Home

ยา

ผู้หญิง

เด็ก

เครื่องสำอาง

ปฐมพยาบาล

โรคทั่วไป

อื่นๆน่าสนใจ

สอบถามปัญหา

How - เมื่อทานยาปฏิชีวนะแล้วไม่ดีขึ้น

Last update 21/11/42

หัวข้อภายในเรื่องนี้
ข้อเท็จจริงที่ควรทราบ
สาเหตุของปัญหา
แนวทางการแก้ไข


หัวข้ออื่นที่น่าสนใจ
ความเข้าใจที่ถูกกับการอักเสบ
ยาปฏิชีวนะ
ทำไมจึงต้องทานยาให้ครบเทอม

ติชม หรือสอบถามได้ที่นี่ครับ
ชื่อ
email
ติชม เรื่องที่อยากสอบถาม

 

 

 

อรัยสัจ 4 = ทุกข์ , สมุทัย , นิโรธ , มรรค

ข้อเท็จจริงที่ควรทราบก่อน

  • เชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค มีหลายชนิด มีหลักๆ 3 กลุ่ม คือ ไวรัส, รา, แบคทีเรีย และในแต่ละกลุ่มก็มีย่อยๆอีกมากมาย
  • ยาปฏิชีวนะมีผลต่อเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ถ้าเป็นการติดเชื้อรา ไวรัส วัณโรค เรื้อน โปรโตซัว พยาธิ ยาปฏิชีวนะไม่สามารถฆ่าเชื้อเหล่านี้ได้
  • ยาปฏิชีวนะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ได้แก่ 
    • การเข้าถึงส่วนต่างๆของร่างกายไม่เท่ากัน เช่น Amoxycillin ไม่เหมาะจะใช้กับอาหารเป็นพิษ ติดเชื้อในทางเดินอาหาร หรือทางเดินปัสสาวะ หรือ Norfloxacin ไม่เหมาะจะใช้กับทางเดินหายใจ แต่เหมาะกับทางเดินปัสสาวะ เพราะยาไปออกที่ปัสสาวะมาก เป็นต้น
    • การฆ่าเชื้อ ความครอบคลุมไม่เหมือนกัน เช่น ในกลุ่มของ Penicillin ยา Pen-V มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อน้อยชนิดกว่ายา Amoxycillin

    • วิธีการใช้ไม่เหมือนกัน บางอย่างต้องฉีดเท่านั้น ยาบางตัวมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่ดี แต่ต้องฉีดเท่านั้น ถ้าเอาไปรับประทาน ก็ไม่ถูกดูดซึม ทำให้ไม่มีผลในการรักษา ยาที่ใช้ผิดทำนองนี้และพบบ่อย คือ กานามัยซิน
  • พบการดื้อยามากขึ้นในปัจจุบัน กล่าวกันว่า วันที่มียาปฏิชีวนะใหม่ออกมา วันเดียวกันนั้นก็มีการดื้อยาเกิดขึ้นแล้ว เป็นสถานการณ์ที่มีแต่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จึงอยากขอให้ช่วยกันทานยาให้ครบเทอมกันนะครับ
  • โรคๆหลายโรคที่อาการเหมือนกับการอักเสบ หรือชื่อโรคบอกว่าอักเสบ ได้แก่ ข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ ผิวหนังอักเสบ ไม่ได้หมายความว่าเป็นการติดเชื้อ พบบ่อยทีเดียวว่า มาซื้อยา Ampicillin เพื่อไปรักษาข้อเข่าอักเสบ

เชิญดูเพิ่มเติมที่ ... ความเข้าใจที่ถูกกับการอักเสบ

สาเหตุที่ทำให้ทานยาปฏิชีวนะไม่ได้ผล

  • ทานยาไม่ครบขนาดที่ต้องใช้ เนื่องจาก ความกลัวกินยามาก หลายชนิดเกินไป ลืม
  • เลือกใช้ยาไม่ถูกชนิดกับการติดเชื้อที่เป็นอยู่ เพราะยาไม่ครอบคลุมเชื้อนั้นๆ
  • ไม่ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเท่าที่ควร ทำให้กลไกการป้องกันตัวเองแย่ลง ยาหลายตัวทำหน้าที่ทำให้เชื้อโรคอ่อนแรงลงเท่านั้น
  • เลือกยาที่ไม่มีมาตรฐาน ทำให้ได้ยาที่มีประสิทธิภาพไม่เต็ม 100% ซึ่งคงต้องเลือกซื้อกับร้านที่ท่านวางใจได้
  • ได้รับเชื้อที่ไม่ตอบสนองต่อยา ดื้อต่อยานั้นมาก่อนแล้ว ปัจจุบันพบมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น USA ก็ยังมีปัญหานี้

แนวทางแก้ไข ขึ้นกับสาเหตุ

  • ทานยาให้ถูกขนาด ไม่ลืม เพื่อให้ระดับยาคงที่ สม่ำเสมอ ผลการรักษาดีที่สุด
  • ถ้าทานยามา 2-3 วันไม่หาย ให้สงสัยว่าเลือกใช้ยาผิดตัว หรือ เชื้อโรคนั้นดื้อยาที่กำลังใช้อยู่ ให้เปลี่ยนยาใหม่ ซึ่งในการเปลี่ยนยาควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกร โดยนำยาตัวเก่าไปด้วย หรือถ้ารู้ชื่อด้วยจะยิ่งดี จะได้ใช้ประกอบการพิจารณา
  • ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่ดีโดยธรรมชาติ เพราะยาหลายชนิดที่ใช้มีผลทำให้เชื้ออ่อนแรงลงเท่านั้น ยังคงต้องอาศัยกลไกการกำจัดเชื้อในร่างกาย
  • รับประทานยาให้ครบเทอม เพื่อลดปัญหาการดื้อยาในภายหลัง

อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ที่ ...ยาปฏิชีวนะ  &  ทำไมจึงต้องทานยาให้ครบเทอม

  • เมื่อจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ควรเลือกใช้ยาที่แรงจนเกินไป โดยหวังผลให้ได้ผลเร็ว เพราะเป็นวิธีการใช้ยาที่ผิด ที่ถูกควรเริ่มตามขั้นตอน แล้วค่อยเพิ่มความแรงในภายหลัง เมื่อยาตัวแรกใช้ไม่ได้ผลแล้ว เช่น ทอนซิลอักเสบ ก็ควรเริ่มที่ Pen-V หรือ Amoxycillin หรือ Erythromycin ไม่ใช่ไปเริ่มที่ Cefaclor หรือ Ceftibuten หรือ Augmentin หรือ Ofloxacin แต่ทุกอย่างก็ต้องมีข้อยกเว้น คือ กรณีที่จำเป็นจริงๆ หรือวิเคราะห์เชื้อโรคแล้วว่าเป็นเชื้ออะไร ดื้อต่อยาอะไร เป็นต้น
Post a Message in My Message Board!

ถ้าท่านชอบ web  นี้ 
ท่านที่ต้องการสอบถาม เสนอแนะ เชิญครับ mailto:vichiena@yahoo.com
ขอขอบคุณ Geocities.com ที่ให้พื้นที่ฟรีสำหรับการจัดทำ Web Site นี้
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลที่สำคัญ discoveryhealth | mediconsult | mayohealth | medscape.com | healthylives | สมาคมแพทย์โรคผิวหนัง USA | fda.gov | my.yahoo.com

1