เชิญแสดงความคิดเห็นในผลงาน |
|
ของคุณ "นรพัลลภ ประณุทนรพาล" |
|
นรพัลลภ
ประณุทนรพาล |
บทสวดพร่ำ
7 "เพื่อไทย เพื่อโลก" "ป่าไม้ คู่ลำธาร ดินหบายกร้าน คู่โลกา มากมาย หมู่ธัญญา เคียงคู่ข้อง พ้องพืชพันธุ์ พวกมัน ต่างอาศัย กำลังใจ สมานฉันท์ ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน สร้างสวรรค์ ให้แก่เรา เรานี้ คือมนุษย์ มัวยื้อยุด อยู่ใยเล่า ช่วยมัน คือช่วยเรา สร้างสวรรค์ ด้วยกันเทอญ" .., ก่อความผูกพันกันมาตั้งแต่...โบราณ จนลูกจนหลานยังคงได้เจอ...พบพาน สิ่งเหล่านี้...คือขวัญ คือกำลังดวงใจ... คือพลังสร้างสรรค์ให้โลกอยู่ต่อไป... รับรู้ตำนาน...ร่วมประสาน ความคิดใหม่ หากมีใครท้อ ก็ให้กำลังใจ .., อยากถามว่าประเทศไทย...เป็นของใคร ประเทศไทย...เป็นของใคร ...ประเทศไทย เป็นของเราทุกคน... อยากถามว่าประเทศไทย...เป็นของใคร ...เป็นของเราทุกคน... ต่างคนต่างคิด ร่วมจิตสำนึกรำลึกบุญคุณ ...ร่วมจิตสำนึกรำลึกบุญคุณ... .., ขอเชิญชวน มาร่วมกัน ร่วมสร้างสรรค์ รวมใจเป็นหนึ่ง โยงหัวใจ ใยแน่นตรึง ไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง คือทั้งโลก คือทุกคน จุดหลุดพ้นพบความสว่าง เราคนไทย จะร่วมทาง จุดเปลวเทียนส่องแสงนำทาง ...เพื่อไทย......เพื่อโลก... นรพัลลภ |
สุภาษิตสอนหญิง
: เพียง "คำ" . .. ... คำใด ก็มีความหมาย... คำมากมาย ที่มีคุณค่า คำ "รัก" ยิ่งใหญ่เท่าฟ้า... คำ "ร้างลา" กว้างกว่าผืนทราย ... เพียง "คำ" แค่ "คำ" เท่านั้น... ...แต่ใจก็สั่น จวนเจียนสลาย ใจเอ๋ย...มิวางวาย เมื่อใดหนอ จะอดทน... ... คำ "รัก" หรือ "ร้างลา" ให้สลาย กับสายฝน... ...เชี่ยวซ้ำ เป็นน้ำวน แล้วเริ่มใหม่...กับใจเดียว ... .. . นรพัลลภ ประณุทนรพาล |
บทสวดพร่ำ 6
"คนโง่สุดท้าย" อุตส่าห์มีใจจะทำเพื่อเธอ นรพัลลภ ประณุทนรพาล |
บทสวดพร่ำ
5 "กฎและเกณฑ์" 1. เกิดมาเป็นคน... มันก็มีปัญหา เกิดมาเป็นคน... มันต้องมีปัญหา ...อยู่ที่ใด... ...อยู่อย่างไร... 2. จะอยู่ที่ใด...ไม่มีทางหลีกพ้น จะอยู่อย่างคน...หรืออยู่อย่างหมา มันจะมีบางสิ่งที่คอยขัดขวาง... คอยเรียกหา... คอยบังตา... ...เพื่อให้คนนั้นนั้น มีปัญหา 3. "ให้เขาสู้ต่อไป... จนกว่าละคร... จบลงเมื่อวันที่เขาสิ้นใจ... ...จบลงเมื่อวันที่เขาถอดใจ" 4. เมื่อเกิดเป็นคน...มันต้องมีความหวัง เกิดมาเป็นคน...มันก็มีความฝัน มันเป็นเพียงความต่างแห่งชนชั้น... ที่คนนั้น... คอยกำหนด... ...กฎและเกณฑ์ให้ฝันมีต่างกัน 5. 5. ...ความฝันของคนรวย... ...ความฝันของคนจน... คงจะสดสวย ก็อาจสุขล้น อยู่บนฐาน บนรากแห่งเงินตรา อยู่ตรงที่มีการประมาณตน ...แต่หากฝันมากไป ก็มีปัญหา ประมาณว่าตนเป็นใคร จากไหน... นรพัลลภ ประณุทนรพาล |
อ่านเอย
อ่านไป........อ่านอะไรที่ได้อ่าน ขีดเขียน เขียนเป็นงาน........เขียนเป็นกาพย์ เขียนเป็นกลอน ร้อยกรอง ร้อยแก้ว.........ร้อยจินต ร้อยอักษร ร้อยเรื่อง ร้อยละคร.........ร้อยระเริง เชิงกวี นรพัลลภ ประณุทนรพาล |
เล่าขานมานานนม.....ตุลาคมฤาอาถรรพ์ ศาสตราที่ฆ่าฟัน.....ที่ฆ่ากันมันคือใคร คือดาบหรือคือปืน.....ที่ยืนกราดด้วยบาตรใหญ่ ที่แท้ไม่ใช่ใคร.....ไทยเท่านั้น ฆ่ากันเอง นรพัลลภ ประณุทนรพาล |
บทสวดพร่ำ
4 "ชาติพันธุ์แห่งนกกระจอก" ร้องรำพัน กับความเศร้าจาบัลย์ เมื่อวันนั้น ล่วงเลย ผ่านพ้นมา... คิดแต่เพียงเสียใจ เหลือเพียงความทรงจำ... ... ...ย้ำให้คอยรำลึก นึกถึง ความคิดครั้งนั้น เรื่องราวเลวร้าย ก่อไว้มากมาย เกินกว่าจะให้อภัย... กว่าจะให้ใครใคร... ยอม...รับ ... ...ณ วันหนึ่ง มีนกตัวหนึ่ง เกิดขึ้นมาตามพันธุ์...ชื่อ "กระจอก" ครั้งยังเด็ก ตัวเล็กเล็ก จ่อยจ่อย ได้แต่ร้องระงมงอแง...รอแม่กำลังกลับมา ...รอพ่อกำลังกลับมา อาหาร...จากดวงใจที่แม่คอยเอาใจใส่ และพ่อที่คอยห่วงใย ถนอม...ฝึกและคอยสั่งสอน อยู่อย่างนกที่ดีต่อไป...เมื่อโต เจ้าจงคอยรำลึก นึกถึง ว่าเรา...เป็นใคร เรื่องราวเผ่าพันธุ์ สืบสานเนิ่นนาน เจ้าอย่าได้หลงลำพอง ...อย่าทำให้ใครมองไม่ดี ... ...ถึงวันหนึ่ง เจ้านกกระจอก เติบโตมาเต็มตัวเป็นนกหนุ่ม ขาและปีกแข็งแกร่ง... ...พร้อมมีแรงพลัง ... ณ วันหนึ่งได้เห็น...บนฟ้า...มีนกบินสูง แล้วโฉบลงมา...จับปลาง่ายดาย ปลาติดกรงเล็บขึ้นไป แปลก...ทำได้ยังไงกัน..หนอ ... เริ่มฝึกปีก ฝึกบินสูง ฝึกโฉบ ฝึกพลังภายใน...จนกล้าแกร่ง ...หนอนอ่อนอ่อน แมลงเล็กอ่อนอ่อน หมดความหมายลงพลัน จึงคิดจะบินจับปลา...ดังภาพที่ยังติดตา ... บินสูง...ไต่เพดานไปด้วยความทะยานอยาก ไม่คิดไม่กลัวอะไร... บนนั้น...เจอะกับนกมากมาย แต่ไม่มีพวกพันธุ์ ไม่มีซักตัว... ...ร่อนผงาดไปมา...บนฟ้า...กระพือปีกงาม บินดิ่ง...สู่น้ำ โฉบปลาแม่นยำ ไม่ผิด ไม่พลาดซักตัว และ...ก็ถึงเวลาที่คอย...แล้ว ... ใจพร้อม... ดิ่งทะยานลิ่วลง พับปีกเก็บไว้ งอขา... เหยียดจนเป็นเส้นตรง ลงสู่จุดหมาย ...ดังฟ้าผ่า ตกกระทบน้ำทะเล... แหลกลงในพริบตา น้ำกับฟ้าหายไป... ... ไม่รู้สึกใดใด ไม่ร้อน... ไม่หนาว... ไม่รู้... บินอยู่...ลำพัง ปีกงาม...สีทอง นวลผ่อง เมื่อต้องตะวัน ...จิต...ที่ไร้วิญญาน...ล่องลอย นร พัลลภ |
นมัสการธรรมชาติ : ณ
วันหนึ่ง ... ยืนอยู่บนหน้าผา มองลงมา น้ำทะเลสีเขียว บนฟ้า มีนกตัวเดียว คือ "เหยี่ยว" ตัวใหญ่น่ากลัว ยืนมองดูเหยี่ยวจ้องถลา กรงเล็บจับปลาตรงหัว แต่มองไม่ค่อยเห็นตัว แสงสลัว เพราะคือยามเย็น ... ครั้นพอเวลาหนึ่ง ดวงจันทร์สวยซึ้งลอยเด่น เมฆหมกปกคลุม ลมเย็น คลื่นซัดกระเซ็นรุนแรง ... ไม่มีแม้เหยี่ยว หรือนก ไม่มีนรก สวรรค์แสร้ง ไม่มีเรื่องหวาดระแวง มีเพียงแค่ แสง...ลางลาง ... ยอดผายามราตรีนี้ มีเพียงแต่ ความอ้างว้าง มีเพื่อนคือ เพลงลมคราง และลมบางบางห่มนอน ... .. . และเมื่อเวลาผ่านไป แสงรุ่ง รดใจให้ทอดถอน จำมุ่งหน้าสู่นาคร เมืองแห่งความร้าวรอน ชิงชัง นร พัลลภ |
บทสวดพร่ำ
3 "คิดถึง" คิดถึง...ใจจะขาดแล้วเอย รู้มั้ย...ใครคือคนคนนั้น ฉันเอง...คือคน...คอยรำพัน ฝัน...ให้เธอ...กลับมา .., รักนั้น...เป็นดั่งความยิ่งใหญ่ รัก...เหลือเกินดั่งดวงแก้วตา ถนอม...ดูแล...แต่เธอตลอดมา กาลเวลา...น่าจะเข้าใจ .., แต่ทำไม...ให้เธอ...จากฉัน เหมือน...ดังจะไม่เข้าใจ อย่าปลอบโยน...อย่ามาแกล้งเอาใจ ไม่เป็นไร... ...ยังไม่เป็นไร .., หากแม้น...กาลเวลาไม่ช่วย แต่ด้วย...ความอดทน...เชื่อใจ รู้ดีว่าเธอ...คง...ไม่มีใคร นาน...เพียงใด...ก็ตาม .., และฉัน...คงจะคอยถึงวัน วันนั้น...วันที่ฟ้างดงาม วันนั้น...ทะเล...จะเป็นสีคราม ไม่...เปลี่ยนแปร...อีกเลย นร พัลลภ |
บทสวดพร่ำ
1 "มนุษยสัตว์" ...มีฟ้า มีน้ำ มีดิน มีหิน มีทราย มีกรวด มีเรื่องราวเจ็บปวด รวดร้าว...มากมาย ...มีคนใจหิน มีคนใจดี ปะปนกันไป พอให้อดทน โอ้เจ้านกเอย...ขันเพลง โอ้เจ้าหมีเอย...อย่าร้องไห้ โอ้เจ้าเก้งกวางเอย...น้อยใหญ่ หมู่ข้าจะคอยปลอบใจ .., โดนฆ่า โดนขัง โดนกิน โดนฝัง โดนพลัด โดนพราก คนหนอคนบั่นบาก ไปลากมาจากป่าไกลลึก ...มาคอยขึ้นเขียง มาไว้ในกรง เฝ้าคอยเวลา รอท่าประหาร โอ้เจ้านกเอย...ทอดกรอบ โอ้เจ้าหมีเอย...ยำอุ้งตีน โอ้เจ้าเก้งกวางเอย...สารพัดผัด มันไม่มีจะกิน จึงกินสัตว์เหล่านี้หรือ มันไม่มีจะกิน จึงกินสัตว์เหล่านี้หรือ เพราะอะไร... ...เพราะอะไร มันไม่ใช่อะไร...มันก็เป็นเพราะคนเรา คนเรานี้ มันไม่ใช่อะไร...มันก็เป็นเพราะคนเรา คนเรานี้แหละ มันไม่ใช่อะไร...มันก็เป็นเพราะคนเรา คนเรานี้แหละหนา... นร พัลลภ |
บทสวดพร่ำ
2 "คนบ้าธรรมดา" เช้าวันหนึ่ง ตื่นขึ้นมา เห็นชรา ... เดินตากฝนพรำ สองมือก็ร่ายรำ... หันไปมาอยู่ตามเส้นทาง ฉันงง ... คิดไปว่า คงจะเป็นคนบ้าธรรมดา ก็แก เดินไปมา, คงเป็นบ้าแน่นอน ฉันเกิด อยากจะถาม ความเป็นมา เหตุใดถึงทำ "เพราะคนสุดใจดำ มองคนเราไม่เคยเท่ากัน มันเซ็ง ... ที่เป็นคน จึงมาเดินอยู่กลางฝนพรำ ให้ฝนเป็นตัวนำ ... ชำระความโสมม ในจิตใจ, ไม่อยากเป็นคน... ไม่อยากเป็นคน อีกต่อไป ไม่อยากรับรู้... ไม่อยากจะดู ว่าต่อไป คน ... คนไหนจะยิ่งใหญ่ คนใดจะล้มตาย... อย่าง ... ไม่มีคนแล" ฝนตกไม่สิ้นสาย ฉันยืนฟังอยู่อย่างตั้งใจ ขาก้าวย่างออกไป คู่เคียงกันกับชายชรา... เลื่อนลอยและร่ายรำ เดินไปมาอยู่ตามเส้นทาง ใครเห็นคงคิดว่า ตัวฉัน , ชายชรา ...คงเป็นบ้าแน่นอน นร พัลลภ |
"บทกล่อมขวัญ ปัณณธร" โถ...คนดี มาตรงนี้ พี่จะกล่อม ไล้โลมเนื้อหอม ทะนุถนอม ด้วยอุ่นไอ โถ...เจ้าปัณ ตาคู่นั้น ช่างหวั่นไหว ยามเจ้าค้อน...พี่อ่อนใจ ดั่งเทียนไข ต้องไฟลน แต่แปลกนัก ใยความรัก เจ้าสับสน เจ้าอ่อนไหว...ในบัดดล เมื่อฝน...หล่นมาโดนใจ หลับตาเถิดเจ้า พี่จะเฝ้ายามให้ เมื่อฝนซา คราใด พี่จะปลุก ให้ลุกยืน หลับตาและฝัน เมื่อมั่นใจ ให้เจ้าตื่น "ทุบ" ความหลังให้พังครืน แล้วฟื้นใจ...ใหม่...อีกที นร พัลลภ |
เคลิ้มใจ
1 : ฝันดี เมื่อคืนนอนฝันดี มีที่รักหนุนตักอุ่น รวยรินกลิ่นละมุน ผิวนุ่มนวล ชวนหลงใหล จุมพิตตรงแก้มสาว ร้อนผะผ่าว เร้าฤทัย กอดแนบแอบทรวงไว้ ในอ้อมแขน แทนฟากฟ้า... เคลิ้มใจ 2 : ฝันร้าย เมื่อคืนนอนฝันร้าย ตื่นขึ้นมาไม่พบเจ้า หายไปไม่ทิ้งเงา แต่ทิ้งรัก ให้ขุ่นใจ ก่อนนอนยังพรอดพร่ำ รักทุกคำ ยังจำได้ ใจเอ๋ย...เพราะเหตุไร ใจจึงช้ำ ซ้ำซ้ำกาล นร พัลลภ |
นมัสการธรรมชาติ : ทิวา ราตรี ยอดไม้ไหว ใบไม้ปลิว พริ้วลมลู่ สกุณาร้องหาคู่กลับสู่บ้าน บรรยากาศเยือกเย็นหนาวเข้าระราน เป็นสัญญาน ผ่านทิวา สู่ราตรี ไร้เสียงร้องก้องกลางป่า ทิวาสิ้น แต่ได้ยินเสียงพิณใสไม้เสียดสี ลมพัดแว่วแผ่วแผ่วเบาเคล้ากันดี ไผ่ป่าสีซอสวรรค์ ร่วมบรรเลง ........................................ .......................................... ......................................... .......................................... ดาราเดือนเริ่มเลือนลางห่างท้องฟ้า ดอกไม้ป่าพาสุขสันต์เริ่มบานเบ่ง ลมพาพัด ยอดไม้ไหวไม่หวั่นเกรง ใบไม้แก่ปลิวโครงเครง ไปตามกาล ไก่ฟ้าขัน เป็นทำนองก้องทั้งป่า สกุณา ขันกู่ก้อง ร้องประสาน ท้องฟ้าเห็นเป็นสีครามงามตระการ เป็นสัญญาน ผ่านราตรี สู่ทิวา นร พัลลภ
|
สุภาษิตสอนหญิง ชุด :
"ฤาหลงสิเหน่หา" รักเจ้า เจ้าบ่รู้ เจ้าบ่ดู เจ้าบ่เห็น ร้อนเร่า เจ้าบ่เย็น เจ้าบ่ผ่อน เจ้าบ่คลาย เจ้าหลับทั้งเจ้าตื่น เจ้ายังฝืนหาความหมาย เจ้าฝัน บ่วางวาย เจ้าหน่ายดื้อ คือความจริง เจ้าควรจะครวญคร่ำ จิตกระทำลำพังหญิง รักเร่า เจ้ารักยิ่ง สิ่งใดหรือ คือปลายทาง นร พัลลภ
|
ชุด :
อย่ามองโลกในแง่ร้าย
ไม่มองโลกในแง่ดี "นร พัลลภ" icq 39352563/norapallop@hotmail.com "อย่ามองโลกในแง่ร้ายเกิน...เพราะความมืดมิดจะทำให้คุณมองไม่เห็น ไม่มองโลกในแง่ดีเกิน...เพราะแสงสว่างจัดจ้าก็ทำให้คุณมองไม่เห็น...เช่นกัน" "อย่าปล่อยให้ใครคิดว่าคุณเป็น...เทวดา เพราะนั่นหมายถึงคุณไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งจะทำอะไรผิดพลาดไม่ได้เลย" "มีเหตุผลเพียงประการเดียวเท่านั้นที่คุณแพ้ คือคุณ ยัง ไม่ชนะ" "ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเป็น...อมตะ ความล้มเหลวของคุณก็เช่นกัน" |
กาพย์แก้ว 20 : เพื่อนักเดินทาง ข้าพเจ้า : นรพัลลภ ประณุทนรพาล หนักแน่น หนักแน่น หนักแน่น เหนื่อยนัก หนักหนา กร้าวแกร่ง แข็งแรง ดั่งศิลา ภูผา ฝ่าฟัน ฟ้าโห่ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ฟ้าแลบ แสบสันต์ ฟ้าล่ม แสงจาง ทางตัน จะฟัน ฝ่าไป " ... กาพย์แก้ว ๒๐ " |
บทกลอนสะท้อนความช้ำชื่อ : ท่าพระจันทร์ ในโอกาส : คิดถึง "ท่าพระจันทร์" ข้าพเจ้า : นรพัลลภ ประณุทนรพาล norapallop@hotmail.com ICQ 39352563 มาถึงท่าพระจันทร์ก็พลันค่ำ ระลอกน้ำ คลื่นซัด สะบัดไหว เรือข้ามฟากคอยท่าหน้าบันได จูงมือน้อง ประคองไปได้ทันกาล แสงของจันทร์พลันเกี้ยวเกลียวของคลื่น ใจของข้าเต้นครืนครืนคลื่นขนาน พอเรือโครง ใจก็เครง ทรมาน เพราะใกล้น้องนานนาน มันอ่อนแรง ร้านเจ้ากรรมจำได้ "นายชะโงก" เหมือนหยุดโลกเอาไว้ ไม่ให้แกว่ง ความรู้สึกดื่มด่ำ เริ่มสำแดง ไม่มีแรง ไม่มีใจ ไปไหนเลย จับมือน้อง บางครั้งพี่นั่งสั่น หอมทีนั้น ต้องข่มใจให้นิ่งเฉย สะกดจิตแทบตายเพราะไม่เคย มันตื่นเต้นเกินจะเอ่ยให้เจ้าฟัง พอสามทุ่ม กลุ้มโว้ย โกยแน่บแล้ว ก็น้องแก้วนัดใครไว้ข้างหลัง ไม่อยากรู้ ไม่ต้องบอก ไม่อยากฟัง ใจคลุ้มคลั่ง ข้ามกลับมา ท่าพระจันทร์ |
บทกลอนสะท้อนความช้ำ ชื่อ : คนใจด๊ำดำ ในโอกาส : ปลอบใจตัวเอง ข้าพเจ้า : นรพัลลภ ประณุทนรพาล / norapallop@hotmail.com & icq 39352563 นึกแล้ว กูว่าแล้ว ว่าไม่แคล้วจะต้องเศร้า มาหลอกมาลวงเรา ให้รักเจ้าจนจับใจ เนิ่นนานก็ผ่านพ้น คนหนอคน ทำกันได้ ไร้เยื่อไม่เหลือใย คนอะไร ใจด๊ำดำ บอกเราว่าชอบเรา ไม่บอกเปล่ายังเฝ้าย้ำ ไอ้เราก็หลงคำ จำนรรจา พญามาร ทุ่มเททะเลใจ WANT อะไรให้ขับขาน สู้ตายถวายพาน บันดาลให้ เอาไปเลย เหลือเชื่อ เหลือจะเชื่อ พอเจ้าเบื่อก็ทำเฉย ไม่เค๊ย บอกไม่เคย จะรักแรงจนแต่งงาน ซ้ำร้ายมาหายหน้า ไม่โทร.มา ไม่สงสาร ผ่านไปตั้งหลายนาน จึงโทร.กลับ เรื่องจับใจ "หนูท้องสองเดือนกว่า ที่ผ่านมาไม่ไปไหน ปั้นน้ำเป็นเด็กไทย ได้คนช่วย รวยจริงจริง" สุดร้าวเศร้าสลด น้ำรันทดหยดติ๋งติ๋ง หยุดกายไม่ไหวติง นั่งนิ่งนิ่งหนึ่งนาที ท้องหรือ เจ้าท้องหรือ จื้อท้องเหรา เจ้าท้องหรี ทื้อหรอง จ้องทื้อรี จี้ทื้อแรง แจ้งทื้อราน ลิ้นหลวมจึงพูดร่วน มันต่วนต่วนมันซาบซ่าน กระบี่พิฆาตมาร อยู่ในฝัก ชักทันใด เช้ง เช้ง ชัดชัดช่า ใจบ้าบ้าเตรียมตัวไว้ ต้องตัดให้ขาดไป ต่อแต่นี้...ไม่มีเธอ (เอย) |
บทกลอนก่อนจุติ ชื่อ : "ลูกรักเจ้าดิ้นตลอดเวลา รู้ไหมว่าแม่เมื่อยเหนื่อยเหลือเกิน" ในโอกาส : กาละแมคลอดลูกสาว ข้าพเจ้า : นรพัลลภ ประณุทนรพาล / คลองเตย กรุงเทพฯ Thailand
ลูกรัก...
แม่มิพักแย่หรือเจ้าดื้อแพ่ง
...รู้ไหมว่า แม่เมื่อย เหนื่อยเหลือเกิน |
" อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความรักความเอ็นดูอันมากมาย... ขอแสดงความยินดีกับคุณพ่อคุณแม่คนใหม่ทุกคนด้วยจ้ะ " |
7smooth.com |
| Home
| การแต่งร้อยแก้ว
| การแต่งร้อยกรอง
| วิธีการร่วมสนุก | About Us | Top |
Weekly Poems | วันจันทร์ | วันอังคาร | วันพุธ | วันพฤหัสบดี | วันศุกร์ | วันเสาร์ |
วันอาทิตย์ |
| นวนิยาย | บทละคร | เรื่องสั้น | บทความ | เรื่องที่อยากเล่า | นิทาน | ตำนาน-ชาดก | แนะนำหนังสือ | สาระ-เกร็ดความรู้ |
7Smooth.com Group
Copy Right 1999
poet2543@hotmail.com | poet2543@7smooth.com