|
คู่รสตำรับรัก
ตอนที่ 1
โครม!..เสียงเดินสะดุดโต๊ะพร้อมกับเสียงบ่นที่ดังตามมา
"อะไรเนี่ย ทำไมมันวางเกะกะอย่างนี้ฟะ
.เมื่อวานมันยังไม่ยื่นออกมาอย่างนี้นี่นา"
พูดไม่พูดเปล่าแถมยังเตะโต๊ะเจ้ากรรมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยอีกโครมใหญ่
ทำให้ผมรู้ว่าคนตรงหน้าตอนนี้อารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก
"ไม่ต้องระบายอารมณ์กับโต๊ะมันหรอกน่า
โต๊ะมันอยู่ที่เดิมแหละ
พ่อ" ผมพูดพร้อมกับถอนหายใจ
"เจ้าพงค์ศ์
ศ์" เสียงของพ่ออ่อนลงทันทีเมื่อเห็นหน้าผม
ที่จริงก็น่าจะเป็นอย่างนั้นหรอกนะครับ
เพราะผมกับพ่อน่ะ จะพบหน้ากันก็ประมาณเดือนละสองครั้งเท่านั้นเอง
บางครั้งผมขี้เกียจหรือติดเรียนก็จะไม่มาพบพ่ออีกด้วย เหตุผลน่ะหรือครับ
ก็เพราะเราอยู่กันคนละบ้านไงครับ
"ผมทำกับข้าวไว้อยู่บนโต๊ะแน่ะ พ่อกินอะไรมารึยัง"
ผมเดินไปที่โต๊ะ เตรียมตัวจะตักข้าว
"อือ..กินสิ พ่อหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว"
ผมแอบขำกับสำนวนตลกๆของพ่อ ที่จริงพ่อก็เป็นคนอารมณ์ดีอยู่เสมอ
เสียแต่ว่าเป็นคนบ้างานไปหน่อย ที่อารมณ์ไม่ดีนี่ก็สงสัยมีปัญหาเรื่องงานอีกนั่นแหละ
"มีปัญหาเรื่องงานเหรอพ่อ"
"จะว่าเรื่องงานก็ไม่เชิงหรอกนะ"
พ่อพูดพร้อมกับถอนหายใจ
ตอนนั้นเราทั้งคู่เงียบกันไปพักใหญ่
"กินต้มข่าไก่ไหมพ่อ ใส่หัวปลีด้วยนะ
เดี๋ยวผมตักให้อีกชาม"
ที่จริงผมค่อนข้างมั่นใจในการทำกับข้าวของผมมาก
ขอรับรองว่าพวกเชลล์ชวนชิมยังอายนะครับ เพราะของผมสูตรดั้งเดิมมาตั้งแต่ในวัง
ที่ผมกล้ารับประกันอย่างนี้ก็เพราะคนสอนนั่นแหละเขารับรองมา คุณยายผมแกบอกนักบอกหนาว่าฝีมือของแกในวังของแท้
หากินยาก แล้วแกก็เคี่ยวเข็นให้ผมเรียนทำกับข้าวกับปลากับแกมาตั้งแต่ยังเด็กๆโน่น
จนตอนนี้ผมคิดว่าจะสู้คุณหมึกแดงได้แล้ว อีกหน่อยผมก็อาจจะดังถึงขนาดไปเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาจนมีสโลแกนว่า
"อร่อยเหมือนมีพร้อมพงศ์มาทำให้คุณกิน" ก็ได้นะครับ
ผมตักต้มข่าไก่ที่มั่นใจหนักหนาส่งไปให้พ่อ
พ่อจ้องหน้าผมอยู่พักหนึ่งเหมือนนึกอะไรออก
"พงศ์มาอยู่กับพ่อไหม" พ่อพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำเอาผมแทบจะสำลักพ่นของกินออกมา
"พูดอะไรน่ะพ่อ ผมอยู่กับยายพ่อก็รู้นี่"
"เอ่อ..ไม่ใช่ พ่อหมายถึงช่วงเดือนหน้านี่
แค่เดือนเดียวเอง ช่วยพ่อหน่อยน่า" พ่อพูดพร้อมกับทำหน้ากังวล
แล้วใครล่ะครับจะใจดำกับพ่อตัวเองได้ "แล้วพ่อจะส่งส้มแป้นไปทำความสะอาดบ้านคุณยายให้"
คุณพ่อพูดถึงแม่บ้านที่มาทำความสะอาดที่บ้านเป็นประจำ
"แล้วพ่อมีปัญหาอะไรหรือครับ ถึงให้ผมมาอยู่ด้วย"
"จำคุณชัยชนะเพื่อนพ่อได้ไหมละ"
พ่อจ้องหน้าผม
"อ๋อ
ลุงคนที่แต่ก่อนมาบ่อยๆใช่ไหมครับ
คนที่ผมหยิกๆ" ผมพูดพร้อมกับนึกภาพลุงชัยชนะที่ชอบมาที่บ้านตอนผมยังเล็กๆอยู่
"เฮ้อ
ก็นั่นแหละ เจ้าชัยชนะมันไปทำงานต่างประเทศตั้งนานแล้ว
เมื่อวานมันโทรมาหาพ่อ บอกว่าจะขอฝากเจ้าลูกชายมันไว้ที่บ้านของเราหน่อยสักสามสี่อาทิตย์
ลูกมันอยากมาเที่ยวเมืองไทย พ่อก็ไม่อยากปฏิเสธมัน ที่บ้านเราก็มีห้องว่าง
เสียอย่างเดียวไม่มีคนดูแลลูกมัน ช่วงนั้นแกปิดเทอมใช่ไหมล่ะ ช่วยพ่อหน่อยแล้วกัน"
พ่อพูดพร้อมกับทำสีหน้ายินดี
"ลูกคุณลุงชัยงั้นเหรอ" ผมพยายามนึกแต่นึกไม่ออก
"กี่ขวบแล้วละครับ"
"สิบเจ็ดแล้ว ไปอยู่นู่นตั้งแต่ห้าขวบ
ตอนเด็กๆก็เคยไปเที่ยวบ้านคุณยายกับแกด้วยจำได้ไหมล่ะ"
แล้วผมก็นึกออก เจ้าเด็กตัวเล็กที่เอาแต่เลือกกิน
จนคุณยายเคยว่าว่า เลือกกินอย่างงี้เลี้ยงเท่าไหร่ก็ไม่โต ไม่ต้องกินไปเลยดีกว่า
ผักก็ไม่กิน อาหารทะเลก็ไม่กิน กินแต่ไอ้ของไม่มีประโยชน์ เฟ้นฟง
เฟรนฟรายด์ อะไรก็ไม่รู้ อายุตั้งสี่ขวบแล้ว หนักแค่สิบห้าโล เป็นเด็กแคระแล้วนั่น
ผมนึกยิ้มๆ
"แกต้องไปรับเขาที่สนามบินด้วยนะ
.."
พ่อบอกผม "ดีจริงๆที่แกรับปาก พ่อจะได้ทำงานเต็มที่หน่อย มัวกังวลอยู่ว่าใครจะดูแลลูกมัน"
ในที่สุดพ่อก็วกกลับไปเรื่องงานจนได้ ผมถอนหายใจ
ที่จริงปีนี้พ่อผมก็จะอายุห้าสิบห้าแล้ว
เป็นผู้ชายที่ดูดีทีเดียว รูปร่างดีไม่อ้วนเกินไป ดูเผินๆจะนึกว่าอายุประมาณสี่สิบต้นๆ
พ่อเป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง
ตอนนี้ก็มีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์แล้วด้วย พ่อเป็นคนยิ้มเก่ง พูดจาติดตลกนิดๆ
นิสิตสาวๆติดกันเกรียว โทรมาปรึกษาเรื่องเรียนที่บ้านประจำ ที่จริงผมก็ไม่แน่ใจหรอกนะครับว่าเป็นเรื่องเรียนหรือเปล่า
เพราะพ่อผมก็เป็นพ่อม่ายเรือพ่วงเนื้อหอมซะด้วย เดินไปซื้อกับข้าวหน้าปากซอยแม่ค้ายังชอบแถมโน่นนิดนี่หน่อยมาให้เรื่อย
"นี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วนี่ งั้นไว้ผมกลับไปหายายพรุ่งนี้แล้วจะเตรียมเสื้อผ้ามาเลยนะครับ"
ผมบอกพ่อ "น่าสงสารส้มแป้นเหมือนกันนะถ้าไปทำความสะอาดบ้านยายจริงๆ
สงสัยฟังยายบ่นหูชาแน่ๆ น้าส้มแป้นยิ่งทำอะไรไม่ค่อยเรียบร้อยอยู่"
ผมยังจำได้ตอนผมไปเข้าค่ายกับเพื่อนที่มหาลัยตอนปีหนึ่ง ส้มแป้นต้องไปทำความสะอาดบ้านคุณยายแทน
คุณยายต่อว่าส้มแป้นใหญ่ว่าซักผ้าไม่สะอาด รีดผ้าไม่เรียบ ถูบ้านไม่หมดจด
ทำกับข้าวกินไม่ได้ น้าส้มแป้นพอกลับบ้านมาร้องไห้บ่นให้คุณพ่อฟังจนคุณพ่อหูชาไปเลย
"ที่จริงเจ้าชัยมันติดต่อมายังงี้ก็ดีเหมือนกัน
พ่อก็เคยมีแผนการว่าถ้าแกจบมหาลัยเมื่อไหร่จะส่งแกไปเรียนต่างประเทศกับเขาบ้าง
ยังไงจะได้ฝากไอ้ชัยมันได้ด้วย ไว้เดี๋ยวพ่อจะคุยกับมันอีกที"
พ่อพูดพร้อมกับตักต้มข่าไก่ช้อนสุดท้ายเข้าปาก
"แกทำอาหารเก่งอย่างงี้ก็ดี อยู่ที่นู่นจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องอาหารการกิน"
"โหพ่อ วางแผนการตั้งแต่ตอนนี้เลยเรอะ
ผมน่ะอีกเทอมนึงถึงจะจบนะ" ผมพูดยิ้มๆ ดีใจเหมือนกันถ้าได้ไปต่างประเทศจริงๆ
ห่วงก็แต่ยายนั่นแหละ ถ้าอยู่คนเดียวจะเป็นยังไง
"พ่อมันเป็นคนเจ้าแผนการโว้ย คิดไว้แยะๆแหละดี
สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ดีกว่าอยู่เฉยๆ"
"แล้วลูกของลุงชัยเค้าจะมาวันไหนละ
..จะได้เตรียมตัว"
ผมถามพ่อ
"เอ
เดี๋ยวนึกก่อนนะ" พ่อก้มลงไปหยิบสมุดบันทึกในกระเป๋าเสื้อออกมาดู
"อ๋อ มาเที่ยวบิน TG 888 น่ะ รู้สึกว่าจะถึงดอนเมืองตอนห้าทุ่ม
วันอาทิตย์หน้า"
|
|
|
|