|
ปรารถนาแห่งหัวใจ
ตอน 3 เทวดาหรือซาตาน
หลังจากนั้นไม่นาน บ้านชูชัยเจริญก็มีแขกแสนสวยมาหา
"แอนดริว แอนเดอสัน" นายแบบหนุ่มลูกครึ่งผู้โด่งดัง เมื่อพบตัวจริงครั้งแรกภพธรก็อึ้งไปเหมือนกัน
นายแบบหนุ่มตัวไม่สูงมากนักถ้าเทียบกับนายแบบทั่วๆไป ประมาณร้อยเจ็ดสิบได้
ใบหน้านวลรูปไข่ผมสีน้ำตาลแดงซอยระไหล่กับดวงตาสีเขียวใส จมูกโด่งรับกับปากรูปกระจับสีชมพู
คางเหลี่ยมเล็กน้อย ยิ่งเมื่อตอนยิ้มสามารถเห็นลักยิ้มข้างแก้มได้ชัดเจน
ถึงแม้จะเคยเห็นจากรูปแล้วก็เถอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า นายแบบหนุ่มคนนี้หน้าตาสวยจริงๆ
"นี่คุณอาผมครับ" ฉัตรแนะนำภพธรให้แอนดริวได้รู้จัก
แอนดริวยิ้มหวานให้พร้อมกับจับมือภพธร
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ...."
ภาษาไทยชัดเปรียะดังออกมาจากปากนายแบบหนุ่ม ภพธรยิ้มตอบ
"คือผมกับแอนดริวคิดว่าจะใช้ที่บ้านเป็นสตูดิโอนะครับ
เพราะแอนดริวไม่ชอบสตูดิโอที่แกลอรี่" ฉัตรธรรมบอกภพธร
"คือผมคิดว่าที่แกลอรี่บางทีเสียงดังหนวกหูเพราะว่าติดถนนใหญ่
ผมเองอยากจะพักผ่อนกับบรรยากาศสบายๆ ก็เลยขออนุญาตคุณฉัตรให้วาดที่บ้านแทน
หวังว่าคงไม่รบกวนคุณภพธรมากนะครับ" แอนดริวอธิบาย
"เอ่อ แล้วแอน....เอ๊ย เจ้าตัวเล็กไปไหนแล้วล่ะพี่"
ฉัตรถามหาแอนดริวอีกคน เพราะชื่อซ้ำกันฉัตรเลยเรียกเจ้าตัวเล็กแทน
"รู้สึกว่าจะออกไปเล่นแถวนี้แหละมั้ง"
ภพธรเงียบไป "พี่ไม่ว่าอะไรหรอกนะ ถ้าจะมาใช้ห้องที่บ้าน แต่ว่าจะใช้กี่วันล่ะถึงจะเสร็จ
คุณเป็นนายแบบชื่อดังคงจะไม่มาเสียเวลาตรงนี้หรอกใช่ไหม" ภพธรถามตรงๆ
"ก็คงไม่นานหรอกครับ แล้วช่วงนี้ผมเองก็ไม่มีงานเท่าไหร่ด้วย
" แอนดริวตอบสั้นๆ
"อะไร แอนดริวออกจะดัง เป็นไปได้ไงว่าไม่มีงาน"
คราวนี้คงงงกลายเป็นฉัตรบ้าง
"ที่บอกไม่มีงานนี่หมายถึงผมไม่รับงานต่างหากล่ะครับ"
ร่างบางตอบยิ้มๆ สบตาฉัตรตรงๆ
"เอ้า พอเถอะ จะยืนคุยกันอีกนานไหม
เข้าบ้านไปนั่งกินน้ำกินท่าก่อนก็แล้วกัน" ภพธรพูดขัดขึ้นมา
ขืนปล่อยให้ยืนคุยหน้าบ้านคนเดินผ่านไปผ่านมาจำหน้าแอนดริวได้จะกลายเป็นจุดเด่นไปซะเปล่า
หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเรา
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป ผมไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนไปทางที่ดีขึ้นหรือเปล่า
ความปรารถนาของพี่ฉัตรได้เป็นจริง แอนดริวมาที่บ้านเกือบทุกวัน ทั้งสองคนไปขลุกกันอยู่ในห้องทำงานของพี่ฉัตร
จากรูปที่วาดรูปเดียว ตอนนี้ในห้องของพี่ฉัตรมีแต่รูปของแอนดริว
ไม่ว่าภาพสเก็ซหรือว่าภาพสีน้ำมัน ผมว่าเกือบร้อยรูปได้แล้วมั้ง
ส่วนคนที่เคยมาเป็นประจำกลับหายไป นั่นก็คือพี่ฟ้า ผมเองต้องเป็นฝ่ายไปหาพี่ฟ้าแทน
โดยส่วนตัวผม ผมเกลียดแอนดริวครับ ผมเกลียดแอนดริวมากก่อนที่จะได้เจอตัวจริงเสียอีก
ทำไมหรือครับ ก็ชื่อผมนะสิ พี่ฉัตรตั้งให้เพียงเพราะว่าผมมีตาสีเขียวเหมือนแอนดริว!!!!
ผมเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างของแอนดริว แม้แต่ชื่อผมเอง สำหรับผมแอนดริวคือซาตานที่มาพรากความรักของทุกคนไปจากผม
พี่ฉัตรที่ผมรัก หรือแม้แต่พี่ฟ้าที่มาหาผมประจำก็ห่างหายไป อาจจะเหลือแต่พี่ภพที่ยังคงเหมือนเดิม
แต่พี่ภพก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ผมอยู่แล้วเพราะเอาแต่อยู่ในห้องทดลอง
"แน่ล่ะ ในเมื่อฉัตรพบแอนดริวตัวจริงของเขาแล้วนี่
แอนดริวตัวปลอมจะมีความหมายอะไร" ฟ้าเคยพูดกับพี่ภพวันหนึ่ง
ผมเองแอบได้ยินเข้า แน่นอนแอนดริวตัวปลอมคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผมแน่
"เอาน่าฟ้า พี่เองก็ไม่เคยรังเกียจเธอ
ตอนนี้ฉัตรเองมันอาจจะหลงกับความฝันของมันไป สักวันหนึ่งมันก็ต้องพบกับความจริง"
พี่ภพพยายามปลอบใจ
"พี่ พี่ทราบความรู้สึกของฟ้าใช่ไหมค่ะ"
ฟ้าพูดพร้อมน้ำตา ภพธรลูบหัวฟ้าเบาๆ
ที่จริงคนที่ดูไม่ออกว่าฟ้าหลงรักฉัตรนั้นคงจะมีแค่เจ้าตัวฉัตรคนเดียวเท่านั้นล่ะมั้ง
ผมเองเด็กแค่แปดขวบยังดูออกเลยว่าพี่ฟ้าชอบพี่ฉัตร แต่ที่จริงจะว่าฉัตรดูไม่ออกก็ไม่ใช่
ภพธรคิดว่าฉัตรไม่ยอมรับเองต่างหาก ฉัตรพยายามให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟ้า
หยุดอยู่ตรงคำว่า "เพื่อน" มากกว่า อาจจะเพราะความรู้สึกที่ว่า
ฟ้าทำงานที่บาร์ การศึกษาก็ไม่สูง เขาพอดูออกว่าฟ้าหลงรักฉัตรมานาน
ถ้าตั้งแต่เรียนมัธยมปลายมาด้วยกันล่ะก็ นับจนถึงตอนนี้ก็เกือบสิบปีแล้ว
ความรักสิบปีของฟ้ายังมั่นคงไม่เปลี่ยน ถ้าให้เลือกระหว่างแอนดริวนายแบบชื่อดังกับฟ้าสาวบาร์ล่ะก็
ภพธรเองของเลือกฟ้าสาวบาร์มาให้ฉัตรมากกว่า แต่ภพธรไม่ใช่ฉัตรธรรม......
"ผมกับฟ้ารู้จักกันมาเกือบสิบปี แต่กับแอนดริวที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานผมก็รู้สึกเหมือนว่าผมกับเขารู้จักกันนานนับปีเหมือนกันนะครับ"
ฉัตรเปรยๆขึ้นมาขณะทานอาหารเย็น ซึ่งความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกเดียวกับภพธร
แอนดริวเหมือนรู้จักทุกคนในบ้าน ทุกครั้งที่มาเขาต้องมีของฝากติดไม้ติดมือมาเสมอ
ซึ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของชอบของทั้งสองคน หรือบางทีก็เป็นของชอบของแอนดริวตัวเล็กด้วย
แต่เจ้าตัวเล็กไม่ยอมกินเท่านั้นเอง
"ผมว่าแอนดริวเป็นเทวดาของพวกเราเลยนะครับ
ผมรู้สึกว่าทุกอย่างดูดีขึ้นหลังจากแอนดริวเข้ามา แม้แต่งานของพี่ภพ
ผมได้ข่าวว่าพี่เสนองานผ่านไม่ใช่เหรอครับ" ฉัตรถามภพธร
คนถูกถามยิ้มหน้าบาน "แน่นอน....หลังจากความพยายามนับครั้งไม่ถ้วน
ในที่สุดพี่ก็เสนองานผ่านแล้ว อีกไม่นานพี่จะได้รับทุนวิจัยงานที่ทำอยู่
ทางบริษัทที่พี่เสนอจะหาทีมงานมาให้ด้วย"
"บริษัทที่พี่ภพไปเสนอนี่ได้ข่าวว่าเป็นบริษัทเพิ่งเปิดได้ไม่นานเองไม่ใช่หรือครับ...เขาจะมีทุนวิจัยให้พี่มากมายเลยเหรอ"
ฉัตรงง บริษัทที่ภพธรบอกชื่อมาเขาแทบจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย
ไม่น่าเชื่อว่าจะสนับสนุนงานประดิษฐ์แปลกของภพธร ที่ภพธรเสนองานไม่ผ่านทุกครั้งก็ด้วยเหตุผลเดิมว่า
ไม่มีสมมุติฐานบ้างล่ะ เพ้อฝันบ้างล่ะ หรือไม่ก็ มีความเป็นไปได้ยากและเสี่ยงต่อการไม่สำเร็จ
แต่ภพธรก็ยังไม่ยอมแพ้ ทำต่อเรื่อยมา
"ทำไมจะไม่มี ได้ข่าวว่าเจ้าของบริษัทเป็นเศรษฐีใจป้ำ
แกชอบงานวิจัยของพี่ และก็คิดว่าถ้าสำเร็จจะทำกำไรมหาศาลอีกด้วย
แล้วแถมแกเอาเงินฝากธนาคารไว้ให้พี่ใช้เป็นทุนแล้ว เพียงแต่ว่ามีคนคอยควบคุมเท่านั้น
จะใช้เงินทำอะไรจะเบิกอะไรก็แค่รายงาน" ภพธรพูดอย่างภูมิใจ
"โห รู้สึกว่าจะใจป้ำเกินไปแล้วนะพี่
แปลกๆไปรึเปล่า"
"ช่างมันเถอะ ยังไงก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่
คนรวยมีเงินเอาไว้หว่านอยู่แล้ว" ภพธรพูดไม่ใส่ใจ
"แต่งานวิจัยพี่ผมว่ามันก็แปลกๆอยู่เหมือนกันนา
เรื่องความเร็วเหนือแสงนั่นแหละ พร้อมอนุภาคเตคีออนอะไรของพี่ก็ไม่รู้
วุ่นวานไปหมด"
"แกไม่ต้องยุ่งนา คนเรียนศิลป์ก็เรียนไป
คนเรียนวิทย์อย่างชั้นจะทำอะไรก็เรื่องของชั้นน่า" ภพธรบ่นพร้อมหัวเราะ
"เห็นไหมล่ะ ผมบอกแล้วว่าแอนดริวเป็นเทวดาจริงๆ..."
|
|
|