Home

ยา

ผู้หญิง

เด็ก

เครื่องสำอาง

ปฐมพยาบาล

โรคทั่วไป

อื่นๆน่าสนใจ

สอบถามปัญหา

สารทำให้ผิวขาว

เภสัชกรวิเชียร อัศวดากร
This Page
Related Topic
Interesting Web

 

เชิญ ติชม เสนอแนะ สอบถามครับ

ติชม หรือสอบถามได้ที่นี่ครับ
ชื่อ
email
ติชม เรื่องที่อยากสอบถาม

 


 

 

ผิวหนัง

ผิวหนังทำหน้าที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง คือ คอยปกป้องการรุกรานของสิ่งที่อยู่ภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เชื้อโรค มลภาวะ แสงแดด อื่นๆ เป็นต้น

ในชั้นผิวหนังส่วนนอกที่เรียกว่า Epidermis จะมีเซลล์ชนิดหนึ่งเรียกว่า Melanocytes คอยช่วยปกป้องร่างกายจากรังสีอัลตราไวโอเลต โดยการสร้างสารสีที่เรียกว่า Melanin โดยขบวนการที่เรียกว่า Melanogenesis ( genesis - การสร้าง ) เพื่อช่วยกรองปริมาณรังสีที่จะผ่านเข้าสู่ผิวหนังชึ้นที่ลึกลงไป  Melanin แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ

  1. Eumelanins  เป็น melanin ให้เฉดสีน้ำตาล หรือสีดำ
  2. Phaeomelanins เป็น melanin ให้เฉดสีเหลืองจนถึงน้ำตาลแดง

เม็ดสีทั้งสองกลุ่มมีลักษณะที่ต่างกันทั้งคุณสมบัติทางกายภาพ ทางเคมี และชีววิทยา ทุกคนจะมีเม็ดสีทั้งสองชนิดในปริมาณสัดส่วนที่ต่างกัน จึงทำให้สีผิวและสีเส้นผมต่างกัน

ความผิดปกติเกี่ยวกับเม็ดสี

แบ่งได้เป็น 2 ระดับความรุนแรง ได้แก่

  1. ลักษณะเม็ดสีที่ผิดธรรมดาเล็กน้อย ได้แก่ การตกกระ ( freckle ), ฝ้า ( chloasma ), Hypermelanosis
  2. กรณีที่รุนแรงกว่าข้อ 1 ได้แก่ การเกิด lentigines, solar lentigo, malignant melanomas

สารทำให้ผิวขาว

ได้มีการพัฒนาให้ได้สารที่ทำให้ผิวขาวขึ้น โดยอาศัยหลักการทำงานรบกวนชบวนการสร้างเม็ดสี ซึ่งมีหลักการออกฤทธิ์ได้หลายวิธี ดังนี้

  1. เลือกทำลาย Melanocytes หรือลดการทำงานของ Melanocytes ทำให้การสร้างเม็ดสีลดลง
  2. ยับยั้งการสร้าง Melanosomes ( ส่วนประกอบภายในเซลล์ Melanocytes ที่ทำหน้าที่สร้างเม็ดสี Melanin ) และทำให้โครงสร้างเปลี่ยนรูปไป
  3. ยับยั้งการสังเคราะห์เอ็นไซม์ Tyrosinase ซึ่งมีความสำคัญในขั้นตอนการสร้าง Melanin

ผลิตภัณฑ์ทำให้หน้าขาว หรือผิวขาวขึ้นที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จะมีสารที่จะช่วยลดเม็ดสี ซึ่งอาจจะช่วยลดสีของ Melanin ที่ผิวหนัง หรือ ป้องกันการสร้างเม็ดสีใหม่

  • Kojic acid เป็น metabolite จากเชื้อราจำพวก Aspergillus และ Penicillium โดยสารนี้จะยับยั้งการสร้างเม็ดสีโดยเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ปริมาณการใช้ 2-4% ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย ได้แก่ การระคายเคือง, ผื่นสัมผัส
  • Arbutin เป็น Hydroquinone glycoside ออกฤทธิ์โดยเข้าไปแย่งกับ Dopa ที่ Receptor site ของ  tyrosinase ปริมาณการใช้ 3-7% อาการข้างเคียงค่อนข้างน้อย ได้แก่ การระคายเคือง, ผื่นสัมผัส
  • Licorice โดยมีสารสำคัญชื่อ Glabridin สกัดมาจาก licorice extract ( สารสกัดจากชะเอม ) ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการทำงานของ tyrosinase อาการข้างเคียงค่อนข้างน้อย ได้แก่ การระคายเคือง, ผื่นสัมผัส
  • Vitamine C  ลด melanin intermediate
  • นอกจากนี้ยังมีสารสกัดจากพืชหลายๆชนิดที่มีการศึกษา ได้แก่ Theaciae ( สารสกัดจาก green tea ) , Compositae ( สารสกัดจาก matricaria ), สารสกัดจาก mulberry

นอกจากนี้ยังมีสารที่เกิดจากการสังเคราะห์ ได้แก่

  • Hydroquinone ปัจจุบันเป็นสารห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ทาฝ้าที่วางขายในท้องตลาด การใช้ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ tyrosinase ในขบวนการสร้างเม็ดสี อาการข้างเคียงค่อนข้างมาก ได้แก่ ผื่นระคายเคือง ผื่นแพ้สัมผัส จนกระทั่งเกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเกิดลักษณะคล้ายฝ้าถาวร
  • Tretinoin ( Vitamin A acid ) ทำนองเดียวกับ Hydroquinone คือ ห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ทาฝ้าที่วางขายทั่วไป ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ออกฤทธิ์คล้ายกับ AHA คือ กระตุ้นการหลุดร่อนของเซลล์ผิวหนัง และเร่งการสร้างผิวหนังชั้นใหม่ อาการข้างเคียงค่อนข้างมาก ได้แก่ ผื่นแดง, ผิวลอกมีสะเก็ด, ผิวสีดำไหม้
  • Azelaic Acid ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเช่นกัน อาการข้างเคียงได้แก่ คัน ผื่นแดง ผิวลอกมีสะเก็ด ผิวสีดำไหม้ 
  • Chemical Peels คือการทาสารบางอย่าง ( ได้แก่ AHA , Resorcinol ) ในความเข้มข้นสูงให้เกิดการลอกของผิวอย่างรุนแรง เป็นวิธีที่ได้ผลเร็ว แต่มีข้อเสียมาก คือ อาจเกิดการติดเชื้อ เกิดเนื้อตายได้ 

ได้ผลจริงหรือไม่ ?

  • สำหรับในกลุ่มสารเคมี ได้แก่ Hydroquinone, Tretinoin, Azelaic Acid และ Chemical peel ให้ผลไม่น่าพอใจนัก และมีอาการข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งจากการติดตามของคณะกรรมการอาหารและยา พบรายงานการแพ้อยู่บ่อยๆ อันได้แก่ ทำให้ผิวดำขึ้น เกิดฝ้าถาวร ผื่นแพ้ เกิดการลอกแดง ไหม้ จึงไม่อยากแนะนำให้ใช้ยาในกลุ่มนี้เอง นอกจากการใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
  • สำหรับในกลุ่มที่มาจากธรรมชาติ อันได้แก่ Arbutin, Licorice, Vitamin C ซึ่งมีรายงานการวิจัยว่าช่วยลดสีของเม็ดสีได้ แต่ก็ต้องอาศัยเวลายาวนานกว่า น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ที่จะซื้อหามาใช้เองและผู้ที่เป็นไม่มาก อย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่าเกิดผลข้างเคียง ผื่นแดง ระคายเคือง ก็ควรหยุดใช้ทันที

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเกิดเม็ดสีเข้มขึ้นนั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ผิวหนังสร้างเม็ดสีเพื่อกรองแสงและรังสีที่มากระทบ ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมีประสิทธิภาพน่าจะเป็นวิธีการป้องกัน และรักษาที่ดี และยังช่วยป้องกันการเสื่อม ( aging ) ของผิวหนังด้วย

Post a Message in My Message Board!

ถ้าท่านชอบ web  นี้ 
ท่านที่ต้องการสอบถาม เสนอแนะ เชิญครับ mailto:vichiena@yahoo.com
ขอขอบคุณ Geocities.com ที่ให้พื้นที่ฟรีสำหรับการจัดทำ Web Site นี้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่สำคัญ discoveryhealth | mediconsult | mayohealth | medscape.com | healthylives | สมาคมแพทย์โรคผิวหนัง USA | fda.gov | my.yahoo.com

1