Logo003poet2543.gif (2019 bytes)

Novel003.gif (5547 bytes)

นวนิยาย    เรื่องสั้น   บทความ

Ani004LHummbird.gif (2404 bytes)

เรื่องสั้น
ปลาหางกุด

                           ไม่ว่าน้ำในคลองจะขึ้นสูงท้นตลิ่งหรือไหลลงจนเกือบแห้งขอด แต่ลำประโดงที่แยกจากคลองแห่งนี้กลับมีน้ำเต็มตลอดปี
                            ทั้งนี้ก็เพราะทั้งปูสมซึ่งเป็นเจ้าของสวนฝั่งหนึ่งของลำประโดงกับตาตาลที่เป็นเจ้าของสวนอีกฝั่งหนึ่งของลำประโดง ร่วมมือกันกั้นทำนบสูงกันน้ำไหลออกไว้ที่ปากลำประโดงเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของปลานานาชนิด โดยทั้งปู่โสมและตาตาลได้ตกลงแบ่งผลประโยชน์กันด้วยการให้แต่ละฝ่ายเปิดท่อระบายน้ำออกเพื่อจับปลาสลับกันแบบปีเว้นปี
                            ด้วยเหตุนี้ลำประโดงของตาผู้เฒ่าทั้งสองจึงเป็นที่หมายปองของนักขโมยปลาละแวกนั้นเป็นอย่างยิ่ง   โดยมีทั้งพวกนักเป่าลูกดอก พวกแอบปักปลาในเวลากลางคืน พวกลอบวางข่ายและพวกใช้สวิงลงช้อนปลาช่วงเวลาบ่ายที่เป็นเวลานอนพักผ่อนของปู่สมและตาตาล

                            "ไอ้ดวงๆ ไอ้ดวงโว้ย" เบิ้มลูกผู้ใหญ่บ้านถือสวิงมือขวาหิ้วไหใส่ปลามือซ้ายตะโกนเรียกเพื่อนรักดังลั่น
                            "ไอ้ดวง ออกมาหากูหน่อย"
                            "เออ เออ ได้ยินแล้ว"
                            ดวงนุ่งกางเกงขาสั้นเปลือยกายท่อนบนวิ่งเหยาะด้วยตีนเปล่าออกจากบ้านมานาเพื่อน
                            "ไอ้เบิ้ม มึงเรียกกูทำไม"
                            "เรียกไปจับปลาซีวะ"
                            "ที่ไหน"
                            "ลำประโดงปูสมไง"
                            กูไม่ไป วันก่อนตาตาลไล่ตีกูกระเจิงมาแล้ว"
                            "เฮ้ยมึงอย่าห่วง กูสืบมาแล้ว ปูสมกำลังไม่สบายเห็นแม่บอกกูว่าเที่ยวนี้ตายแน่ ส่วนตาตาลไปเยี่ยมลูกที่ต่างจัวหวัด วันนี้ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์"
                             "จริงหรือวะ" ดวงตาลุก
                             "จริงซิวะ"
                             "งั้นรอกูเดี๋ยว"
                             เบิ้มดวง ต่างถือสวิงหิ้วไหกึ่งเดินกึ่งวิ่งมุ่งหน้าสู่ลำประโดงโดยระหว่างทางได้ชวนเป๋เพื่อนอีกคนให้ไปร่วมขโมยจับปลาด้วยกัน

                            "โอ๊ย ลึกชิบหาย" เป๋ตะโกนเสียงดังหลังจากกระโจนลงไปในน้ำ
                            "เออ มันลึกก็เฉพาะแถวนี้เท่านั้นแหละ"   เบิ้มกระโจนลงตาม ในขณะที่ดวงหักก้านติดใบมะม่วงยัดใส่ไห แล้วกระโจนลงน้ำตามเพื่อนทั้งสอง
                            การจับปลาด้วยสวิงเริ่มขึ้น โดยเบิ้มถือสวิงปากกว้างก้นยาวช้อนนำหน้า ส่วนดวงและเป๋เป็นสมุนทัพหลังที่คอยตั้งสวิงช้อนปลาขนาบซ้ายขวาหากหลุดรอดจากเบิ้ม
                            เด็กวัยคะนองแต่ละคนคุยกันน้อยลง ความมุ่งมั่นตั้งใจ อาการเอาจริงเอาจังเพื่อหวังจะได้ปลาใหญ่เข้ามาแทนที่ เบิ้มตั้งสวิงติดขอบตลิ่ง เอามือกวาดต้อนหวังได้ปลาทั้งริมประโดงฝั่งซ้ายและริมประโดงฝั่งขวา ดวงช้อนปลาตามหลังมาเจอโขดขอนก็ตั้งสวิงล้วงใต้ขอนต้อนปลาขมีขมัน เป๋เห็นตรงไหนมีช่องว่าง ก็เสือกสวิง ปิดช่องหวังได้ปลาที่เล็ดลอด
                            "เฮ้ย! กูได้แล้ว" ดวงยกสวิงขึ้นขณะที่ตะเพียนขนาดใหญ่ดิ้นพลิกตัวไปมา แลเห็นเกล็ดสีเงินสะท้อนแดดเงาวาว
                            "โอ้โฮ ตัวใหญ่ชิบ..." เป๋อุทานพร้อมดึงไหใส่ปลาของดวงมาให้
                            ดวงคว้าไหใส่สวิงก่อนจับปลาตะเพียนยัดใส่ไหด้วยความไม่ประมาท เสียงปลาตะเพียนดิ้นปะทะใบไม้และก้านมะม่วงแต่ก็ไม่สามารถหลุดรอดออกมาได้

                             การไล่ล่าจับปลายังดำเนินต่อไปในลำประโดงที่ทอดยาวไปข้างหน้าของเด็กทั้งสาม
                             "กูก็ได้เหมือนกัน"   เป๋ตะโกนลั่น "ของกู กุ้งก้ามกราม โว้ย โอ้โฮ...ตะไคร่ขึ้นเขียวเลย"
                             เป๋จัดการจับกุ้งใหญ่ที่ดิ้นแช็กๆ ยัดใส่ไหอย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่เบิ้มหันกลับมามองด้วยสีหน้าแปลกที่ตัวเองยังไม่ได้กุ้งปลาแม้แต่ตัวเดียว ทั้งๆที่ตัวของมันช้อนปลานำหน้าด้วยสวิงปากใหม่ปากใหญ่และก้นสวิงยาวกว่าใครๆ
                             เฮ้ย   กูก็ได้เหมือนกันโว้ย ปลาช่อนด้วย ตัวใหญ่ด้วย ไอ้เป๋ ส่งไหขอกูมานี้เร็ว"
                             เบิ้มยกสวิงสูงพาดปากริมฝั่ง สองมือขว้าจับอยู่หลายเที่ยว จนกระทั่งไอ้ช่อนเหนื่อยอ่อนและเพื่อนทั้งสองเข้ามาช่วยจนเบิ้มสามารถเข้ามาคว้าคอต่อได้ด้วยสองมือ แล้วใช้ปากกัดหางปลาช่อน บ้วนทิ้งด้วยความสะใจ ก่อนทิ่มหัวปลาช่อนใส่ไหอย่างลิงโลด

                             เบิ้ม ดวง เป๋ ยังคงจับปลาในลำประโดงกันอย่างสนุกสนานโดยได้กุ้งได้ปลากันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วเบิ้มก็ต้องร้องเสียงลั่น
                             เฮ้ย! ไอ้ช่อนของกูโดดหนีไปแล้ว"
                             ปลาช่อนในไหของเบิ้มโดดผลุงออกจากไห เพราะไม่ได้ใส่ใบก้านมะม่วงกันปลาโดดหนี โดยไอ้ช่อนตัวนั้นพุ่งตัวไปข้างหน้ามุดหายไปในน้ำอย่างรวดเร็ว
                            "ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่กูเคยจับได้ด้วย เสียดายชิบหายเลย"   เบิ้มบ่นพร้อมส่ายหัวและทำท่าเหมือนจะหมดเรี่ยวหมดแรง แต่เพื่อนทั้งสองก็ช่วยปลอบขวัญให้กำลังใจ
                             "มันไม่หนีไปไหนหรอกมันก็อยู่ในลำประโดงนี้แหละ"   เป๋ว่า
                             "ใช่ๆ ครั้งที่หนึ่งมึงยังจับมันได้ แล้วทำไมครั้งที่สองมึงจะจับมันไม่ได้อีก" ดวงเสริม
                             เด็กทั้งสามเดินหน้าช้อนปลากันต่อไปจนใกล้สุดลำประโดง แต่เบิ้มก็ยังจับปลาช่อนตัวที่หลุดไปไม่ได้
                             "ส่งสัยมันจะมุดดินหรือไม่ก็หนีรอดไปแล้ว" เบิ้มบ่นพึมพำ
                             พูดยังไม่ทันขาดคำดวงก็ตะโกนลั่น
                             "กูก็ได้ปลาช่อนเหมือนกันโว้ย"
                             ทั้งเบิ้มและเป๋ถลาเข้ามา ในขณะที่ดวงยกสวิงขึ้นพาดริมฝั่งลำประโดง
                             "ไอ้ดวงนั้นมันไอ้ช่อนของกู"
                             "ของมึงทำไมมาอยู่ที่กู"   ไอ้ดวงค้าน
                             "ก็ของกูหลุดไปอยู่ที่มึงนะซี มึงก็เห็น"
                             "มันไม่ใช่ตัวที่มึงทำหลุดไปก็ได้"
                             "ตัวที่กูทำหลุดแน่นอน เพราะกูกัดหางจนแหว่ง มึงเห็นมั้ย หางมันแหว่งเพราะฟันกู"   เบิ้มยืนยันเสียงดัง
                             "จริงของไอ้เบิ้ม หางมันกุดจริงๆ ด้วย"
                             เป๋ช่วยยืนยัน ในขณะที่ดวงพยักหน้ายอมรับในหลักฐาน
                             แล้วมึงจะให้กูทำไง"   ดวงเสียงอ่อย
                             "ก็ต้องคืนให้กูซิ"   เบิ้มแสดงความเป็นเจ้าของ
                             "คืนให้มึงทั้งๆที่กูจับได้เนี่ยนะ"
                             "เออ   เพราะที่มึงจับได้มันเป็นปลาของกู"   เบิ้มยืนยันหนักแน่น
                             ดวงลังเล คิดไม่ออกว่าจะโต้เถียงอย่างไร ใจหนึ่งก็รู้อยู่แก่ใจว่า ไอ้ช่อนตัวใหญ่ที่อยู่ในสวิงเบื้องหน้า ไอ้เบิ้มเพื่อนของมันเป็นคนจับได้ก่อน แต่อีกใจหนึ่งมันก็อยากได้ปลาและรู้สึกว่ามันเป็นสิทธิ์ของมันที่ควรจะเป็นเจ้าของ
                             "ไอ้ดวงคืนมันไปเถอะวะ"   เป๋พูดเสริมในขณะที่ดวงลังเล

                             ดวงมองหน้าเป๋และมองหน้าเบิ้ม ขณะที่เบิ้มทอดสายตามองปลาช่อนหางกุดในสวิงก้นเรี่ยน้ำด้วยสายตาและด้วยอาการที่ด้วงทราบเป็นอย่างดีว่าถ้ามันขืนยืนยันในความเป็นเจ้าของ มันก็คงจะต้องขัดใจเพื่อนและอาจจะต้องโกรธกับเพื่อน
                             "เออ   ไอ้เบิ้ม ตกลงกูคืนปลาให้มึง"   พูดไปทั้งที่เสียดาย
                             "ไอ้ดวงมึงนี่มันเพื่อนของกูจริงๆ"   พูดพลางใช้สองมือไล่คว้าจับปลาในสวิงของดวงส่วนเป๋ก็คว้าไหของเบิ้มยื่นส่งให้ในขณะที่ดวงก็ช่วยดึงก้นสวิงพ้นน้ำเพื่อให้จับปลาได้โดยง่าย
                             ปลาช่อนหางกุดคืนไหของเบิ้มไปแล้ว สีหน้าของเบิ้มที่เครียดขรึมแปรเปลี่ยนเป็นแจ่มใสและเปี่ยมสุขทันที

                             วินาทีนั้น ผุดความคิดท่ามกลางความสูญเสีย ดวงอยากจะพูดกับเพื่อนว่าไอ้ช่อนตัวนั้นไม่ควรจะเป็นของเบิ้มและของมัน เพราะทั้งตัวของมันและเบิ้ม มีฐานะเท่ากัน คือเป็นขโมยด้วยกัน ขโมยไม่มีสิทธิ์ในของที่ขโมย
                              แต่ดวงก็ปิดปากเงียบเพราะยังเสียดายของขโมยที่ยังเหลืออยู่

โดย  ผศ.อำนาจ   เย็นสบาย
รองคณะบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษา คณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
มูลนิธิ สานแสงอรุณ

You are Poet 2543

Ani004LHummbird.gif (2404 bytes)
| Home | การแต่งร้อยแก้ว | การแต่งร้อยกรอง | วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999

poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com

1