นวนิยายแฟนตาซีอวกาศเรื่องยาว

วีรบุรุษทางช้างเผือก銀河英雄伝説

เรื่อง โดย ทะนะกะ โยะชิกิ (田中芳樹) แปลโดย Pae

บทที่ 3 อาทิตย์อัสดง ณ แดนจักรวรรดิ
-3-


ตำหนักของท่านเกรฟิน อันเนโรเซ่ ฟอน กรุนเนวัลต์ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเขตพระราชวังนอยซันซูซี่นี่แหละ แต่กว่าจะไปถึงที่นั่นได้ ต้องนั่งรถเก๋ง (แลนด์คาร์) ที่ประดับตกแต่งอย่างเลิศหรูสำหรับใช้รับรองแขกของวังหลวงนี้ นานถึงสิบนาทีทีเดียว

สำหรับคนอย่างเคียร์ชไอซ์แล้ว ที่จริงอยากจะเดินไปเองจะสะดวกใจมากกว่า แต่ในเมื่อมีรถยนต์จากกรมวังมารับถึงที่ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นเหลือจากองค์จักรพรรดิแล้ว เขาก็คงก็ได้แต่รับความกรุณานั้นไว้

และที่หมายของพวกเขา ก็ตั้งอยู่ข้าง ๆ สระน้ำที่อยู่ใต้ร่มเงาของแมกไม้ลินเดนบาวม์ ช่างเป็นตำหนักที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามสมกับตัวเจ้าของตำหนักเลยจริง ๆ

ทันทีที่เห็นร่างงามของอันเนโรเซ่โผล่ออกจากระเบียงตำหนัก ไรน์ฮาร์ดก็กระโจนลงจากแลนด์คาร์ในทันที ทั้งที่มันยังไม่ทันจอดสนิทเสียด้วยซ้ำ เขาวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหาอีกฝ่ายพลางร้องตะโกนทัก

“พี่ฮะ!”

อันเนโรเซ่ต้อนรับน้องชายของเธอด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นดุจแสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ พลางกล่าว

“ไรน์ฮาร์ด แหม อุตส่าห์มาเยี่ยมพี่ถึงที่เชียว... ซี้กด้วย”

“... ขอรับ คุณอันเนโรเซ่สบายดีนะขอรับ”

“สบายดีจ๊ะ ขอบใจนะ เอ้า รีบเข้ามาเลยทั้งสองคน พี่เฝ้ารอพวกเธอมาตั้งหลายวันแล้วนะนี่”

โอ... สตรีผู้นี้ไม่เปลี่ยนไปเลยจากเมื่อสมัยก่อน- เคียร์ชไอซ์อดคิดในใจเช่นนั้นไม่ได้ ดูท่า ต่อให้ใช้อำนาจสูงสุดของพระจักรพรรดิ ก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความอ่อนโยนและบริสุทธิ์งดงามของเธอผู้นี้ได้เลยกระมัง
1033-annerose.jpg

“เดี๋ยวพี่ชงกาแฟให้นะจ๊ะ แล้วก็... พี่เตรียมเค้กเคลซี่ไว้แล้วด้วย แต่มันเป็นของทำเองน่ะ ไม่รู้จะถูกปากพวกเธอรึเปล่า?”

“โอ๊ย เดี๋ยวพวกฉันปรับปากให้ถูกกับรสชาติของเค้กเองฮะ ไม่ต้องห่วงหรอกพี่”

ไรน์ฮาร์ดตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน บรรยากาศในห้องรับแขกขนาดกระทัดรัดนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น หนุ่มสาวทั้งสามรู้สึกราวกับว่า ภูติผู้พิทักษ์กาลเวลาได้ย้อนเวลาเฉพาะในห้องนี้กลับไปเมื่อสิบปีก่อนกระนั้น

เสียงถ้วยกาแฟกระทบจานรองเบา ๆ ผ้าปูโต๊ะลายสวยงาม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเค้กเคลซี่ที่มีวะนิลาเจือนิด ๆ ... เหล่านี้ ประกอบกันเข้าเป็นช่วงเวลาอันแสนสุข ณ ที่นั้น

“พี่โดนว่าบ่อย ๆ เหมือนกันนะ... ว่าเป็นถึงเกรฟินแล้ว ไม่ควรจะมาเข้าครัวเอง...”

อันเนโรเซ่เล่าด้วยน้ำเสียงขบขัน ขณะที่เธอลงมือตัดแบ่งชิ้นเค้กอย่างคล่องแคล่ว

“แต่ก็ห้ามพี่ไม่ได้หรอกจ๊ะ เพราะการที่ได้อบเค้กเองโดยไม่พึ่งเครื่องอัตโนมัติน่ะ มันสนุกดีนี่นา ... จริงไหมจ๊ะ”

จากนั้น กาแฟก็ถูกยกมาเสริฟ ครีมถูกเติมลงไปในกาแฟ แล้วคนให้ละลายเข้ากัน เค้กที่หญิงสาวทำด้วยตัวเอง และบทสนทนาที่ไม่ต้องมากังวลเบื้องหลังของอีกฝ่าย เหล่านี้ ทำให้หัวใจทั้งสามดวงต่างดื่มด่ำอยู่กับช่วงเวลาที่แสนสุขที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“ไรน์ฮาร์ดคงเอาแต่ใจตัวเองบ่อย ๆ ทำให้เธอเดือดร้อนละสิท่า ซี้ก?”

“ไม่ขอรับ ไม่เคยเลย...”

“ฮึ อยากฟ้องอะไรพี่ฉัน ก็ฟ้องได้ตรง ๆ เลยนะ เจ้าเคียร์ชไอซ์ ไม่ต้องเกรงใจ”

“ไรน์ฮาร์ด อย่าไปแกล้งเขาสิจ๊ะ... เออ จริงสิ พี่ได้วันโรเซ่ (ไวน์สีพีช) จากท่านบารอนเนส ชัฟเฮาเซ่นมาน่ะ ไรน์ฮาร์ดช่วยไปหยิบมาให้หน่อยได้ไหมจ๊ะ อยู่ในห้องใต้ดินแน่ะ โทษทีนะ ขอถือโอกาสใช้ท่านจอมพลซะหน่อย”

“แหมพี่ ไม่ต้องแซวก็ได้... ได้สิครับ พี่ใช้ให้ทำอะไร ฉันทำให้ได้ทั้งนั้นแหละ”

ว่าแล้วไรน์ฮาร์ดก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปง่าย ๆ

เหลือในห้องเพียงอันเนโรเซ่และเคียร์ชไอซ์เพียงสองคนตามลำพัง หญิงสาวหันไปส่งยิ้มให้เพื่อนตายของน้องชายตน

“ซี้ก ขอบคุณนะจ๊ะที่ช่วยดูแลน้องให้พี่”

“ไม่เลยขอรับ กระผมต่างหากที่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณไรน์ฮาร์ดมาโดยตลอด อย่างตอนนี้กระผมก็... เป็นพันเอกได้ด้วยอายุเท่านี้เอง ทั้งที่ไม่ได้เป็นเชื้อสายขุนนางฐานันดรเลยด้วยซ้ำน่ะขอรับ”

“อีกประเดี๋ยวก็จะได้เลื่อนเป็นพลตรีแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ พี่รู้นะ ยินดีด้วยจ๊ะ”

“ขอบคุณขอรับ”

เคียร์ชไอซ์รู้สึกได้ถึงใบหูที่ร้อนผ่าวของตน

“น้องพี่เขาก็ไม่เคยพูดสักคำน่ะนะ หรือเขาอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ แต่พี่เชื่อว่า เขาเองก็เชื่อใจเธอเต็มที่เลย พี่หวังว่าเธอจะช่วยดูแลเขาต่อไปด้วยนะจ๊ะ”

“แหม กระผมไม่บังอาจขนาดนั้นหรอกครับ”

“ซี้ก อย่าตีค่าตัวเองต่ำอย่างนั้นสิ! พี่รู้ดี น้องชายพี่เขาเป็นคนเก่งก็จริง ในหลายด้าน และในหลายเรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้ด้วย แต่น้องเขาไม่ใจเย็นและรอบคอบเหมือนเธอนะ สักวันหนึ่ง เมื่อเขาวิ่ง ๆ ไปโดยไม่เฉลียวใจถึงความเร็วของตัวเองเลย เขาอาจจะพลัดตกหน้าผา เหมือนพวกเลียงผาหนุ่ม ๆ ที่คึกคะนองก็ได้ นี่ฉันซึ่งเป็นพี่สาวที่รู้จักเขาดีมาตั้งแต่เขาเกิดนะ ถึงกล้าพูดได้อย่างมั่นใจอย่างนี้”

“คุณอันเนโรเซ่...“

“เพราะฉะนั้น พี่ขอร้องล่ะจ๊ะ ซี้ก ช่วยดูแลอย่าให้ไรน์ฮาร์ดเขาวิ่งพลัดตกหน้าผาด้วยนะจ๊ะ ถ้าหากเขามีท่าจะออกนอกลู่นอกทางเมื่อไหร่ ช่วยตักเตือนเขาด้วย พี่เชื่อว่า ถ้าเป็นคำเตือนของเธอละก็ เขาจะต้องฟังแน่ แต่ถ้าหาก เขาไม่ฟังเธอละก็... เขาก็คงจบสิ้นแค่นั้นแหละ ไม่ว่าเขาจะเก่งขนาดไหนก็ตาม วันใดที่เขาไม่ฟังคำของเธอ มันก็เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าเขายังใจไม่กว้างพอ และยังไม่กล้าแข็งพอนั่นเอง”

รอยยิ้มได้จางหายไปจากใบหน้างามของอันเนโรเซ่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เคียร์ชไอซ์ก็ไม่ทันสังเกต รู้แต่ว่า ในดวงตาสีซาเฟียร์ (ฟ้าเข้ม) ของเธอนั้นตอนนี้เต็มไปด้วยแววเศร้าหมอง

เคียร์ชไอซ์รู้สึกเจ็บแปลบในใจ เหมือนใครเอามีดที่แหลมคมมาตวัดผ่านหัวใจของตนไป อา... ใช่สินะ ตอนนี้มันต่างจากเมื่อสิบปีก่อนเสียแล้ว พวกเขาทั้งสามคน ไม่ใช่เด็กหนุ่มธรรมดา ๆ สองคนกับหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ๆ หนึ่งคนเสียแล้ว หากแต่เป็น พระสนมคนโปรดกับจอมพลแห่งทัพจักรวรรดิและนายทหารคนสนิท ทั้งสามคน อยู่ในดงของความหอมหวนแห่งเกียรติยศ และความเหม็นเน่าของกิเลสมนุษย์พร้อม ๆ กัน

“หากเป็นเรื่องที่กระผมทำได้ละก็... กระผมยินดีทำให้ทุกอย่างขอรับ คุณอันเนโรเซ่”

เขาพยายามเต็มที่ ที่จะบังคับให้น้ำเสียงของตนไม่สั่นสะเทือนจนแสดงความกดดันในใจตนออกไป

“ได้โปรดไว้วางใจในความจงรักภักดีที่กระผมมีให้คุณไรน์ฮาร์ดเถิดขอรับ กระผมรับรองว่าจะไม่ทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่คุณอันเนโรเซ่ต้องการแน่นอน!”

“ขอบใจจ๊ะ ซี้ก...ขอบคุณมาก ๆ ขอโทษนะจ๊ะที่พี่ขอร้องเธอในเรื่องที่ลำบากเช่นนี้ แต่พี่มองไม่เห็นใครที่จะพึ่งได้อีกแล้ว อภัยให้พี่ด้วยนะจ๊ะ”

ไม่หรอกขอรับ ผมต่างหากที่อยากจะเป็นที่พึ่งให้คุณทั้งสองคนอย่างเต็มใจยิ่ง เคียร์ชไอซ์กระซิบกับตัวเองในใจ ใช่ เขาเป็นเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เมื่อตอนที่พี่สาวผู้นี้กล่าวกับเขาว่า “ซี้ก ช่วยเป็นเพื่อนที่ดีของน้องชายด้วยนะจ๊ะ” เมื่อสิบปีก่อนนั่นแหละ

สิบปีก่อน! คำคำนี้ทำให้เคียร์ชไอซ์ปวดแปลบในใจอีกครั้งหนึ่ง

ใช่สิ... หากเมื่อสิบปีก่อน เขามีอายุเท่านี้ละก็ จะไม่มีวันยอมปล่อยให้หญิงสาวต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของจักรพรรดิเป็นอันขาด เขาคงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะพาสองพี่น้องหนี และสุดท้าย ก็คงไม่พ้นต้องลี้ภัยไปอยู่กับสมาพันธ์ดาวเคราะห์เสรีอย่างแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น ป่านนี้ เขาคงเป็นนายทหารคนหนึ่งของสมาพันธ์อยู่กระมัง

แต่ในความเป็นจริง ตอนนั้น เขาเองก็ไม่มีความสามารถใด ๆ เลย แม้แต่ความปรารถนาของหัวใจของตนเอง ก็ยังรู้ไม่ชัดแจ้งด้วยซ้ำ แต่ในตอนนี้เขาไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว แต่การณ์กลับยิ่งอยู่ในสภาพที่สุดจะแก้ไขใด ๆ ได้ยิ่งกว่าเมื่อสิบปีก่อนเสียอีก ทำไมหนอ มนุษย์เราถึงไม่สามารถมีอายุ (วุฒิภาวะ) ที่เหมาะสมได้ ในช่วงเวลาที่จำเป็นนะ

“... วางให้มันเห็นง่าย ๆ หน่อยก็ไม่ได้ พี่ก็...”

เสียงที่บอกการกลับมาของไรน์ฮาร์ดดังแทรกเข้ามา

“จ๊ะ ขอบใจนะ ที่ไปหยิบมาให้ รับรองว่ารสชาติของมันคุ้มค่าเหนื่อยของเธอแน่จ๊ะ เดี๋ยวนะ พี่ไปหยิบแก้วมาก่อน”

เคียร์ชไอซ์ได้แต่บอกกับตนเองในใจว่า เพียงแต่ได้มีโอกาสสัมผัสกับช่วงเวลาสั้น ๆ แบบนี้ ก็ต้องถือเป็นความโชคดีของตนแล้ว อย่าเพิ่งไปคิดอะไรให้มากความเลย
(อ่านตอนต่อไป)

หมายเหตุ

เปิดตัวเกรฟิน อันเนโรเซ ฟอน กรุนเนวัลด์ครับ พร้อมกับเปิดเผยอีกโฉมหน้าหนึ่งของไรน์ฮาร์ด

กลับไปอ่านตอนที่แล้ว +++ กลับไปหน้าสารบัญ +++ ไปอ่านตอนต่อไป 1