แก้ปัญหาได้ก็หายเครียดได้
ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่กระตุ้นให้คนเราคนเราเครียดได้ ในช่วงแก้ปัญหาไม่ได้ จะรู้สึกเครียดมาก การแก้ปัญหาได้เร็ว และมีประสิทธิภาพมากเท่าใดก็จะหายเครียดได้มาก และเร็วขึ้นเท่านั้น ดั้งนั้น การเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องจำเป็นต่อการคลายความเครียด
คุณชอบแก้ปัญหาแบบไหน?
ลองตอบคำถาม ใช่ หรือไม่ใช่ ที่ตรงกับความคิดเห็นของคุณมากที่สุด
เมื่อเกิดปัญหา |
ใช่ |
ไม่ใช่ |
1. ฉันจะแสดงสีหน้าท่าทาง คำพูดหรือแสดงอารมณ์ตอบโต้ออกมาทันทีโดยไม่ยั้ง |
|
|
2. ฉันจะสูบบุหรี่ ดื่มสุรา เล่นการพนัน หรือเทียวเตร่ เพื่อให้หายเครียด |
|
|
3. ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น |
|
|
4. ฉันจะยอมรับว่าเป็นความผิดของฉันเอง |
|
|
5. ฉันจะโทษว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของผู้อื่น |
|
|
6. ฉันจะคิดแก้ปัญหาและลงมือทำตามที่คิดไว้ |
|
|
เฉลย
1. ถ้าคุณตอบว่า "ใช่" ในข้อ 1คุณชอบแก้ปัญหาแบบวู่วาม
วิธีนี้อาจช่วยปล่อยความเครียดออกจนหมดแต่ ผลเสียที่ตามมาคือทำให้คนรอบข้างเครียด และเกิดความขัดแย้งกับผู้อื่นได้ ดังนั้นคุณจึงควรระงับอารมณ์ไว้บ้าง หัดนับ 1 10 หรือหายใจเข้าช้าๆลึกๆสัก 4 5 ครั้ง ก่อนที่จะตอบโต้อะไรออกไป คุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังกับสิ่งที่คุณได้ทำลงไปโดยขาดความยั้งคิดแบบแต่ก่อน
2. ถ้าคุณตอบว่าใช่ในข้อ 2 แสดง ว่าคุณเป็นคนชอบหนีปัญหา
การหนีปัญหา อาจทำให้รู้สึกสบายใจได้ช่วคราวแต่เมื่อปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขไปให้หมดไป ความเครียดจึงยังคงอยู่ และอาจเพิ่มมากขึ้นเพราะมีปัญหาอื่นทับถมเข้ามาอีก เช่นการติดสุรา การติดเชื้อเอดส์ การมาหนี้สินเป็นต้น
3. ถ้าคุณตอบว่า "ใช่" ในข้อ 3 แสดง ว่าคุณเป็นคนชอบแก้ปัญหาโดยการขอความช่วยเหลือ จากผู้อื่น
วิธีนี้มีส่วนดี เพราะทำให้รู้สึกอุ่นใจว่ายังมีคนคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ คุณไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้สู้ปัญหาเพียงลำพังแต่การพึ่งพิงคนอื่นมากเกินไปก็ไม่ดี ควรลองหัดแก้ปัญหาด้วยตัวเองดูก่อน ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ จึงค่อยขอความช่วยเหลื่อจากผู้อื่น
4. ถ้าคุณตอบว่า "ใช่" ในข้อ 4 แสดง ว่าคุณเป็นคนชอบตำหนิตัวเอง
การยอมรับความผิดเป็นเรื่องดี แต่ถ้ารับผิดและตำหนิตัวเองไปเสียทุกครั้ง จะเป็นการมองตัวเองในแง่ร้ายเกินไป บางครั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสุดวิสัย หรือไม่ก็ น่าจะอยู่ในความรับผิดชอบของหลายๆคน จึงไม่ยุดติธรรมที่จะตำหนิตัวเองเพียงคนเดียว เพราะจะทำให้คุณรู้สึกเสียใจท้อแท้ และหมดกำลังใจที่จะคิดแก้ไขปัญหาต่อไป บางครั้งคุณอาจทำผิดจริงแต่คนเราก็ย่อมผิดกันได้ ควรให้อภัยตัวเอง ถือเอาความผิดนั้นเป็นบทเรียนที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีกดีกว่า
5. ถ้าคุณตอบว่า "ใช่" ในข้อ 5 แสดง ว่าคุณเป็นคนชอบโยนความผิดให้ผู้อื่น
การปัดความรับผิดชอบ เป็นเรื่องไม่สมควร ไม่ว่า จะเป็นการโยนความผิดให้ผู้อื่น หรือการโทษเคราะห์กรรม โทษโชคชะตาก็ตาม เพราะไม่ใช่การแก้ปัญหาเลย ตราบใดที่ปัญหายังคงอยู่ ความเครียดก็จะคงอยู่ด้วย ทางที่ดี คุณควรหาทางคิดแก้ปัญหา หรือร่วมมือกับผู้อื่นในการแก้ปัญหา จะดีกว่าการโทษกันไปโทษกันมาให้ผิดใจกันเปล่าๆ
6. ถ้าคุณตอบว่า "ใช่" ในข้อ 6 แสดง ว่าคุณรู้จักวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ แม้จะเสียเวลาและต้องใช้ความคิดมากกว่าอารมณ์ รวมทั้งต้องพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหาให้ได้หลายๆวิธี อาจทำให้รู้สึกชักช้าไม่ทันใจ แต่สามารถจะหวังผลสำเร็จได้สูง เพราะได้คิดไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว
วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนดังนี้