การปฏิบัติการกลืนพระพุทธศาสนาตามคำสั่ง VATICAN COUNCIL 2

 

 

มีหลักฐานและเหตุผลที่ยืนยันว่าได้มีการสังเคราะห์ "ไวรัสศาสนา" จากพระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนา อันได้ถูกคัดเลือกตัวไว้เนื่องจากได้ถูกอบรม และร่วมกิจกรรมกับขบวนการที่มีอุดมการณ์ทำลายชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่มีการสร้างภาพ และสร้างความเชื่อถือให้กับ "ไวรัสศาสนา" โดยสื่อและขบวนการล้มพุทธเพื่อให้ ทำหน้าที่ "กลืนพระพุทธศาสนา" ตามคำสั่ง VATICAN COUNCIL 2 ข้อ 9:12:19 ที่ว่า

"ให้แยกแทรกศาสนธรรมที่แท้จริง อันทรงคุณค่าในพระพุทธศาสนาให้ได้ โดยอาศัยพระวจนะเผยของพระเจ้าในคริสต์ศาสนาเป็นเครื่องส่องทาง ให้ดำเนินการพิจารณาหาหนทางจัดทำให้เห็นได้ว่า ศาสนธรรมอันทรงคุณค่าสมบูรณ์ในพระพุทธศาสนานี้จะสมบูรณ์ได้ด้วยการอาศัยคำของคริสต์ศาสนา"

จากพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าในคำสั่งนี้ ได้มีการปรับแปลง ทำให้คลาดเคลื่อนจากคำสอน และเผยแพร่แนวความคิดอันมิใช่พุทธพจน์ ปรากฏในหนังสือ "พุทธธรรม" ฉบับปรับปรุง ๑๑๔๕ หน้า พิมพ์ครั้งที่ ๗ จัดพิมพ์โดยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หน้า ๒๗๕ ซึ่งเป็นเจตนาอาศัยใช้คำของคริสเตียนแทรกในพระสัทธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันมีข้อความในหนังสือ "พุทธธรรม" ดังนี้ว่า

"ผู้บรรลุ อุดมธรรม ไม่ต้องการอะไรในโลกนี้ทั้งหมด ย่อมไม่เศร้าโศกเพราะความตาย....."

ซึ่งข้อความอันแท้จริงในพระสูตรบทนี้ ซึ่งมีในพระไตรปิฎกบาลีเถรวาทนั้น ในภาคภาษาไทยมีความว่า

"ผู้บรรลุ ธรรมอันสูงสุด ไม่ต้องการอะไรในโลกนี้ทั้งหมด ย่อมไม่เศร้าโศกเพราะความตาย...."

นี่คือความแตกต่างเนื่องจากว่า คำที่ขีดเส้นไต้คือคำว่า ธรรมอันสูงสุด นั้น ในภาษาบาลีของพระไตรปิฎกนั้นมา จากคำว่า "อุตตมํ ธมฺมตตํ" ไม่สามารถแปลว่า "อุดมธรรม" ได้เลยโดยอรรถและพยัญชนะ ซึ่งพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) ก็ไม่ได้มีเชิงอรรถอธิบายไว้ในหนังสือ "พุทธธรรม" ว่า อุดมธรรม แปลว่าอะไร? แม้ในหนังสือทุกเล่มที่เขียนโดย "ไวรัสศาสนา" ก็ไม่ได้แปลความหมาย "อุดมธรรม ว่า ธรรมะอันสูงสุด" กระทั่งในหนังสือพจนานุกรม ฉบับประมวลศัพท์ ผู้เขียนตนเดียวกันเป็นผู้รวบรวมขึ้นเองนั้น ก็ไม่มีคำแปลของคำว่า "อุดมธรรม" แต่เมื่อไปเปิดดูหนังสือชื่อ "อุดมธรรม นำจิตสำนึกของสังคมไทย" ที่เขียนโดยตัวพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) พ.ศ. ๒๕๓๗ อีกนั่นแหละกลับให้ความหมายสรุปโดยรวมว่า "อุดมธรรม คือการเกื้อกูลศาสนาอื่น" ซึ่งตามพุทธพจน์ไม่เคยปรากฏในพระสูตรใดในพระไตรปิฎกบาลีเถรวาทว่า "อุดมธรรม หมายถึงการเกื้อกูลศาสนาอื่น" ทั้งสิ้นและเมื่อไปเปิดหาในศาสนาอื่นๆ ดังที่กล่าวนั้น ก็พบว่าตรงกันกับคำเผยแพร่หลักธรรมของศาสนาคริสต์ในหนังสือศาสนาคริสต์ของ บาทหลวงคริสเตียนโรมันคาทอลิค ชื่อ เสรี พงศ์พิศ ซึ่งร่วมกิจกรรมทางการเมืองในกลุ่มของมูลนิธิโกมลคีมทอง ซึ่งทางราชการได้ทำการกวาดล้างในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เพราะมีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสถาบันชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่ง "ไวรัสศาสนา" ก็ร่วมกิจกรรมกับมูลนิธินี้ในฐานะองค์ปาฐกด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อได้พิจารณาแล้วจึงไม่ใช่เป็นการบังเอิญด้วยประการทั้งปวง หากท่านผู้อ่านได้พิจารณารูปภาพจะเห็นได้ชัดแจ้ง (ดูภาคผนวก) ยิ่งไปกว่านั้นพระศรีปริยัติโมลี ยังได้นำ เสนอ "อุดมธรรม" ว่าคือ นิพพาน" ปรากฏในผังการปกครองคณะสงฆ์ไทยฉบับใหม่ (ดูภาคผนวก) โดยมีคำว่า "นิพพาน" เป็นอักษรตัวเล็กๆ อธิบายคำว่า "อุดมธรรม" ทั้งๆ ที่ ไม่ปรากฏ ณ ที่ใดว่า "นิพพาน" ใช้คำว่า "อุดมธรรม" แทนกันได้ในทุกพระสูตรอันปรากฏในพระไตรปิฎกบาลีเถรวาท นี่คือการทำให้คลาดเคลื่อนจากแทรกคำสั่งสอนของคริสเตียน ลงไปในพระสัทธรรมของพระพุทธศาสนา ตามคำสั่งของวาติกันอย่างไม่มีทางปฏิเสธใดๆ

ที่ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) รู้ล่วงหน้าอยู่ก่อนที่จะต้องจัดตั้งสร้างกระแส "เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ปี พ.ศ.๒๕๔๐" ว่าจะต้องมีบทบัญญัติที่ให้ประโยชน์อย่างยิ่งต่อต่างชาติและต่างศาสนา จึงเป็นคำถามว่า ถ้าหากท่านไม่ใช่ "ไวรัสศาสนา" ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาเฉพาะกิจ เหตุใดข้อความในหนังสือของท่านจึงชี้นำเช่นนั้น ด้วยจุดประสงค์อะไร ? หรือท่านเป็นพระอรหันต์ รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า (อนาคตํสญาน) จึงสามารถเขียนหนังสือ "อุดมธรรม" เพื่อสนับสนุนมาตรา ๕, ๓๘, ๗๓ ของรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๗ ก่อนมีการใช้สื่อมวลชนสร้างกระแสเรียกร้องโดยนายประเวศ วะสี (ราษฏรอาวุโส ไม่รู้คือตำแหน่งอะไรตามกฎหมายไหน? และใครตั้ง....งง) ผู้ร่วมในกิจกรรมของท่าน เพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้อย่างไรหากไม่มีการรับแผนการล่วงหน้า ?


(หน้าปก - - - สารบัญ - - - อ่านต่อ)

1