You are Poet2543

7smooth.com  ยินดีต้อนรับ

นวนิยาย    เรื่องสั้น   บทความ    เรื่องที่อยากเล่า

สนามแสดงความสามารถทางด้านการประพันธ์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง

เรื่องสั้น
เรื่อง “พิษภัย” ของยาเสพติด

“เช้าวันนี้ หนังสือพิมพ์หน้า 1 ไทยรัฐ ลงข่าว “ฆาตกรรมทารุน”

เธอถูกฆ่าตายมาแล้ว ประมาณ 9 ช.ม. ชาวบ้านเพิ่งพบศพในบ่อน้ำข้างร้านขายของชำ เวลา 6 โมงเช้า

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า “สถานที่พบศพอยู่ห่างจากบ้านของผู้ตายประมาณ 100 เมตร ชาวบ้านละแวกนั้นให้การว่า หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ เป็นคนมีฐานะดี เธอมีลูก 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คน อายุ 9 ขวบ และผู้ชาย 1 คน อายุ 8 ขวบ”

ในบริเวณที่เกิดเหตุได้พบหลักฐานเพียง 1 ชิ้น คือ รองเท้าของผู้ตาย ซึ่งตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 5 เมตร ตำรวจจึงสันนิษฐานว่า “อาจเกิดการดิ้นรนต่อสู้กับคนร้ายก่อนหน้าที่เธอจะถูกฆ่า”

“ลูกสาวฉันอยู่ไหน ลูกสาวฉันอยู่ไหน” ยายคนหนึ่งวิ่งร้องไห้มุ่งตรงมายังที่พบศพ ข้างหลังยายก็มีเด็กเล็กวิ่งตามมาอีก 2 คน

“อยู่นี่ยาย ทำใจดี ๆ ไว้นะ” ป้าจิตผู้พบศพบอกยายด้วยความสงสารจับใจ เพราะรู้ดีว่า ยายจันทร์แกรักลูกสาวคนนี้มากขนาดไหน

“ฮือ..ฮือ… ใครทำลูกสาวฉัน ฆ่าลูกสาวฉันทำไม ทำไมต้องฆ่ากันด้วย ฮือ…ฮือ… เดือนลูกแม่ ใครทำแก”

“ยายครับยาย อย่าร้องไห้เลยครับ ยายช่วยให้ปากคำกับผมด้วยนะครับ ตำรวจจะได้ตามจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้ นะครับยาย” ผู้กองสมชายประคองยายจันทร์ให้ลุกขึ้นมาด้วยความสงสาร สภาพศพลูกสาวแกก็ไม่น่าดูเลย มันโหดเหี้ยมเหลือเกิน…

ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพก็มาถึงที่เกิดเหตุ ช่วยกันนำร่างของผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาจากบ่อ ซึ่งสภาพโดยรอบเป็นผืนดินที่แตก เนื่องจากน้ำในบ่อแห้งหมดแล้ว

“แปลกนะ”

“แปลกอะไรหรือครับผู้กอง” จ่าดำถามด้วยความสงสัย

“ก็แปลกตรงที่ไม่พบอะไรอีกเลย นอกจากรองเท้าส้นสูงเพียง 1 คู่น่ะสิ ไม่มีแม้แต่กระเป๋า บัตรประชาชน หรือเอกสารอื่น ๆ เลย มันจะเป็นไปได้ยังกัน”

“อือ…ผมเห็นด้วยกับผู้กองครับ ผมว่า เราไปถามแม่ของเธอดีกว่าครับ” จ่าดำออกความเห็น

“อย่าเพิ่งเลย ผมว่า ให้เวลาแกทำใจสักพักหนึ่งก่อนจะดีกว่า ขนาดผมเองยังอดใจหายไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นญาติกับแก”

“ครับผม”

… หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็นำร่างหญิงผู้เคราะห์ร้ายส่งโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อผ่าตัดชันสูตรอีกครั้ง ..

“จะเอาลูกสาวฉันไปไหนคะ คุณตำรวจ ฮือ..ฮือ”

“ไปโรงพยาบาลตำรวจครับยาย จะต้องผ่าตัดพิสูจน์ศพเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งครับ ยายไม่ต้องห่วงนะ แล้วนั่นลูก ๆ ของเธอใช่มั้ยครับ“

“ใช่ค่ะ”

เด็ก 2 คน นั่งคุกเข่าร้องไห้ตะโกนเรียก “แม่” อยู่ตลอดเวลา น้ำตาของเด็ก ๆ ไหลไม่ขาดสาย ยายจันทร์เองก็ยังคงร้องไห้อยู่ ภาพเหล่านี้เป็นที่สะเทือนใจแก่คนละแวกนั้นและที่ผ่านไปมาเหลือเกิน รวมทั้งผู้กองและจ่าดำด้วย

เมื่อรถพยาบาลแล่นออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ เด็ก 2 คนนั้น ก็ร้องไห้วิ่งตามรถออกไปด้วย จนจ่าดำต้องวิ่งออกไปห้ามเอาไว้ ยายจันทร์ร้องเรียกหลานให้กลับมา ทั้ง 3 กอดกันแน่น เสียงร้องไห้ดังพร้อมกันอีกครั้ง ท่ามกลางฝูงคนที่ยืนอยู่ล้อมรอบ ยังไม่มีใครพูดอะไรในตอนนี้ เพราะต่างก็สะเทือนใจไม่แพ้กัน … น้ำตาผู้กองไหลโดยไม่รู้ตัว

“กระดาษครับ ผู้กอง” จ่าดำพูดพร้อมยื่นกระดาษให้

“ขอบใจจ่า”

“ไม่เป็นไรครับ ผมกำลังคิดว่า “ตอนนี้ สามีของเธออยู่ที่ไหน”?

----------------------------------------

ที่สถานีตำรวจ …

“ขอบคุณมากครับคุณป้า ที่ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเป็นอย่างดี คำให้การของคุณป้า เป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนต่อไปครับ”

“ผู้กองไม่ต้องขอบคุณดิฉันหรอกค่ะ ขอให้จับคนร้ายมาลงโทษให้ได้ก็พอแล้ว”

“ทางเราจะพยายามนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้แน่นอนครับ”

“ค่ะ ดิฉันน่ะ สงสารเด็ก 2 คนนี้จริง ๆ ต้องมากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วใครจะเลี้ยงดูต่อไป ยายจันทร์เองก็อายุมากแล้ว” ป้าจิตบ่นกับผู้กองอีกครั้ง

“อ้าว! แล้วสามีของผู้ตายล่ะครับ”

“อ๋อ! ก็เคยได้ยินจากยายจันทร์ว่า แยกทางกันแล้วค่ะ”

“เหรอครับ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่า ทิ้งร้านมานานแล้ว เป็นห่วงค่ะ”

“ถ้างั้นเดี๋ยวผมให้รถสายตรวจไปส่งครับ”

“ฉันกลับก่อนนะยายจันทร์” ป้าจิตบอกลายายจันทร์ ก่อนจะหันไปบอกผู้กองว่า “ช่วยดูแลแกด้วยนะคะ นึกว่าสงสารคนแก่ก็แล้วกัน”

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ”

ยายจันทร์ยังอยู่ในอาการโศรกเศร้า ไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น แกซึมมาตลอดทางที่มาสถานีตำรวจ

“ป้ากลับก่อนนะหลาน ขวัญเอ๊ย ขวัญมานะหลานนะ แม่เค้าไปสบายแล้ว”

เด็ก ๆ ยกมือไว้ป้าจิต แต่ไม่มีเสียงตอบใดใดจากเด็กเลย ป้าจิตมองเด็ก ๆ ด้วยความเวทนายิ่งนัก

---------------------------------------

ณ โรงพยาบาลตำรวจ

“ผลการชันสูตรศพเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ?”

“ครับ… จากการชันสูตรศพ พบว่า เธอเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 9 ช.ม. เนื่องจากขาดอากาศ และทนพิษบาดแผลไม่ไหวครับ”

“หมายความว่าไงครับ”

“เธอได้รับความทรมานมากก่อนเสียชีวิตไงล่ะครับ เพราะนอกจากคนร้ายจะทำร้ายร่างกายเธอแล้ว ก็ยังทำให้เธอหายใจไม่ออกอีกด้วย ผมว่า คนร้ายอาจมีจิตใจไม่ปกติก็ได้ ถึงได้ลงมืออย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ส่วนสภาพบาดแผลก็มี บริเวณช่องปาก ผมสันนิษฐานว่า ผู้ตายคงขัดขืนและต่อสู้กับ คนร้าย เธออาจตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ คนร้ายจึงใช้มีดแทงเข้าไปในปากของเธอ จนทะลุออกใบหู ทำให้ใบหูของเธอขาด ผมมั่นใจว่า เธอคงพยายามดิ้นรนต่อสู้สุดชีวิตเลยล่ะครับผู้กอง”

“ผมทำคดีมาก็มาก แต่ก็ยังไม่เคยพบการทำร้ายร่างกายขนาดนี้เลยครับหมอ”

“คนร้ายคงรีบร้อนมากครับผู้กอง”

“ทำไมหมอถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ”

“ก็เพราะว่า คนร้ายไม่ได้ถอดปลอกมีดปลายแหลมก่อนแทงเธอน่ะสิครับ”

“หา! มันแทงเธอทั้ง ๆ ที่มีดใส่ปลอกอยู่เหรอครับ มันโหดเหี้ยมเกินมนุษย์จริง ๆ ผู้หญิงตัวคนเดียวจะไปสู้อะไรได้ มันต้องการอะไรจากเธอกันแน่” ผู้กองสบถกับตัวเอง

“เป็นไปได้ว่า คนร้ายอาจมีมากกว่า 1 คน ถึงได้ทำร้ายเธอขนาดนี้”

“ผมก็คิดเหมือนหมอนะ อ้อ! แล้วบาดแผลอื่น ๆ ล่ะครับ”

“ก็อยู่บริเวณศีรษะด้านบนของเธอครับ มีรูใหญ่ 5 รูเรียงติดต่อกัน จากหลักฐานที่ได้มา เป็นเหล็กแหลม 5 อัน เท่าที่ผมทราบ เครื่องมือชนิดนี้ ชาวบ้านนิยมเอาไว้ใช้คุ้ยถ่าน หรือไม่ก็โกยหญ้า อะไรทำนองนั้นล่ะครับ คนร้ายฟาดลงบนศรีษะของผู้ตายอย่างแรง จนทำให้กระโหลกศรีษะของเธอแตกเป็นรูใหญ่ถึง 5 รู”

“มันเลวจริง ๆ … ผมจำได้ว่า ตอนผมไปถึงที่เกิดเหตุ สภาพศพผู้ตายนอนคว่ำหน้า แล้วก็มีเจ้าเหล็ก 5 ง่ามอันนี้ วางไว้บนหลังต้นคอของเธอ โดยปลายเหล็กแหลมปักลงไปในดิน ตอนที่เจ้าหน้าที่ดึงมันขึ้นมา รู้สึกได้ทันทีว่า ถูกปักแน่นมากครับหมอ”

“นี่แหล่ะครับ ที่เป็นสาเหตุให้เธอหายใจไม่ออก และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย นอกจากนี้ก็ยังมีร่องรอยฟกช้ำตามร่างกาย คิดว่า คงเกิดจากการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวน่ะครับ แต่ที่สำคัญในตอนนี้ ก็คือ ตาของเธอทั้งสองข้างไม่ยอมปิดครับ เราพยายามกันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอต้องเป็นห่วงอะไรสักอย่างแน่นอน”

“ครับหมอ ผมคิดว่า เธอเป็นห่วงลูกอีก 2 คน แล้วก็มีแม่อีกคนหนึ่ง” ผู้กองนึกถึงยายจันทร์กับเด็ก 2 คนนั้นขึ้นมาทันที

“แล้วผู้กองจะอยู่รอพบญาติของเธอมั้ยครับ?” เพราะผมได้รับแจ้งมาว่า บ่ายนี้ญาติของเธอจะมาดูศพ พร้อมกับรับศพไปที่วัดด้วยครับ”

“ก็ดีเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ ผมยังไม่ได้พบญาติคนอื่น ๆ ของเธอเลย นอกจากแม่ของเธอเท่านั้น” ผู้กองเริ่มมีความหวังจากการได้พบญาติของเธอ เพราะมันอาจจะทำให้เขาได้รู้อะไร ๆ เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้นก็ได้ อย่างน้อยก็เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีบ้าง

… บ่ายวันเดียวกัน … ที่โรงพยาบาล

“ผมชื่อ ชูศักดิ์ เป็นน้องชายของผู้ตาย มาขอดูศพครับ” ชูศักดิ์รีบมาที่โรงพยาบาลตำรวจทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากยายจันทร์ หลังจากแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่แล้ว ชูศักด์ก็ถูกพาไปที่ห้องดับจิต ซึ่งที่นั่น ผู้กองและหมอวิชัยได้รออยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีครับคุณหมอ สวัสดีครับผู้กอง ผมชื่อ ชูศักดิ์ เป็นน้องชายของผู้ตายครับ ชูศักดิ์แนะนำตัวอีกครั้ง ก่อนจะถามถึงผลการชันสูตรศพของพี่สาว

หมอวิชัยได้แจ้งผลการชันสูตรให้ชูศักดิ์ทราบ และได้บอกถึงการพยายามปิดตาพี่สาวของเขาว่า “ปิดตาไม่ลง”

“พี่สาวของผมคงเป็นห่วงลูก ๆ ครับ ยังไงผมขอลองปิดตาเธออีกครั้งได้มั้ยครับ?

“เชิญครับ”

เมื่อหมอวิชัยอนุญาตแล้ว ชูศักดิ์จึงเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ พี่สาว ภาพที่ชูศักดิ์ได้เห็นในตอนนั้น มันทำให้ชูศักดิ์กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ นึกไม่ถึงว่า เธอจะถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต เขาเพิ่งได้คุยกับพี่สาวเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ไม่มีอะไรบอกเป็นลางให้เขารู้เลย นอกจากเธอบอกเขาว่า “เธอถูกหมากัด” เท่านั้นเอง

“ไปสู่สุขคตินะครับพี่ ไม่ต้องห่วงเด็ก ๆ ยังไงก็เป็นหลานของผม ผมจะดูแลให้เอง” ชูศักดิ์พูดไปพร้อมกับลูบเปลือกตาของเธอลง แต่ก็ไม่ยอมปิดอยู่ดี เขาจึงลองอีกครั้ง แต่คราวนี้ ตาปิดลงเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างยังลืมตาอยู่ ชูศักดิ์จึงพยายามอีกครั้ง ปรากฎว่า นอกจากตาอีข้างจะไม่ยอมปิดแล้ว ตาที่ถูกปิดแล้ว กลับลืมขึ้นมาอีก เป็นอันว่า ชูศักดิ์เองก็ไม่สามารถปิดตาของเธอได้

“คุณหมอครับ ผมรู้ว่าเธอเป็นห่วงลูกมาก เราปล่อยไว้อย่างนี้ได้หรือเปล่าครับ”

“ได้สิครับ อันนี้ก็แล้วแต่คุณชูศักดิ์ก็แล้วกัน ทางโรงพยาบาลไม่ขัดข้องครับ”

“ถ้างั้น ผมขอรับศพไปวัดเดี๋ยวนี้เลยได้มั้ยครับ?”

“ได้ครับ ทางโรงพยาบาลได้จัดเตรียมรถไว้บริการให้แล้วล่ะครับ?

“ขอบคุณครับ คุณหมอ” งั้นผมขอตัวก่อนครับ

“โชคดีครับ หากต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก ติดต่อมาทางผมได้โดยตรงเลยครับ”

“ขอบคุณอีกครั้งครับ” ชูศักดิ์กล่าวขอบคุณหมอวิชัย ก่อนจะหันไปถามผู้กองสมชายว่า

“ผู้กองต้องการสอบปากคำผมหรือเปล่าครับ?”

“ครับ พรุ่งนี้ถ้าคุณว่าง ขอเชิญที่สถานีตำรวจด้วยเลย เพราะว่า พรุ่งนี้ผมมีนัดสอบปากคำกับคุณแม่ของคุณอีกครั้ง ถ้าสะดวก พบกันที่สถานีเลยนะครับ ก็ประมาณ 9 โมงเช้า

“ได้ครับ แล้วผมจะไปตามนัด ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

“ครับผม”

---------------------------------------

… ผ่านไป 20 ปี …

“แล้วไงต่อล่ะ ตกลงตำรวจตามจับคนร้ายที่ฆ่าแม่เธอได้หรือเปล่า?”

“ไม่ได้”

“อ้าว! ทำไมจับคนร้ายไม่ได้ล่ะ ก็เธอบอกว่า ผู้กองคนนั้นเอาจริงเอาจังกับคดีนี้มากไง!”

“ฉันก็คิดเหมือนเธอนะแอน ฉันเคยถามน้าชูศักดิ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ น้าชูศักดิ์ก็บอกว่า ตอนนั้นตำรวจคิดว่า คนร้ายหนีออกต่างจังหวัดไปแล้ว การที่จะติดตามไปตามหาตัวคนร้ายในต่างจังหวัด จำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งในสมัยนั้นสวัสดิการในเรื่องนี้ ยังไม่ดีเท่าไหร่ เลยต้องยอมปล่อยให้คดีเงียบไปเฉย ๆ”

“แล้วเธอล่ะปาน เธอคิดยังไงกับเรื่องนี้ ถ้าเป็นฉัน ๆ คงไม่ยอมแน่เลย”

“ตอนนั้นฉันอายุแค่ 9 ขวบเองนะแอน เราไม่รู้หรอกว่า ผู้ใหญ่เค้าจัดการอะไรกันยังไงบ้าง รู้แต่ว่า “ฉันรู้สึกผิดที่แม่ฉันตาย” ฉันคิดอยู่ตลอดเวลาว่า ฉันเป็นต้นเหตุให้แม่ฉันตาย จริง ๆ นะแอน”

“มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลยนะปาน เธอน่ะยังเด็กอยู่ เด็กมาก ๆ ซะด้วย แล้วเธอจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่เธอตายได้ยังไง ไอ้โจรพวกนั้นต่างหากที่มันทำร้ายแม่เธอ ไม่ใช่เธอหรอกปาน”

“ก็เช้าวันก่อนที่แม่ฉันจะตาย ฉันเห็นคนงาน 2 คนพกมีดติดไว้กับตัว ตอนนั้นฉันกำลังเตรียมตัวจะไปโรงเรียน ฉันก็เดินเข้าไปถามว่า นี่อะไร? รู้สึกว่า คนงานจะตกใจแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร ฉันก็เลยไปบอกยายเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเห็น ยายก็บอกให้ฉันไปเตือนแม่ให้รู้ตัวเอาไว้ก่อน ยายบอกว่า คนงาน 2 คนนี้ ติดยาเสพติด เบิกเงินล่วงหน้าจากแม่บ่อยมาก จนแม่ไม่ให้แล้ว แม่ก็ต่อว่าพวกเค้าด้วย แต่ … ฉันลืมบอก ฉันลืมบอกแม่ ฉันคิดอยู่เสมอว่า ถ้าวันนั้นฉันไม่ลืมบอกแม่ แม่คงไม่ตาย …”

“อย่าคิดมากเลยปาน … ถึงยังไงตอนนี้เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะ”

“ฉันคงลืมไม่ได้หรอก ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่า คนร้าย 2 คนนั้น ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ ฉันก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าได้เจอพวกเค้าอีกครั้ง ฉันจะจำหน้าพวกนั้นได้หรือเปล่า”

“พวกมันอาจจะตายไปแล้วก็ได้นะปาน อาจจะลงแดงตาย หรือไม่ก็เวรกรรมมันตามทันไปแล้วล่ะ” แอนปลอบเพื่อนด้วยความห่วงใย แม้จะรู้ว่า ยังไงก็ไม่สามารถทำให้ปานลืมเรื่องนี้ได้

“ฉันไม่สนใจหรอกว่า พวกนั้นจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ฉันอยากรู้เพียงอย่างเดียว ก็คือ ป่านนี้แม่จะไปเกิดใหม่หรือยัง? ฉันอยากให้วิญญาณของแม่ได้รับรู้ว่า เวลา 20 ปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยลืมรักแม่เลย ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้แม่มาเข้าฝันฉัน เพราะถ้าแม่มาจริง ๆ ฉันอยากบอกแม่ว่า “ปานขอโทษ” …

สุวรรณา    บำเพ็ญเกียรติกุล

You are Poet 2543

Good Luck
| Home | การแต่งร้อยแก้ว | การแต่งร้อยกรอง | วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999

poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com

1