|
คู่รสตำรับรัก
ตอนที่ 7
"เอ่อ พี่ไม่ได้ตั้งใจนะเก่ง"
ผมพยายามพูดปลอบ พลางยื่นมือไปฉุดเก่งขึ้นมา เขาสะอื้นฮักๆ ผมไม่ค่อยได้เห็นผู้ชายร้องไห้เท่าไหร่
แล้วยิ่งเก่งก็ตัวโตสูงพอๆกับผม ถึงแม้จะอายุน้อยกว่าตั้งเกือบสี่ปีก็เถอะ
ก็รู้สึกแปลกๆที่ต้องมาปลอบคนที่ตัวเท่ากัน
หลังจากจับมือผม เก่งก็ถือโอกาสเข้ามากอด
ซบหน้ากับอก ครั้งนี้ผมไม่กล้าผลักเก่งออกผมเอามือลูบผมเก่งเบาๆเป็นเชิงปลอบ
ผมเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องอย่างทำอะไรไม่ถูก โดยไม่เห็นว่าเก่งแอบสบตากับบิลลี่ยิ้มอย่างผู้ชนะ
หลังจากนั้นเก่งก็เกาะติดผมแจ ผมเองก็ไม่รู้จะทำยังไง
หลังจากผมทำเก่งร้องไห้ในครั้งนั้นผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ พูดถึงเรื่องรักร่วมเพศ
จริงๆผมเองก็ทำใจไม่ได้เท่าไหร่ ผมค่อนข้างจะเป็นคนหัวเก่าพอสมควร
(มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะยายผมเข้มงวดจะตาย) แล้วยิ่งเกือบจะถูกฝรั่งโรคจิตข่มขืนเข้าไปอีกทำให้ผมค่อนข้างจะมีอคติเต็มที่
แต่ผมก็ไม่ได้รังเกียจเก่งกับบิลลี่เท่าไหร่นัก เพราะอย่างน้อยเขาก็ช่วยชีวิตผมไว้แล้วก็เป็นคนรู้จักกันมาก่อน
พอผมกลับถึงบ้านก็ไม่รู้จะพูดกับพ่อยังไงดี
อย่างน้อยพ่อก็ต้องรู้เรื่องข่าวนั้นพอสมควร เพราะว่าพ่อเป็นนักอ่านตัวยง
อย่างหนังสือพิมพ์รับตั้งสองสามฉบับ แถมยังเป็นฉบับที่มีแต่ข่าวหนักๆทั้งนั้น
จะหาพวกหนังสือพิมพ์ข่าวตีหัวหมาด่าแม่เจ๊กหรือว่าหานิยายน้ำเน่าอ่านเป็นไม่มี
"กลับมาแล้วเหรอพงศ์ บิลลี่กับเก่งป็นไงบ้าง"
พ่อถามผมอย่างเป็นห่วง รีบลุกเข้ามาถาม เพราะในข่าวจะเน้นไปทางบิลลี่มากกว่าคนเสียหายจริงๆอย่างผมมาก
"ซาบายดีค้าบ คุณลุง ม่ายเป็นอาไรเลย"
บิลลี่ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง
"เฮ้อ งั้นก็ดีแล้ว ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาไม่รู้จะไปพูดกับเจ้าชัยมันยังไง"
พ่อถอนหายใจพร้อมกับหันไปมองเก่ง "แล้วนี่อยากจะไปเที่ยวไหนกันอีกหรือเปล่า
พ่อว่าไปแต่ในกรุงเทพฯหรือว่าแถวๆนอกเมืองก็พอ ไม่ต้องค้างแล้ว มันอันตราย
เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวใช่ไหม"
"ครับ ผมจองตั๋วเที่ยวกลับไปวันเสาร์หน้าช่วงสามทุ่มครับ"
เก่งตอบอย่างเรียบร้อย เขาเกือบจะลืมไปแล้วว่าโรงเรียนจะเปิดเทอมเมื่อไหร่
เขาเองก็เป็นเด็กเตรียมเข้ามหาลัยเหมือนกัน ยิ่งต้องสอบ "Aเลเวล"
สุดแสนยากอยู่ด้วย ถ้าได้คะแนนดีๆเขาถึงจะเข้ามหาลัยดีๆได้ เก่งมองหน้าผมตาละห้อย
แต่ฝ่ายผมเองนั้นเรียกได้ว่าเหมือนยกภูเขาออกจากอก อยากจะร้องไชโยดังๆ
แต่ก็เกรงใจเก่งกับบิลลี่อยู่
คืนนั้นผมเข้าไปนอนในห้องของพ่ออย่างสบายใจ
"นี่เก่ง สามวันนี้พี่ไม่ว่างนะ พี่ต้องไปคุยเรื่องทำ
tesis กับเพื่อนที่มหาลัยนะ เก่งอยู่บ้านกับบิลลี่ได้หรือเปล่า"
ผมถามเก่ง เพราะผมเป็นนักเรียนปีสุดท้ายของมหาลัยแล้ว ถึงแม้จะมีเรียนไม่ค่อยเยอะ
แต่ว่างานขอจบนี่ค่อนข้างโหดเหมือนกัน เพื่อนผมติดไอไปก็หลายคนแล้ว
"อ้าว....ผมต้องอยู่กับบิลลี่ไม่ได้ไปไหนเลยหรือครับ"
เก่งทำหน้าม่อย ฝ่ายบิลลี่ก็พูดแทรกมาว่า
"ม่ายเห็นเป็นไรเลย ราวสองคนไปเที่ยวกันเองก้อได้นี่ซันนี่
พูดทายก็ได้ ไม่เห็นมีปัญหาอาไรเลย ถือแผนที่ไปแผ่นนึงด้วย"
บิลลี่ออกความเห็น
แต่ด้วยความเป็นห่วง ผมก็ไม่อยากให้บิลลี่กับเก่งไปกันสองคนเท่าไหร่
"เอ่อ...ถ้าอยากออกไปข้างนอกล่ะก็
เดี๋ยวพี่เอารถไปมหาลัยด้วย เก่งกับบิลลี่ติดรถพี่ไปลงที่มหาลัย
แล้วไปเดินเที่ยวแถวนั้นก่อนไหม แถวนั้นมีห้างสรรพสินค้าแยะนะ ไว้ช่วงเย็นก็ค่อยมาหาพี่ที่มหาลัย
จะได้กลับบ้านด้วยกัน"
"ยังงั้นก็ได้ครับ"
เก่งกับบิลลี่จึงติดรถผมไปมหาลัยด้วย พอไปถึงเพื่อนผมที่มาก่อนแล้วก็อดตะโดนถามไม่ได้
"อ้าว เจ้าพงศ์ นี่หิ้วฝรั่งที่ไหนมาด้วยเหรอ"
เจ้าเพื่อนตัวแสบตะโกนถามเพราะคิดว่าบิลลี่ไม่เข้าใจ
"ลูกของคนรู้จักนะ พามาเที่ยวด้วย"
พงศ์ตอบ พร้อมกับเพื่อนๆหลายคนก็เข้ามารุมล้อม
"ซาหวัดดีคร้าบ ผมชื่อบิลลี่คร้าบ
แล้วนี่ก็ซันนี่เพื่อนผม" บิลลี่รายงานตัวอย่างสนิทสนม พร้อมทั้งแนะนำเก่งไปด้วย
"อุ๊ยตาย พูดภาษาไทยได้ด้วย เก่งจังนะบิลลี่"
เพื่อนสาวของผมเย้าอย่างอารมณ์ดี บิลลี่กลายเป็นขวัญใจของเพื่อนหญิงทันที
ด้วยเพราะหน้าตาเข้าขั้นดาราฮอลีวู๊ดอยู่แล้ว ข้างฝ่ายเก่งก็นั่งเงียบไม่ค่อยพูดอะไร
ปล่อยให้บิลลี่โชว์ออฟไปคนเดียวตามนิสัย
"นี่ ไหนว่าจะไปเดินห้างกันไง ไปได้แล้วนะ
บิลลี่" เก่งอดรนทนไม่ได้พูดขึ้นมา เขาขี้เกียจมานั่งรอบิลลี่คุยโม้
ยังกะรายการสาระแนโชว์
"นี่ เก่งกับบิลลี่ถ้าจะไปกันแล้ว
ตอนเย็นมาหาพี่ที่นี่ตอนหกโมงนะ อย่าลืมล่ะ"ผมบอกบิลลี่
"ค้าบ คุณพงศ์ที่นี่ตอนหกโมงนาค้าบ"
พูดจบบิลลี่ก็เดินไปหาเก่ง
"ไม่น่าเชื่อเลยนะจ้ะ ว่าพงศ์จะมีเพื่อนเป็นฝรั่งสุดหล่ออย่างนั้นด้วย
พูดไทยคล่องเชียว" เพื่อนสาวของผมคนหนึ่งที่ท่าทางจะประทับใจบิลลี่เอามากๆพูดออกมา
"จริงๆคนที่รู้จักนะอีกคนต่างหาก
ลูกชายเพื่อนพ่อ ส่วนบิลลี่นั่นเพื่อนเขา" ผมแจกแจงให้ฟัง แต่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น
"จริงๆเด็กคนนั้นก็น่ารักนะ ชื่อเก่งใช่ไหม"
"อือ..." ผมตอบแบบตัดบทพร้อมกับหันไปทำงานของผมต่อ
"นี่ เดี๋ยวเสาร์นี้เราก็จากลับกันแล้วนา....ซันนี่"
บิลลี่พูดขณะกำลังเลือกซื้อซีดีเกมอยู่
"อือ ทำไมหรือบิลลี่" เก่งถามขึ้นมา
ตอนนี้เขาสองคนกำลังเดินอยู่ในห้างแถวสยามสแควร์ บิลลี่ท่าทางจะชอบไปซะทุกอย่าง
เขาจับโน่นจับนู่นแล้วก็ซื้อ จนหิ้วพะรุงพะรังไปหมด
"ก็ถ้ากลับแล้วก้อคงม่ายได้เจอคุณพงศ์อีกนาซี"
บิลลี่พูดเศร้าๆ "เหลืออีกแค่สองวันเอง" ที่จริงบิลลี่เองก็ชอบพร้อมพงศ์มากเหมือนกัน
แต่เขาเองก็ไม่อยากกลายเป็นศัตรูกับเก่ง เขาแค่อยากจะแกล้งเก่งที่ไม่ยอมเผยความในใจออกมาสักทีจึงมาทำตัวตีสนิทกับพร้อมพงศ์เป็นพิเศษ
แต่ถ้าเก่งไม่เริ่มเขาก็จะเป็นฝ่ายรุกซะเอง
"กลับปายก็ต้องไปเจอกับเจ้าแพทอีก"
บิลลี่พูดเซ็งๆ
"ช่างหัวมันสิ" เก่งพูดเคืองๆ
"ไม่ต้องพูดถึงมันเลย"
แพท หรือ แพทริกก็คือเพื่อนชายคนหนึ่งของเก่งกับบิลลี่
แพทริกตามตื้อเก่งให้มาเป็นแฟนจนกระทั่งเก่งทนไม่ไหวปิดเทอมขอพ่อมาเมืองไทยพร้อมกับให้บิลลี่มาด้วยเป็นตัวกันชน
แต่ความจริงเก่งเองก็อยากมาพบกับพร้อมพงศ์อยู่แล้ว เก่งเคยเล่าเรื่องตอนเป็นเด็กให้บิลลี่ฟังหลายครั้ง
จนบิลลี่เองก็เหมือนกับรู้จักกับพงศ์มานาน
"ถ้าเปนช้านนะ ช้านจะเอาคุณพงศ์มาเปนของช้านก่อนเลย"
บิลลี่พูดโพล่งออกมา เก่งแทบจะสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่
"ห๋า....นายว่าไงนะ บิลลี่"
ผมพูดไม่เชื่อหูตัวเอง
((ก็ชั้นพูดอย่างที่ชั้นคิดนั่นแหละ เจ้าแพทมันก็คิดกับแกอย่างงั้นไม่ใช่เรอะ
ตั้งหลายครั้งที่มันพยายามจะทำมิดีมิร้ายกับแกน่ะ)) บิลลี่หันมาพูดภาษาอังกฤษกับเก่งแทน
((......แต่ว่าพี่พงศ์จะยอม....)) เก่งพูดอึกอัก
((ยอมไม่ยอมนี่มันอีกเรื่องหนึ่ง.....แต่ว่าแกจะตัดใจง่ายๆเหรอว่ะ
ถ้าพี่พงศ์เขาไม่ยอม)) บิลลี่พูดจี้ใจดำ แน่นอนเก่งไม่ยอมตัดใจง่ายๆอยู่แล้ว
ต้องถึงที่สุดจริงๆนั่นแหละเขาถึงจะตัดใจได้ เขาเงียบไปไม่ตอบคำบิลลี่
"นี่หนุ่มๆไปเที่ยวผับแถวนี้กับพี่ไหมจ้ะ"
เพื่อนสาวของพงศ์พูดชวนเก่งกับบิลลี่หลังจากทั้งสองกลับมาตามเวลานัด
"ไม่เอาน่าอนงค์ ชั้นไม่ไปข้างนอกนะคืนนี้
จะกลับบ้าน" พร้อมพงศ์พูดบอกปัด
"โธ่ เจ้าพงศ์ อาไร้ นานๆได้ออกมาอยู่กับพ่อทั้งที
กลับดึกก็ได้ ยังจะทำตัวเป็นเด็กอนามัยอยู่อีก" เพื่อนผมบ่นขึ้นมา
"น่า งานเสร็จทั้งทีเหลือแค่เตรียมส่งอาจารย์เท่านั้นเอง ถือเป็นการฉลองไปในตัวด้วย
จริงไหมน้อง" พูดเสร็จเพื่อนคนนั้นก็หันมาทางเก่งกับบิลลี่
"น่านซีค้าบ" บิลลี่พูดรับเป็นลูกคู่
"เดี๋ยววันเสาร์นี้ผมกับเก่งก็จากลับกันแล้ว ถือว่าเที่ยวเป็นค้างสุดท้ายก็ได้"
"แต่ว่าชั้นไม่อยากไปนี่นา"
พงศ์อ้ำๆอึ้งๆอยู่ เขาเองไม่ค่อยคุ้นกับการออกไปข้างนอกดึกๆอยู่แล้ว
แล้วออกไปก็คุย ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ จีบสาว เสียตังค์อีก
"แต่ผมอยากไปนะครับ" เก่งพูดขึ้นมา
แถมเจ้าเพื่อนตัวดีก็ดันสนับสนุนอีก "เอาน่า เห็นมั้ย น้องเค้าอยากไป
ถ้านายไม่อยากไปก็ทิ้งน้องเค้าไว้กับชั้นก็ได้ ไว้เดี๋ยวชั้นจะพาไปส่งที่บ้านแกเอง"
จริงๆเพื่อนผมมันก็ไว้ใจได้ แต่ว่าผมเองเกรงใจมันอยู่เหมือนกัน
ก็บ้านมันกับบ้านผมห่างกันคนละโยชน์ แถมมันเป็นพวกดื่มจัด สูบจัดซะอีก
ไม่ค่อยไว้ใจให้มันขับรถทางไกลตอนเมาๆหรอก เดี๋ยวเกิดเรื่องอะไรลงหนังสือพิมพ์อีก
พ่อได้อกแตกตายพอดี
"เออ ก็ได้ ชั้นไปด้วยก็ได้"
ผมตอบรับอย่างเสียไม่ได้
"เอาน่า รับรอบสนุก ให้ได้งี้สิโว้ย
ไอ้พงศ์" เพื่อนผมยิ้มอย่างยินดี
|
|
|