(จากหนังสือ เตรียมสอบ ม.3 / สำนักพิมพ์พัฒนาศีกษา)

โจทย์        ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส อากาศอิ่มตัวด้วยไอน้ำ 160 g/m³ แต่ในขณะนี้มีไอน้ำเพียง 120 g/m³ จงหาความชื้นสัมพัทธ์ของอากาศ
วิธีคิด        ความชื้นสัมพัทธ์   =           มวลของไอน้ำที่มีอยู่จริงในอากาศขณะนั้น           x 100

                                 มวลของไอน้ำในอากาศอิ่มตัวที่อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน

                               =       120g/m³   x 100

                                        160g/m³

                               =      75%

      ความชื่นสัมพัทธ์ของอากาศ        75%                                  Ans.

ถ้ามวลของไอน้ำที่มีอยู่จริงในอากาศ ขณะนั้นเท่ากับมวลของไอน้ำในอากาศอิ่มตัวที่ อุณหภูมิและปริมาตรเดียวกัน อากาศนั้นมีความชื้นสัมพัทธ์ 100%

อากาศที่ทำให้เรารู้สึกสบาย มีความชื้นสัมพัทธ์ 60%

ถ้าอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์มาก จะทำให้เหงื่อบนตัวเราระเหยได้น้อย จึงทำให้ เหนียวตัวและรู้สึกอึดอัด

ถ้าอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ จะทำให้เหงื่อบนตัวเราระเหยได้มาก จึงทำให้ รู้สึกเย็นบางครั้งทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก

เครื่องมือที่ใช้วัดความชื้นสัมพัทธ์ เรียกว่า ไฮโกรมิเตอร์ (hygrometer)    

ไฮโกรมิเตอร์ แบบกระเปาะเปียก - กระเปาะแห้ง

การหาค่าความชื้นสัมพัทธ์โดยใช้ไฮโกรมิเตอร์แบบกระเปาะเปียก - กระเปาะแห้ง ทำได้ ดังนี้

1. อ่านอุณหภูมิของกระเปาะแห้งและกระเปาะเปียก (อุณหภูมิของกระเปาะแห้งสูงกว่าของกระเปาะเปียก)
2. หาผลต่าง (เอาอุณหภูมิของกระเปาะแห้งตั้งลบด้วยอุณหภูมิของกระเปาะเปียก)
3. อ่านค่าความชื้นสัมพัทธ์จากตาราง อ่านอุณหภูมิของกระเปาะแห้งในแนวนอน ผลต่างอยู่ในแนวตี้งตัวเลขตรงตำแหน่งที่แนวทั้งสองตัดกัน คือ ค่าความชื้นสัมพัทธ์เป็นเปอร์เซนต์

ตารางที่ 13.4 ความชื้นสัมพัทธ์เป็นเปอร์เซนต์

ผลต่างของอุณหภูมิ (องศาเซลเซียส)	อุณหภูมิเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะแห้ง
	10 - 14	15 -19	20 - 24	25 - 29	30 - 34	35 - 39	40 - 44
0.5 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 4.0 4.5 5.0 6 7 8 9 10 11 12 13 14	94 89 83 77 72 67 61 56 51 46 36 26 15 5	95 90 86 81 76 72 67 61 56 51 46 36 26 15 5	96 92 88 83 80 75 72 68 64 60 53 46 39 32 25 19 13	96 93 89 85 82 78 75 71 68 62 57 51 46 41 36 31 28 25 19	97 93 90 86 83 78 77 74 71 68 62 57 51 46 41 36 31 28 25	97 94 91 88 85 80 79 76 73 71 65 60 55 51 46 42 37 33 29	97 94 91 89 86 83 81 78 76 73 68 63 59 54 50 46 43 38 34

โจทย์        ในวันที่ 30 มิถุนายน แดงอ่านอุณหภูมิของเทอร์มอมิเตอร์ กระเปาะแห่งได้ 34 องศาเซลเซียส และ อ่านอุณหภูมิของเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะเปียกจากไฮโกรมิเตอร์แบบกระเปาะเปียก กระเปาะแห้งได้ 30 องศาเซลเซียส
จากตารางที่ 13.4 อากาศมีความชื้นสัมพัทธ์เท่าใด
วิธีคิด        อุณหภูมิของเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะแห้ง      =       34 องศาเซลเซียส


    อุณหภูมิของเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะแห้ง      =       30 องศาเซลเซียส


    ดังนั้นผลต่างของอุณหภูมิ                             =       4 องศาเซลเซียส


    อ่านค่าความชื้นสัมพัทธ์จากตารางได้ดังนี้

ผลต่างของอุณหภูมิ (องศาเซลเซียส)	อุณหภูมิเทอร์มอมิเตอร์กระเปาะแห้ง
	10 - 14	15 -19	20 - 24	25 - 29	30 - 34	35 - 39	40 - 44
0.5 . . . 4.0 . . . 14	94 . . . 56 . . .	95 . . . 63 . . .	96 . . . 68 . . .	96 . . . 71 . . . 19	97 . . . 74 . . . 25	97 . . . 76 . . . 29	97 . . . 78 . . . 34




    อากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ 74%                                                 Ans.

ที่อุณหภูมิหนี่ง เมื่อผลต่างของอุณหภูมิระหว่างกระเปาะแห้งกับของกระเปาะเปียกมากขึ้น ค่าความชื้นสัมพัทธ์จะน้อยลง เช่น

          ถ้าอุณหภูมิของกระเปาะแห้ง               =        32 องศาเซลเซียส

               อุณหภูมิของกระเปาะเปียก             =        30 องศาเซลเซียส

ผลต่างของอุณหภูมิ                                        =        2 องศาเซลเซียส

อ่านค่าความชื้นสัมพัทธ์ได้                    86%

          ถ้าอุณหภูมิของกระเปาะแห้ง               =        32 องศาเซลเซียส

               อุณหภูมิของกระเปาะเปียก             =        27 องศาเซลเซียส

ผลต่างของอุณหภูมิ                                        =        5 องศาเซลเซียส

อ่านค่าความชื้นสัมพัทธ์ได้                    68%