก บางทีแค่เดินห่างกันนิดเดียวเอง พอไปเจอกับคนกลุ่มใหญ่ตัดหน้า มาดูอีกทีเพื่อนหายไปไหนหมดแล้ว ตรงนั้นก็มีทั้งทางแยก สะพานลอย อุโมงค์ลอดใต้ดิน ก็สรุปว่าหลงครับ ดีที่ว่าได้นัดแนะกันไว้ก่อนว่า ถ้าหลงกัน ตอนเย็น ให้ไปเจอกันที่สถานีรถไฟ จากกลุ่มใหญ่ 10 คน เดินไปเดินมา กลายเป็นกลุ่ม 4, 3, 2, 1 คนครับ ต่างคนก็ต่างเดิน พอตอนเย็นมาเจอกัน ก็คุยกันว่าไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง ซึ่งแต่ละคนก็ไปกันคนละที่กันเลย ก็เลยมีเรื่องให้คุยกัน แถมมีของมาอวดกันด้วยครับ สนุกดี แต่ให้หลงบ่อยๆ คงไม่ดีแน่ครับ เพราะฉะนั้น จะไปเที่ยวไหนอย่าลืมนะครับ แผนที่และคู่มือท่องเที่ยว ติดตัวไว้ใช้ อุ่นใจครับ

 กลับไปหัวข้อ

บันทึกนักเดินทาง

ในปีหนึ่งๆ จะมีวันหยุดทั้งสุดสัปดาห์ และวันหยุดตามเทศกาลเป็นจำนวนมากนะครับ คงจะมีซักช่วงเวลาหนึ่ง ที่เราจะได้ไปพักผ่อนหย่อนใจ ผมว่าอย่างน้อยน่าจะซักปีละสองครั้งนะครับ ก็จะทำให้เรามีกำลัง มีแรงกลับมาลุยงานต่อครับ

การไปเที่ยวของเราแต่ละครั้งนะครับ แน่นอนว่าต้องมีเรื่องประทับใจ ไม่ว่าจะสถานที่หรือผู้คน ซึ่งบางที่อาจจะเดินทางไปเที่ยวลำบาก หรือต้องเหนื่อยยาก จนหลายๆ คนคิดในใจว่าคงไปครั้งนั้นครั้งเดียวก็พอแล้ว (เพราะกว่าจะได้ไปอีกครั้ง อาจจะอายุเยอะจนลุยไม่ไหว) เพื่อไม่ให้ความรู้สึก หรือความทรงจำที่ดีๆ ต้องเลือนหายไปกับกาลเวลา เรามาจดบันทึกเรื่องราวประทับใจเหล่านั้นไว้ดีกว่าครับ ไม่ว่าจะบันทึกไว้ในปาล์ม หรือจดใส่สมุดโน้ต ก็ดีทั้งนั้นแหละครับ  ถ้าในแต่ละวัน คุณไปเที่ยวมาหลายที่ อาจจะไม่มีเวลาเขียนบรรยายในตอนนั้น ก็่จดเพียงคร่าวๆ แล้วพอหมดโปรแกรมการเดินทาง กลับมาถึงที่พัก ค่อยมาเขียนบรรยายรายละเอียดอีกที

ในการเดินทางแต่ละครั้ง ถ้าเราได้ศึกษา หรือเตรียมการล่วงหน้าไว้ก่อนว่า เช่น เราจะไปเที่ยวที่ไหน การเดินทางเป็นเช่นไร พักที่ไหน เส้นทางที่จะไปเป็นอย่างไรบ้าง ... ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการเตรียมความพร้อม และจะทำให้เราเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน เช่น ถ้าจะไปเที่ยวป่าเที่ยวเขา ก็ต้องเตรียมของใช้เท่าที่จำเป็น เพราะเราอาจต้องแบกสัมภาระเอง รองเท้าก็ควรจะเป็นแบบลุยๆ และปีนเขาได้อย่างมั่นใจ อุปกรณ์กันหนาวเท่าที่จำเป็น เป็นต้น หรือถ้าเราจะไปเที่ยวทะเล การเตรียมการจะคนละแบบกันเลย เสื้อผ้าก็จะเป็นแบบบางๆ สีสดใส รองเท้าแตะที่ลุยน้ำได้ ชุดว่ายน้ำ เป็นต้น

นอกจากเตรียมเสื้อผ้าแล้ว อย่างอื่นก็จะตามมาด้วย เช่น ถ้าเราขับรถไปกันเอง ก็ต้องเช็คสภาพรถยนต์ให้พร้อมกับการเดินทาง ควรมีแผนที่ติดรถไปด้วย ถ้าเส้นทางที่ไปมีความคดเคี้ยว ต้องขึ้นเขาลงห้วย ก็อาจจะมียาแก้เมารถ หรือยาดมติดไปด้วย หากไปเที่ยวในช่วงเทศกาล ควรจองที่พักไว้ล่วงหน้า หากไม่ได้จองก็ควรมีเต็นท์ติดรถไปด้วย กันพลาด เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอุทธยานแห่งชาติหลายที่ ที่เราสามารถกางเต็นท์ได้ครับ การท่องเที่ยวของเรา จะสนุกสนานและสมบูรณ์ได้ ก็ขึ้นอยู่กับการเตรียมการ และการวางแผนที่ดีครับ

 กลับไปหัวข้อ


<channel1> <channel2> <channel4> <channel5>


1