เรื่องสั้น
แด่ความไม่ศรัทธาของข้าพเจ้า
เที่ยงสี่สิบห้านาที
แสงแดดจัดจ้าและร้อนแรง วูบหนึ่งสายลมอบอ้าวพัดเอาฝุ่นมาเข้าหน้าหอบใหญ่
ผมควักผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหน้าเช็ดตาและเช็ดหยดเหงื่อที่ไหลย้อยลงมาตามใบหน้า
จากตรงที่ผมยืนอยู่สามารถมองเห็นพวกคนงานก่อสร้างกำลังล้อมวงกินข้าวกันเป็นกลุ่มๆอยู่ในร่มเงาอาคาร
บางคนที่กินเสร็จแล้วก็ล้มตัวลงงีบนอนเพื่อเอาแรงไว้ต่อสู้กับงานหนักในช่วงบ่ายต่อไป
แต่ไม่ว่าเปลวแดดจะแผดร้อนแค่ไหน
ทั้งเขาและผมก็ยังคงยืนคู่กันอยู่อย่างมั่นคงกลางลานกว้าง
นึกๆแล้วมันก็แลดูน่าหัวเราะอยู่เหมือนกันที่เราสองคนมายืนด้วยกันได้
เขาอยู่ในชุดพราหมณ์สีขาวสะอาด
ในมือถือตำราเก่าขาด
ขณะที่ผมผูกเนคไทสีแสบและในมือถือแบบพิมพ์เขียว
....เรายืนเผชิญหน้ากันเหมือนเป็นคู่ต่อสู้ที่แต่ละฝ่ายต่างก็เป็นตัวแทนของอะไรสักอย่าง
เอาตรงหัวโค้งนี่ก็ได้
เขาพูดเนิบๆ...
ความหมายเต็มของประโยคนี้คือให้วางศาลพระพรหมไว้ตรงหัวโค้งนี่ก็ได้
มีตำแหน่งอื่นที่ใช้ได้อีกไหมครับ
ผมเค้นเสียงพูดเหมือนรำคาญเขาเต็มที
พยายามทำท่าทางให้เขารู้ว่าผมก็เชื่อมั่นในวิชาชีพของผมไม่น้อยกว่าที่เขาเชื่อในวิชาชีพของเขา
ตรงนี้แหละดีแล้ว
ทั้งทิศทั้งตำแหน่ง
เหมาะที่สุดแล้ว เขาพูดเนิบๆอีก
แล้วหรี่ตามองผมเหมือนกับจะบอกให้รู้ว่ากูก็รำคาญมึงเหมือนกัน
แล้วถ้าเป็นตรงสวนหย่อมโน่นล่ะครับ
ผมว่าตรงหัวโค้งนั่นมันจะบังหน้าร้านค้าไปหน่อยนะ
เขาเงียบ....
ศาลพระพรหมอยู่ในสวนก็ดูร่มรื่นดีนะครับ
เวลามีคนมาสักการะก็เป็นสัดเป็นส่วนไม่วุ่นวาย
ผมรุกเข้าไปอีก
ก็ดีๆ...
แต่เอาให้พระพรหมหันด้านหน้ามาทางตลาดก็แล้วกัน
พ่อพราหมณ์ยินยอมในที่สุด คุณต้องเตรียมฐานให้ศาลพระพรหมด้วย
เป็นฐานกลมเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งเมตรเก้าเซ็นติเมตร
สูงยี่สิบสองเซ็นติเมตรนะ
ตัวศาลซื้อสำเร็จรูปเอาก็ได้
แล้วพระพรหมกับพวกของในพิธีการทางเราจะเตรียมมาเอง
ผมจดข้อมูลที่เขาบอกลงในสมุดโน้ต
เรื่องฤกษ์ยามนี่คุณรู้แล้วใช่ไหม
วันที่สี่เดือนหน้า
เก้าโมงเก้านาที
รู้ครับ... ฝ่ายธุรการบอกผมแล้ว
ผมจดกำหนดการทำพิธีตั้งศาลพระพรหมลงไปในสมุด
ความจริงผมยังไม่รู้เรื่องฤกษ์หรอก
ฝ่ายธุรการเพิ่งแจ้งให้ผมทราบเมื่อเช้านี้เองว่าตอนบ่ายจะมีพราหมณ์มาดูทำเลที่ตั้งศาลพระพรหม
และให้ผมซึ่งเป็นสถาปนิกประจำโครงการช่วยพาชมสถานที่และอำนวยความสะดวกด้วย
ปกติผมไม่เชื่อถือเรื่องโชคลางหรือเรื่องไสยศาสตร์อะไรพวกนี้เท่าไหร่
...ก็คนไม่เคยเจอผี
ไม่เคยถูกเสกของเข้าท้องนี่ครับ
เคยแต่ได้ยินมาว่าเวลาดูฤกษ์ยามนี่ให้ไปดูกับพระหรือหมอดู
พอได้มาเห็นพราหมณ์ตัวจริงเข้าเลยรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน
ไม่ยักรู้ว่าพราหมณ์นี่ก็เป็นอาชีพที่ใช้หากินได้กับเขาเหมือนกัน
แต่เอาเถอะ
ก็คนทุกวันนี้ทำอะไรแปลกๆขึ้นทุกทีอยู่แล้วนี่
ถ้ามองในมุมกลับแล้ว
แม้แต่อาชีพสถาปนิกเองก็ยังมีคนอีกตั้งมากมายที่ไม่รู้ว่าอาชีพนี้เขามีไว้ทำอะไรกันบ้าง
ขอตัวก่อนก็แล้วกัน
ต้องไปดูอีกหลายที่
พ่อพราหมณ์ตัดบทบอกลาเนิบๆ
ไม่น่าเชื่อว่าอาชีพของเขาจะทำให้เป็นคนมีงานล้นมือได้เสียด้วย....
ผมโทรไปรายงานผลสรุปกับฝ่ายธุรการ
แล้วขอให้ช่วยจัดซื้อศาลพระพรหมสำเร็จรูปมาให้ด้วย
ขอให้เป็นสีออกน้ำเงินๆเพื่อให้เข้ากับโทนสีของโครงการ
ส่วนเรื่องรูปแบบให้ฝ่ายเขาตัดสินใจเองเลยเพราะพวกศาลสำเร็จรูปจะมีหน้าตาไม่ค่อยหนีกันอยู่แล้ว
เฮ้ย! พราหมณ์กลับไปแล้วเหรอวะ
จะให้ดูลายมือให้ซะหน่อย
พี่เป้---วิศวกรโยธาร่างใหญ่ประจำโครงการ
ผลักประตูพรวดเข้ามาถาม
กลับไปแล้วพี่ เอ๊ะ!
พวกพราหมณ์นี่ดูลายมือได้ด้วยเหรอ
ไม่ใช่เหรอวะ
ก็ปกติเขาเอาไว้ทำอะไรบ้างล่ะ
พี่เป้ถามกลับ
ก็เอาไว้ทำพิธี เอาไว้ดูฤกษ์....
ไม่รู้สิพี่
ผมไม่เคยมีเพื่อนเป็นพราหมณ์ซะด้วย
ผมตอบแบบขอไปที
แล้ววกมาคุยเรื่องงานต่อ เออพี่เป้
เราต้องทำฐานให้ศาลพระพรหมด้วยนะ
ฝากพี่ดูเรื่องโครงสร้างด้วย
เดี๋ยวผมเขียนแบบให้
เออๆดูให้
แล้วไอ้ตัวศาลนี่มันหนักแค่ไหนวะ
ต้องใส่เสาเข็มหรือเปล่าวะนี่ เขาเดินบ่นพึมพำออกไป
งานนี้ดูแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร
ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองอาทิตย์กว่าให้เตรียมการ
แต่เพื่อความมั่นใจผมจึงคว้าแผ่นกระดาษขึ้นมาเริ่มร่างแบบคร่าวๆก่อน
โดยยึดระยะต่างๆตามที่พราหมณ์บอก
เฮ้อ!....
ถ้าสร้างจริงแล้วระยะเพี้ยนไปสักสองสามมิลลิเมตรจะผิดตำราหรือเปล่าก็ไม่รู้
เวลาหมุนผ่านไปเรื่อยๆตามปกติ.....
งานก่อสร้างก็ค่อยๆคืบหน้าไปตามปกติของมันเหมือนกัน
ไซท์งานที่ผมประจำอยู่เป็นโครงการก่อสร้างตลาดนัดขนาดใหญ่
ซึ่งก็คงกินระยะเวลาในการก่อสร้างอยู่เกือบๆปีทีเดียว
ตอนแรกๆผมเข้าใจว่าไม่น่าจะเป็นงานยากเย็นอะไร
ก็แค่ตลาดเท่านั้น
ไม่ได้มีงานส่วนที่เรียกว่างานสถาปัตย์
ที่เป็นการตกแต่งความสวยงามมากมายนัก
แต่เอาเข้าจริงๆกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเท่าไหร่
เพราะเป็นงานก่อสร้างในช่วงหน้าฝนพอดี
ประกอบกับได้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีสไตล์การทำงานแบบลูกทุ่งพอสมควร
คือไม่รู้จักการทำงานตามแผนงานเท่าใดนัก
ทุกๆวันที่หน้างานจะมีอะไรให้วุ่นวายได้เสมอ
หากเมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่าตัวเองว่างงาน
เพียงแค่ออกไปเดินเล่นรอบๆสักครู่ก็จะเจอปัญหาให้ได้กลุ้มได้แก้ทุกที
มีเรื่องใหม่เข้ามาทุกวันขณะที่เรื่องเก่าก็ยังไม่ได้สะสาง
จึงไม่แปลกที่บางทีผมก็หลงลืมเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปบ้าง
อย่างเรื่องศาลพระพรหมนี่ก็เหมือนกัน
ผมเพิ่งมากระตือรือร้นอีกทีก็ตอนที่โฟร์แมนของผู้รับเหมามาบอกว่าเทปูนตรงตัวฐานกลมเสร็จแล้ว
กังวลเล็กๆอันดับแรกที่ผุดขึ้นมาก็คือเรื่องระยะ
ผมรีบคว้าตลับเมตรแล้ววิ่งไปเช็คระยะที่หน้างานทันที
ยี่สิบห้าเซ็นติเมตร!
....เทคอนกรีตสูงเกินจากที่พราหมณ์กำหนดไปสามเซ็นติเมตร
สูงกว่าในแบบที่พี่ให้ผมนิดหน่อย
ไม่เป็นไรมั้งพี่
แค่เซ็นต์สองเซ็นต์
ช่างปูนมันคงเสียดายปูนน่ะพี่
เทแล้วปูนเหลือเลยเทแถมให้....
เจ้าโฟร์แมนแสนกลพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมละเลยข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ
ไม่ได้โว้ย
พราหมณ์เขากำหนดไว้แล้ว
เดี๋ยวจะผิดเคล็ด
แล้วพี่จะให้ผมทำยังไงล่ะ
จะให้ทุบทิ้งแล้วเทใหม่อีกทีเหรอ
ผมว่าพราหมณ์มันไม่มาเอาตลับเมตรวัดเหมือนพี่หรอก
เขาอ้าง ....ผมว่ามันเป็นข้ออ้าง
แต่คิดดูอีกทีถ้าจะให้ทุบแล้วทำใหม่คงเสร็จไม่ทันพิธีตั้งศาลแน่
เหลือเวลาอีกสองวันเท่านั้น
ท่าจะต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นเสียแล้ว
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน
ไม่ต้องแก้อะไรหรอก
เดี๋ยวกูสั่งให้คนสวนถมดินรอบๆฐานให้สูงเพิ่มขึ้นอีกหน่อยมันก็ได้ระยะเองแหละ
ทีหลังสั่งอะไรคนงานแล้วดูๆด้วยสิวะ
คอยตามผลงานด้วย
ผมต้องทำเป็นโวยเล็กๆน้อยๆ
โธ่พี่! ปกติผมก็ดูนา เขายิ้มยียวน
แต่นี่ผมเห็นว่าเป็นแค่ฐานคอนกรีตธรรมดา
ไม่นึกว่าพี่จะซีเรียสขนาดนี้นี่
อ้าว....
ไม่ได้หรอกเรื่องความเชื่อนี่ต้องยอมๆกันหน่อย
ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจะหันไปเห็นพี่เป้วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
เฮ้ย! ซวยกันใหญ่แล้วโว้ย
ไอ้ศาลพระพรหมที่มึงให้ฝ่ายธุรการไปซื้อมาน่ะ
มันท่าจะใหญ่กว่าฐานที่เราเตรียมไว้ว่ะ
เขาพูดรัว แล้วหยุดหอบแฮกๆ
อ้าว...เป็นไปได้ยังไง
ศาลสำเร็จรูปมันก็น่าจะขนาดเท่าๆกันหมดนี่พี่
มันน่าจะเป็นมาตรฐานนะ
แล้วทำไมพราหมณ์มันถึงได้กำหนดขนาดฐานมาเล็กกว่าได้ล่ะ
ผมแปลกใจ
มันเป็นไปแล้วโว้ย
ก็เมื่อตะกี้มีคนเอาศาลมาส่ง
กูก็เลยไปดูหน้าตาศาลว่าเป็นยังไงวะ
ปรากฏว่าแม่งใหญ่ฉิบหาย
ดูด้วยสายตาแล้วน่าจะใหญ่กว่าฐานวงกลมที่เราเตรียมไว้ว่ะ
พี่เป้ชี้มือชี้ไม้เหมือนจะบอกให้ผมไปดูซะหน่อย
ผมหันไปมองตามทางที่เขาชี้มือ
เห็นคนงานหกเจ็ดคนกำลังช่วยกันยกศาลพระพรหมสำเร็จรูปเข้ามาในสวน
ท่าจะหนักมากเหมือนกัน
แท่นศาลทรงเหลี่ยม มีย่อมุม
ถ้าถามความเห็นของผมซึ่งเป็นสถาปนิก
ก็ต้องบอกว่าดูไม่เข้ากับตัวฐานที่เป็นวงกลมเท่าไหร่
นี่หมายถึงเรื่องหน้าตานะครับ
ยังไม่ได้หมายถึงเรื่องขนาด
พี่เป้สั่งให้วางลงข้างๆฐานวงกลมที่เราเตรียมไว้
และเนื่องจากคอนกรีตตัวฐานวงกลมเพิ่งเทไปไม่นาน
ยังไม่แข็งตัวพอรับน้ำหนักศาลได้
ดังนั้นแทนที่จะให้คนงานวางศาลลงบนฐานเพื่อเทียบขนาดโดยตรงเลย
พี่เป้จึงดึงตลับเมตรจากมือผมไปวัดตัวศาลแทน
ใหญ่ไปจริงๆด้วยว่ะ
เกินวงกลมออกมาห้าเซ็นติเมตร เขาพูดเสียงเครียด
เรามองหน้ากันนิ่งนาน
คล้ายจะทำการปรึกษากันในใจ
ครู่หนึ่งเจ้าโฟร์แมนที่ยังยืนอยู่ด้วยก็หลุดเสียงหัวเราะหึๆออกมา
ดูท่าเขาพยายามกลั้นหัวเราะอย่างยากเย็น
ก็น่าหัวเราะเยาะอยู่หรอก
เมื่อกี้ผมยังให้ทำงานตามคำสั่งพราหมณ์อย่างเคร่งครัด
พอปรากฏว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นทีนี้จะแก้ปัญหายังไงล่ะ....โดยไม่ฝ่าฝืนระดับระยะบ้าบออะไรพวกนั้น
นั่นน่ะสิ ทำยังไงล่ะ ผมพึมพำ
พี่เป้ถอนหายใจ
แล้วยืดหลังตรงก่อนจะพูดออกมาตอนนี้ยังไงฐานกับตัวศาลมันไม่ลงกันแน่ๆ
ถ้าไม่แก้ฐานก็ต้องไปหาซื้อศาลใหม่ล่ะวะ
ถ้าไปหาซื้อศาลใหม่ก็ไม่แน่ว่าจะหาที่เข้ากับฐานวงกลมของเราได้
เพราะศาลที่เรามีอยู่นี่ก็เป็นขนาดมาตรฐานอยู่แล้ว
ผมออกความเห็น
ถ้างั้นก็ต้องแก้ที่ตัวฐานกลม....
แต่พราหมณ์....
เราต้องเลือกแล้วโว้ย
ยังไงๆโครงการมันคงไม่เจ๊งเพราะเราทำฐานศาลพระพรหมผิดหรอก
แต่ถ้าอีกสองวันตั้งศาลไม่ได้เนี่ย
มึงกับกูเจ๊งแน่
พี่เป้เริ่มเร่งน้ำเสียง
คิดดูแล้วก็คงจะจริงของเขาแฮะ!
ถ้างั้นก็แก้ที่ฐานแล้วกัน ผมยอมในที่สุด
เฮ้ย!พี่เป้หันไปสั่งเจ้าโฟร์แมนที่ยืนฟังอยู่
เอางี้แล้วกันวะ
เดี๋ยวมึงกั้นไม้แบบเทคอนกรีตเพิ่มให้เป็นฐานสี่เหลี่ยมก็แล้วกัน
เอาเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสกว้างสัก....
เมตรสี่สิบคูณเมตรสี่สิบเลยนะ
พอตกเย็นพี่เป้ก็เริ่มเปรยๆว่า
ไม่แน่ใจว่าฐานคอนกรีตที่เทไปตอนกลางวันจะแข็งตัวพอรับแรงได้ภายในวันพรุ่งนี้หรือเปล่า
เพราะถ้าจะยกศาลขึ้นตั้งก่อนวันพิธี
(คือวันมะรืน)
ก็ต้องยกขึ้นวันพรุ่งนี้เป็นอย่างช้า
สรุปแล้วคืนนั้นเราเลยต้องวานยามกะดึกให้คอยตักน้ำราดฐานศาลทุกๆชั่วโมงเพื่อช่วย
บ่มให้คอนกรีตแข็งตัวเร็วขึ้น
กว่าเราจะวางใจกลับบ้านได้ก็ล่วงเข้าไปเกือบเที่ยงคืน
บ่ายแก่ๆวันต่อมาพี่เป้จึงให้คนงานช่วยกันยกศาลขึ้นไปตั้งบนฐาน(สี่เหลี่ยม)
ผมบอกไม่ถูกว่าวินาทีที่ศาลพระพรหมสัมผัสกับฐานที่เราเตรียมไว้นั้นมันน่าตื่นเต้นแค่ไหน
ทั้งโฟร์แมน ทั้งวิศวกร
ทั้งคนงานร่วมยี่สิบกว่าคนมายืนลุ้นกันเต็มไปหมด
จนคนข้างนอกที่ผ่านไปผ่านมานึกว่ามีอุบัติเหตุเลยเข้ามาร่วมเป็นไทยมุงด้วย
....แต่พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกลับมีแต่เสียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเท่านั้น
ไม่ถึงกับมีการโห่ร้องแต่อย่างใด
ถึงยังไงเย็นนั้นผมก็เห็นพี่เป้ชำเลืองดูศาลนั่นอยู่บ่อยๆ
แต่ไม่ใช่มีเขาคนเดียวหรอกที่ยังไม่วางใจ
ลึกๆแล้วผมก็กลัวอยู่บ้างเหมือนกันที่ทำฐานศาลพระพรหมไม่ตรงกับคำสั่งของพราหมณ์
ไม่ได้กลัวผิดเคล็ดอะไรหรอก
แต่กลัวว่าพรุ่งนี้พราหมณ์มาเห็นแล้วจะโวยวายเอาเท่านั้นเอง
ปัญหาของผมก็คือวันพรุ่งนี้จะมีทั้งแขกผู้ใหญ่
ทั้งแขกผู้น้อย
....หรือแม้แต่สื่อมวลชนมาร่วมพิธี
หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาคงไม่เป็นผลดีกับหน้าตาของบริษัทแน่ๆ
แต่มาถึงตอนนี้ผมก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่ามึงทำ
ดีที่สุดแล้วล่ะ
ผลมันจะเป็นยังไงก็คงต้องเป็นกันล่ะวะ
เช้าวันทำพิธี
ผมมาถึงไซท์งานเกือบเก้าโมงเช้า
กะว่าจะได้ไม่ต้องมาเจอกับพราหมณ์ที่มาเตรียมพิธีตั้งศาลร่วมกับฝ่ายธุรการแต่เช้า
ตอนที่ผมมาถึงพวกแขกที่มาร่วมพิธีมากันพอหนาตาแล้ว
ผมเสเดินทักทายคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยๆ
เพียงครู่หนึ่งก็ถึงเวลาฤกษ์
ควันธูปลอยฟุ้งส่งกลิ่นหอมฉุนไปทั่วบริเวณขณะทำพิธี
ผมเหลือบไปเห็นพี่เป้ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของกลุ่มคน
สายตาของเขายังจับจ้องที่ฐานศาลพระพรหมเป็นระยะๆ
ผมลองชำเลืองดูพราหมณ์ที่กำลังทำพิธีอยู่ก็เห็นเพียงสีหน้าที่ดูสำรวม
แม้แต่พวกฝ่ายธุรการซึ่งเป็นอีกพวกที่รู้ข้อมูลต่างๆของตัวศาลและขนาดฐานก็ยังยิ้มแย้มกันดี
ดูเหมือนไม่มีใครสังเกตรู้ว่าฐานศาลพระพรหมที่กำลังทำพิธีกันอยู่นั้น
มันไม่ตรงกับที่พราหมณ์สั่งเอาไว้....
พอเสร็จพิธีพี่เป้ก็เดินยิ้มเข้ามาหาผม
เฮ้ย! มาพอดีพิธีเลยนะมึง
กูเมื่อเช้าเสือกทะลึ่งมาตั้งแต่เจ็ดโมง
เลยต้องช่วยฝ่ายธุรการเขาเตรียมพิธีอยู่คนเดียว
แล้วมีคนถามเรื่องฐานศาลที่ไม่เป็นวงกลมหรือเปล่าพี่
ผมรีบถามสิ่งที่อยากรู้
โอ้ย... ไม่มีอะไรหรอก
เขาเห็นทุกอย่างเรียบร้อยทำพิธีได้ก็โอเคแล้ว
พี่เป้โอบไหล่ผมแล้วเอียงหน้าเข้ามากระซิบใกล้ๆมีคนมาถามๆเหมือนกันว่าทำไมฐานไม่เป็นวงกลม
กูก็ตอบเขาไปว่าทำแล้วมันไม่พอตั้งศาล
แต่มึงไม่ต้องห่วงหรอก
ตัวพราหมณ์เองยังไม่เห็นพูดอะไรสักคำเลย
กูว่าเผลอๆอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าสั่งให้เราทำอะไรไว้
เป็นอย่างงั้นก็ดีแล้วล่ะพี่ แล้วผมก็โล่งใจ
นี่เป็นอันว่าผมวิตกเกินเหตุไปเท่านั้นเอง
เฮ้ย! พี่เป้สะกิดแขนผม
เขายิ้มเหมือนมีเรื่องสนุกๆจะเล่าให้ผมฟัง
แต่ฝ่ายธุรการเขาฝากข่าวร้ายมาว่ะ....
อะไรพี่
เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะมีซินแสมาดูฮวงจุ้ยโครงการว่ะ
ฮ่า ฮ่า....
-------------------------------------------------
ตะเฆ่สัน
ตีพิมพ์ครั้งแรก
แพรว 10 พฤศจิกายน 2540 |