You are Poet2543

7smooth.com  ยินดีต้อนรับ

นวนิยาย    เรื่องสั้น   บทความ    เรื่องที่อยากเล่า

สนามแสดงความสามารถทางด้านการประพันธ์ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง

เรื่องสั้น
สิ่งเดียวที่ยังติดค้าง

                        “ตู๊ด ๆ ๆ “ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวรับโทรศัพท์ ‘ป่านนี้แล้วนะ ใครยังโทรฯ มาอีก’ เธอคิด แต่แล้วเสียงจากปลายสายก็ทำให้เธอแปลกใจระคนตกใจ เนื่องจากผู้ที่โทรฯ มา เป็นบุคคลที่เธอคิดไม่ถึง “ฮัลโหล พี่เมย์ นี่ตั้นนะครับ” 'ตั้น' เด็กชายวัย 12 ปีกล่าวอย่างรีบร้อน จากน้ำเสียงนั้น เมย์รู้สึกได้ถึงความตื่นตระหนกอย่างมากมาย “มีอะไรหรือจ๊ะ” หญิงสาววัย 24 ปีเศษ เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “พี่เมย์…พี่เมย์ฟังตั้นนะ…” เด็กชายไม่ตอบ แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้เปล่งออกมาอย่างใจเย็น “พัทธ์…” “พัทธ์ทำไมจ๊ะ

                        ตั้นบอกพี่มาเร็วๆ ” เมย์แทบสำลักอากาศ เมื่อได้ยินตั้นเอ่ยถึงน้องชายของตน “พัทธ์ถูกยิงครับ”…เมย์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง พัทธ์…น้องชายของเธอถูกยิง

…

                        “ทำไมพี่เมย์ยังไม่มาอีกนะ” ตั้นพูดอย่างร้อนใจ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เมย์ทำงานอยู่ไกลจากโรงพยาบาลมาก จะให้มาถึงภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงได้อย่างไร โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน การจราจรบนถนนย่อมติดขัดมากเป็นของธรรมดา “เดี๋ยวก็มาแล้วล่ะ ให้เวลาพี่เขาหน่อย รถคงติดมากแหละ” 'ฝน' เพื่อนสนิทของเมย์ และอาจารย์ประจำชั้นของตั้นที่มาด้วยกันกล่าว แล้วต่างคนก็ต่างเงียบไป…

                        “พวกมันต้องการอะไรกันแน่” เสียงหนึ่งเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหน 'นนท์' น้องชายคนเล็กของเมย์นั่นเองที่เป็นเจ้าของเสียงนั้น “พวกมันเอาชีวิตป๊ากับแม่ไปแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ หึ…อีกหน่อยมันก็คงฆ่าหมด ไม่เหลือใครอีกล่ะนะ” นนท์พูดอย่างขมขื่น น้ำเสียงที่สั่นเครือเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นการร้องไห้ น้ำตาลูกผู้ชายตัวเล็กๆ ไหลอาบสองแก้ม นนท์ซบหน้าไปกับฝนที่กอดเขาไว้อย่างสงสาร

…

                        ที่โรงพยาบาลขณะนี้คลาคล่ำไปด้วยนักข่าวจากทุกสื่อ ที่มาทำข่าวเกี่ยวกับการถูกยิงของพัทธ์ พวกนักข่าวนี่จมูกไวกันจริงๆ อึดใจเดียวหลังเกิดเหตุก็มากันเต็มหน้าโรงเรียนไปหมด แถมยังตามมาถึงโรงพยาบาล และยืนยันจะสัมภาษณ์ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ได้

…

                        2 ทุ่ม 15 นาที นนท์ยังคงร้องไห้ต่อไปและเริ่มควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เมย์เองหลังจากที่ตั้นได้โทรฯ ไปถามแล้วก็ได้ความว่า รถติดมาก แต่อีกสักพักคงจะไปถึง และหมอก็ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดเลยตลอด 3 ชั่วโมง ตอนนี้ ทุกคนได้แต่รอ…รอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

                        งานนี้ บุคคลที่น่าเห็นใจที่สุดเห็นจะเป็นฝนกระมัง เพราะต้องอยู่เป็นเพื่อนเด็ก 2 คนมาถึง 3 ชั่วโมงแล้ว ทั้งที่ความจริงตอนนี้ตัวเองน่าจะกำลังทานข้าว หรือทำอะไรสักอย่างที่เป็นธุระของเธอจริงๆ อยู่ที่คอนโดฯ ได้แล้ว ให้ตายสิ!

…

                        เวลาผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเมย์ก็มาถึง และด้วยความบังเอิญหรืออะไรก็ตามแต่ คุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัดพอดิบพอดี พร้อมกับรอยยิ้มและข่าวดีที่ว่าพัทธ์ไม่เป็นอะไรแล้ว…ท่ามกลางความโล่งอกสบายใจของทุกคน น้ำตาของเมย์ก็พรั่งพรูด้วยความปลื้มปิติ คืนนั้น…ฝนและตั้นกลับบ้านพร้อมกับให้สัญญาว่า จะมาเยี่ยมใหม่ในวันพรุ่งนี้

                        หลังจากได้พักผ่อนเต็มที่ 1 วันเต็ม พัทธ์ดูดีขึ้นมาก หน้าตาที่เคยซีดเซียวกลับคืนสู่สภาพที่ใกล้เคียงของเดิม อย่างไรก็ตาม เขาพร้อมแล้วที่จะพบปะพูดคุยกับคนที่จะมาเยี่ยมในคืนนี้

                        “แอ๊ด..“ เสียงเปิดประตูดังขึ้น ปลุกเด็กชายให้ตื่นจากภวังค์ แต่ก็ไม่อาจทราบได้ว่าใครกันที่เป็นผู้ทำให้เกิดเสียงนั้น เพราะความไม่สมบูรณ์ของความสามารถในการมองเห็นของตา ที่สั้นลงไปถึง 5 ไดออปเตอร์ (500) และแว่นสายตาก็แตกไปแล้วตอนถูกยิงแล้วล้มลง พัทธ์จึงไม่อาจบอกได้ว่าภาพบุคคลที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือใคร…แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างก็ทำให้ความคิดของเขาสะดุดลง กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคยนั่นเอง และเจ้าของ ก็คือคนหนึ่งที่เขารอคอย…

                        “พี่น้ำ…พี่ฝน” พัทธ์เอ่ยชื่อเพื่อนพี่สาวทั้งสองคนอย่างแผ่วเบาพลางยกมือขึ้นพนมไหว้อย่างสวยงามที่สุดเท่าที่ทำได้ในขณะนั้น “พี่เมย์ไปไหนซะล่ะ ทิ้งคนป่วยไว้คนเดียวได้ไง” ผู้ที่เด็กชายเรียกว่าพี่น้ำ เอ่ยถามอย่างท่าทางเป็นห่วงเหลือเกิน “พี่เมย์ไปรับน้องครับ” พัทธ์ตอบอย่างอ่อนเพลีย “เป็นไงมั่งอะเรา “ ฝนถามบ้าง “ก็ดีขึ้นแล้วครับ” เขายิ้มอย่างเหนื่อยล้า…ทั้งสามคุยกันไปได้พักใหญ่ ความเงียบก็เข้ามาแทนที่อีกครั้ง นั่นแหละ ‘ลูกน้ำ’ หรือที่พัทธ์เรียกง่ายๆว่าพี่น้ำถึงได้พูดขึ้น “พัทธ์รู้รึเปล่า ตอนที่พี่เมย์เค้ารู้ว่าพัทธ์ถูกยิง เค้าร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด….เราน่ะสำคัญต่อชีวิตพี่เค้ามากนะ อย่าทำให้พี่เค้าเสียใจล่ะ” ลูกน้ำพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะอะไร ไม่มีใครรู้ พัทธ์จึงได้แต่ให้คำตอบเพื่อนพี่สาวไปอย่างจริงใจว่า “ครับ…เวลาที่เหลือนี้ พัทธ์จะอยู่เพื่อพี่เมย์ จะทำเพื่อพี่เมย์ อะไรที่พัทธ์ทำได้ พัทธ์จะทำ มันอาจจะไม่คุ้มกับสิ่งที่พี่เมย์ให้มา แต่ก็ยังดีกว่าพัทธ์ไม่ได้ทำอะไรเลย…

                        “พัทธ์รู้ครับ พี่เมย์รักพัทธ์มาก พี่เมย์ทำเพื่อพัทธ์มาตลอด ที่ผ่านมา พี่เมย์เป็นคนเดียวที่สามารถทด-แทนในสิ่งที่พัทธ์ไม่มีได้ พี่เมย์เป็นทุกอย่างของพัทธ์ พัทธ์สัญญา ต่อไปนี้พัทธ์จะไม่ทำให้พี่เมย์ผิดหวังหรือเสียใจอีก” ลูกน้ำลูบหัวพัทธ์เบาๆ อย่างเอ็นดู ในขณะที่ฝนรู้สึกซาบซึ้งในคำตอบที่กลั่นกรองมาจากใจของเด็กชาย พลางนึกย้อนไปถึงอดีตที่เลวร้ายของพัทธ์…

                        พัทธ์ เด็กชายวัย 12 ปีผู้นี้ ผ่านความทุกข์ในใจมามากมาย นานมาแล้วที่เขาไม่มีแม่คอยดูแล แม่ของพัทธ์ถูกฆาตกรรม เพราะอะไร ไม่มีใครรู้ เวลาผ่านไป 8 ปี คดีก็ยังปิดไม่ลง จนพวกมันกลับมาพรากชีวิตพ่อของพัทธ์ไปอีกคน…มาวันนี้ มือสังหารถูกจับแล้ว แต่ผู้บงการยังคงลอยนวลอยู่ ด้วยไม่มีใครยอมเปิดปากพูดถึงผู้จ้างวานเลยสักคน จนทำให้พัทธ์ต้องมานอนซมอยู่ในโรงพยาบาลเพราะถูกลอบยิง แต่ก็ได้พี่สาวที่อายุห่างกันกว่า 10 ปีคอยดูแลมาตลอด ความจริง เมย์ก็ผ่านเรื่องเลวร้ายมาไม่น้อยเหมือนกัน แม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก หลังจากนั้น 2-3 ปี พ่อก็แต่งงานใหม่กับผู้หญิงอีกคน ซึ่งก็คือแม่ของพัทธ์กับนนท์

                        ตอนนี้เมย์เรียนจบ ได้เป็นหมอสมความตั้งใจแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อลบรอยแผลเป็นที่ยังคงติดค้างอยู่ภายในจิตใจของน้องทั้งสอง โดยเฉพาะพัทธ์ ภาพที่แม่ล้มลงตายจมกองเลือดยังฝังใจยากที่จะลืมเลือน

                        พัทธ์อาจจะไม่เคยแสดงความทุกข์ออกมาให้ใครเห็น แต่เมย์ก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บช้ำที่มีจากแววตาคู่นั้น…ฝนเองก็เช่นกัน ทุกครั้งที่เธอมองลึกลงไปในดวงตาของพัทธ์ เธอรู้สึกได้ว่า มีความปวดร้าวอย่างมากมายซ่อนอยู่ภายใน

                        ตัวฝนเองเป็นอาจารย์ ศึกษาจิตวิทยาเด็กมาดีพอ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพัทธ์ต้องการความรักความเข้าใจจากเธอและอาจารย์คนอื่นๆ แค่ไหน สิ่งเหล่านี้พัทธ์ไม่เคยพูดออกมาหรอก แต่ทุกคนจะสัมผัสได้ด้วยตัวของตัวเอง อาจจะดูว่าพัทธ์ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ที่ใครๆก็มองว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า หากในเบื้องลึกของจิตใจ เขาเจ็บปวดมาก มาก…เกินกว่าที่เขาจะสามารถแสดงออกให้ใครรับรู้ได้

…

                        วันนี้ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างพาดหัวเรื่องการถูกจับกุมของนักธุรกิจระดับผู้บริหารคนหนึ่ง ในข้อหาเป็นผู้จ้างวานและบงการฆ่าพ่อแม่ของพัทธ์ รวมทั้งเป็นคนวางแผนลอบยิงพัทธ์ด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเพียง 3 วันหลังจากที่พัทธ์ออกจากโรงพยาบาล ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดก็ถูกจับกุมพร้อมกับมือปืนคนใหม่ที่ฝีมือยังไม่เข้าขั้น (คิดดูเอาเหอะ ยิงซะหมดแม็กเลยแต่ถูกแค่ 3…น่าเกลียด) ไต่สวนแล้วได้ความว่าเป็นผลมาจากการขัดแย้งกันทางธุรกิจ ที่พ่อของพัทธ์ทำให้บริษัทของเขาชวดกำไรไปหลายร้อยล้าน ขาดทุนย่อยยับ เจ๊งบ๊งไม่มีชิ้นดี และตัวเขาเองเกือบต้องกลายเป็นบุคคลล้มละลาย นับแต่นั้นเขาก็จองเวรจองกรรมกับตระกูล ‘เศรษฐิโอสถ’ ของพัทธ์มาโดยตลอด

…

                        พัทธ์มาโรงเรียนแล้ว หลังจากนอนพักฟื้นทั้งที่บ้านและที่โรงพยาบาลไปร่วม 2 สัปดาห์ ต่อไปนี้เขาไม่ต้องคอยกังวลอีกแล้วว่าเมื่อไรพวกมันจะมาเอาชีวิตพัทธ์ นนท์ หรือเมย์อีก เพราะตอนนี้ ผลแห่งการกระทำก็ได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์

…

                         การกลับมาของพัทธ์ สร้างความยินดีให้กับเหล่าเพื่อนฝูงเป็นอย่างมาก รวมทั้งความโล่งอกโล่งใจของบรรดาอาจารย์ก็มากมายไม่แพ้กัน จิตใจของพัทธ์ตอนนี้กำลังจะกลับคืนสู่สภาพเดิม เฉกเช่นเมื่อหลายปีก่อน รอยแผลต่างๆ ถูกรักษาจนเกือบหายดี ความทรงจำที่เลวร้ายค่อยๆ เลือนหายไปจากความคิด ในที่สุด ความเป็นคนของพัทธ์ก็ใกล้จะสมบูรณ์อีกครั้ง แต่มีอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องเดียวเท่านั้นที่ยังคงติดค้างอยู่ในใจของเด็กชาย…

                      พัทธ์ตื่นขึ้นในเช้าวันนี้ด้วยความสดชื่น ในใจเปี่ยมล้นไปด้วยความหวังอันแรงกล้า หลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมาแล้ว เขาดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากเด็กที่เงียบขรึม ไม่ค่อยพูดค่อยจากับใคร พัทธ์กลับกลายมาเป็นเด็กร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เกือบตลอดเวลา แววตาคู่นั้นที่ดูเศร้าหมอง เฉยเมย และเย็นชา กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง…ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเริ่มต้นใหม่ เพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งเดิมๆ ที่เขาจะมองมันอย่างสวยงามกว่าที่เคย

…

                      วันคืนผ่านไปร่วม 2 เดือน ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกจนได้ แต่คราวนี้พวกมันไม่ได้ฆ่าใคร…

                      เมื่อคืนนี้มีผู้ไม่ประสงค์ดีมาเยี่ยมเยียนบ้านของพัทธ์ เป้าหมายของพวกมันคือเมย์ พวกมันพยายามข่มขืนเธอแต่ไม่สำเร็จ เพราะชาวบ้านแถบนั้นเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากล จึงพากันบุกเข้ามาช่วยเหลือ คนร้ายที่ว่าจึงอาศัยจังหวะชุลมุนหลบหนีไปได้…

…

                      วันรุ่งขึ้น พัทธ์นำเรื่องทั้งหมดนี้ไปเล่าให้เพื่อนในกลุ่ม 2-3 คนฟัง พร้อมกับกำชับไม่ให้บอกใครเป็นอันขาด ทุกคนรับปาก แต่หารู้ไม่ว่าใครบางคนแอบฟังอยู่ห่างๆ ใครบางคนที่ไม่กินเส้นกับพัทธ์เท่าใดนัก และมีแผนจะทำเรื่องนี้ให้เป็นข่าวลือ…ลือว่าพัทธ์มีพี่สาวที่ถูกข่มขืน!

…

                      2-3 วันให้หลัง พัทธ์เริ่มได้ยินคำพูดแปลกๆ จากปากเพื่อนบางคน ประเภท “รู้เรื่องพัทธ์รึยัง” “พัทธ์นี่โชคร้ายจังเลยนะ” “พัทธ์เอ๊ย! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่รู้จบ”…สร้างความพิศวงให้กับพัทธ์ยิ่งนัก ซึ่งเขาก็ได้แต่รอฟังต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

…

                      การรอคอยของพัทธ์ดูเหมือนจะได้ผล หลายวันต่อมาข่าวลือยิ่งหนาหูขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังไม่กล้าสรุปอยู่ดีว่าพวกนั้นพูดถึงเขาเรื่องอะไร เพราะความไว้ใจเพื่อน บวกกับไม่อยากผิดใจกับใครตอนนี้ แต่แล้วคำพูดประโยคหนึ่งก็ลอยมากระทบโสตประสาท “ก็พี่สาวมันถูกข่มขืนน่ะซี” คำพูดประโยคนี้เอง ที่ทำให้พัทธ์เข้าใจทุกอย่าง แล้วขีดความอดทนของเขาก็หมดลง พัทธ์เดินไปหาเพื่อนคนนั้นทันที พร้อมกับตะคอกใส่อย่างรุนแรงว่า “ใครปล่อยข่าว! ใคร!” “ม…ไม่รู้ ได้ยินมา” เพื่อนพูดปากคอสั่น “งั้นเราจ้างนาย 3 มื้อ ไปหามาให้ได้ว่าใครปล่อยข่าว!” เขาพูดก่อนเดินจากไป ข้าว 3 มื้อสำหรับพัทธ์ไม่ทำให้ฐานะทางบ้านสั่นสะเทือน แล้วเขาก็ไม่อยากจัดการเรื่องนี้เอง กลัวว่าจะพลั้งมือทำร้ายใครเข้า

…

                      วันรุ่งขึ้น ป๋อง เพื่อนคนที่พัทธ์จ้างให้ไปหาตัวผู้ปล่อยข่าวเดินเข้ามาหาพัทธ์ที่โต๊ะ กระซิบอะไรกัน 2-3 คำพร้อมกับชี้ไปยังนักเรียนหญิงคนหนึ่ง “ช่วยเรียกมาคุยกันให้รู้เรื่องหน่อย” พัทธ์บอกเพื่อน “ระวังหน่อยนะ อย่า ลืมว่าลูกอาจารย์” ป๋องทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเดินไปเรียกเพื่อนคนนั้น

                      “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง” พัทธ์ตั้งคำถาม สีหน้าเรียบเฉย จับอารมณ์ไม่ได้เช่นเดียวกับน้ำเสียง “แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันเป็นคนปล่อยข่าว” เธอถามกลับ “เราไม่ยอมให้ใครเอาเรื่องในครอบครัวเราไปนินทาเกิน 2 อาทิตย์หรอก” “คงให้ใครไปสืบหาสิท่า บอกก็ได้ ฉันได้ยินพวกนายคุยกัน” “แล้วทำไมต้องปล่อยข่าวไปแบบนี้ด้วยล่ะ ก็รู้อยู่ว่ามันไม่จริง ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย” พัทธ์เริ่มเสียงดัง แต่ตอนนั้นเป็นช่วงพักกลางวัน ไม่มีใครอยู่ในห้อง อาจารย์ก็อยู่ที่ห้องพัก จึงไม่มีใครได้ยิน “แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง ข่าวมันก็แพร่ออกไปแล้ว” “ไปแก้ข่าวซะ แค่นี้มันก็จบ” พัทธ์ลดเสียงลงพยายามควบคุมอารมณ์ “ไปแก้ข่าวตอนนี้ใครเขาจะเชื่อ” “ถ้าเขาไม่เชื่อ เธอก็ปิดประกาศไว้หน้าห้องทุกห้องเลยสิ ว่าข่าวที่ออกไปน่ะมันไม่จริง เธอกุมันขึ้นมาเอง สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นไปวันๆ เธอพอใจที่ได้เห็นคนอื่นเสียหาย เดี๋ยวเขาก็เชื่อเธอเองแหละ!” พัทธ์ตะโกนใส่หน้าเธออย่างเหลืออด แล้วก็เดินลงจากตึกไป

                      หลังจากนั้น พัทธ์ก็รู้สึกว่าข่าวซาลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เงียบหายไปเสียทีเดียว ถึงอย่างไร ตอนนี้คำพูดแปลกๆ เหล่านั้นก็แทบจะไม่มีมาให้เขาได้ยิน เพียงเท่านี้เขาก็พอใจ

…

                      สำหรับฝน ก็ได้ยินข่าวลือที่ว่านี้มาบ้างเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่ามันจริงหรือเท็จแค่ไหน ด้วยไม่อยากถามให้น้องลำบากใจประการหนึ่ง และไม่มีเวลาติดต่อกับเมย์อีกประการหนึ่ง

                      ฝนเก็บมันเป็นคำถามไว้ร่วมสัปดาห์ แต่ด้วยความสงสัยข้องใจ เธอจึงตัดสินใจถามพัทธ์ในเย็นวันหนึ่ง

                      “ช่วง 2-3 อาทิตย์มาเนี่ย พี่ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับพี่สาวเราบ่อยมากเลย พัทธ์รู้เรื่องรึเปล่า” “รู้สิครับ เขาลือกันออกขนาดนั้น” “มันจริงรึเปล่า” “จริงบ้างครับ ไม่ทั้งหมด”…แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับฝน

                      “พี่อย่าเล่าให้ใครฟังนะครับ” พัทธ์บอกกับฝนในตอนท้าย เขาไม่อยากให้ใครเอาครอบครัวเขาไปนินทาอีก

…

                      เวลาผ่านไปอีก 3 เดือน ตอนนี้เมย์แต่งงานแล้วกับผู้ชายชื่อพงศ์ ซึ่งคบอยู่กับเมย์มานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่เมย์ยังเป็นนักศึกษา แต่ทั้งพัทธ์และนนท์ไม่ชอบหน้าเขาเท่าไร เพราะตั้งแต่พงศ์เข้ามามีบทบาทในครอบครัว พัทธ์ก็เห็นความผิดปกติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ พัทธ์เคยให้คนรถขับรถตามไป แล้วก็ได้เห็นความจริงหลายอย่าง โดยเฉพาะความจริงที่ว่า เขาไม่ได้มีพี่สาวของตนเพียงคนเดียว

                      ก่อนแต่งงาน พัทธ์กับน้องชายช่วยกันคัดค้านทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเมย์ได้ จึงต้องปล่อยเลยตามเลย จนกว่าความจริงจะพิสูจน์ตัวมันเอง

…

                      เช้าวันนี้ไม่สดใสเหมือนเช่นทุกวัน สำหรับพัทธ์ ท้องฟ้าดูมืดครึ้มไปถนัดตา…วันนี้ พัทธ์คิดว่าจะไม่ไปโรงเรียน เพราะเขามีเรื่องไม่สบายใจมาก

                      เมื่อคืน เมย์กับพงศ์มานอนที่บ้านน้องชายตามสัญญา แล้วเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น…พวกมันกลับมาอีกแล้ว มากัน 4 คนเช่นเดิม

                      มันผ่านห้องของพัทธ์กับนนท์ไปโดยที่ไม่สนใจเลยว่าเด็กทั้งสองจะเข้าไปช่วยพี่สาว พวกมันมุ่งความสนใจไปยังเมย์ผู้เดียว ในที่สุดก็มาถึงห้องของพงศ์กับเมย์…และแล้ว พวกมันทั้ง 4 คน…

                      พงศ์ช่วยอะไรเมย์ไม่ได้เลย เขาได้แต่หาทางเอาตัวรอดฝ่ายเดียว…น่าเห็นใจเมย์ บัดนี้เธอคงรู้แล้วว่าพงศ์ไม่ใช่ผู้ชายที่เข้มแข็ง และมีคุณสมบัติพอจะเป็นสามีที่ดีได้ เขาไม่สามารถปกป้องเธอ เขาทำได้อย่างดีที่สุดก็แค่หนีไป

…

                      หลังจากเกิดเรื่อง ชายหญิงทั้งสองไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย เมย์ลาออกจากงาน พัทธ์ทุ่มเทให้กับการเรียนกว่าเดิมมากเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน

                      ตอนนี้ ทุกชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆ อย่างที่ควรจะเป็น แม้บางสิ่งจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่ความผูกพันที่ทุกคนมีให้กันยังคงเดิม สัตว์นรกทั้งสี่ถูกจับแล้ว พร้อมกับคนรับใช้ที่บ้านของพัทธ์อีกคนที่เป็นสายให้พวกมัน วางยาในนมที่พัทธ์กับนนท์ดื่มก่อนนอนจนหลับไม่รู้เรื่อง ปั๊มกุญแจบ้านให้พวกมันอีกชุดจนได้เรื่อง…ทั้งหมดได้รับโทษตามความผิดที่ก่อไว้

หมดสิ้นไปแล้วกับสิ่งเดียวที่ยังติดค้างอยู่ในใจของพัทธ์ พงศ์เป็นผู้ชายอย่างที่เขาคิดจริงๆ…

”แล้วเขาก็ทำให้พี่เมย์เสียใจ…” พัทธ์เปรยขึ้นกับฝนในเย็นวันที่เงียบเหงาวันหนึ่ง…

…จบบริบูรณ์…

ธารนที

You are Poet 2543

Good Luck
| Home | การแต่งร้อยแก้ว | การแต่งร้อยกรอง | วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ | วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999

poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com

1