|
คู่รสตำรับรัก
ตอนที่ 6
น้าจรัลตกใจมากหลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่พวกผมช่วยกันแต่งขึ้นมา
ถึงกับไม่ยอมให้พวกผมออกไปเที่ยวกันตามลำพังสามคนเลย ถ้าจะออกไปไหนน้าจรัลจะต้องส่งพนักงานที่ร้านไม่คนใดก็คนหนึ่งตามไปด้วย
จนพวกผมรู้สึกเกรงใจ ในที่สุดก็เลยอยู่ช่วยงานที่ร้านน้าจรัลตลอดทั้งวัน
ส่วนผมก็อยู่ในห้องครัวตามเดิม แต่วันหลังๆดีหน่อยตรงที่น้าบุญถึงปล่อยให้ผมทำอาหารให้แขกกินได้บางอย่าง
แขกประจำบางคนถึงกับออกปากชมถามน้าจรัลว่าได้พ่อครัวฝีมือเอกมาจากไหน
ว้าก !!
เสียงตะโกนอย่างตกใจของผมหลังจากอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่โฆษณาว่าเจาะข่าวได้ลึกกว่าเจ้าไหนๆ
น้าจรัลเอามาให้ผมอ่านถึงบนห้อง
"เกิดอะไรขึ้นเหรอพี่พงศ์" บิลลี่กับเก่งเดินเข้ามาหาผม
ผมชี้นิ้วไปที่ข่าวเด่นหน้าหนึ่ง พร้อมกับอ่านหัวข้อข่าว
"ลูกชายนักธุรกิจใหญ่ ถูกสองฝรั่งวิปริตมอมยาหวังลักพาตัว"
พออ่านจบผมก็ไปอ่านตรงข่าวย่อยอีกที "เมื่อวันที่ xx เดือน
xx นายบิลลี่ แมกโดนัล ลูกชายนักธุรกิจใหญ่เข้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกฝรั่งวิปริตสองคนมอมยาหวังจะลักพาตัว
แต่ตนเองและเพื่อนๆที่ไปเที่ยวด้วยกันได้หลบหนีออกมาได้ ตำรวจได้
ติดตามร่องรอยของสองฝรั่งวิปริตแล้วว่าชื่อ นายสตีเวน บราวน์ กับ
นายหลุยส์ โอแรน เมื่อตำรวจค้นบ้านพักบนเกาะเสม็ดและรื้อค้นกระเป๋าเดินทางของทั้งสองคน
พบอุปกรณ์ที่ใช้กับพวกรักร่วมเพศหลายอย่างพร้อมยากระตุ้นและยามอมประสาทหลายเม็ด
ตำรวจสืบทราบอีกว่าฝรั่งทั้งสองคนได้เตรียมแผนการนี้มาก่อนเพราะได้เลื่อนเวลาเดินทางมาให้ตรงกับนายบิลลี่........"
ผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
"ฮะ ฮะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเรื่องมันจะเลยเถิดไปได้ขนาดนี้"
ตอนนี้ผมชักเริ่มสงสารหลุยส์กับสตีเวนซะแล้ว
"ในข่าวนี้มีตรงไหนที่เป็นเรื่องจริงบ้างเนี่ย....ตอนที่แจ้งตำรวจบอกไว้แค่ว่าจะขโมยเงิน
ไหงตอนนี้กลายเป็นลักพาตัวไปซะนี่...."
"ก็มีเรื่องจริงอยู่เรื่องนึงนะครับ"
เก่งพูดกับผมยิ้มๆ
"อ๋อ เรื่องที่สองคนนั่นเลื่อนวันเดินทางมาตรงกับพวกเราใช่ไหมล่ะ"
"เรื่องที่ว่าบิลลี่เป็นลูกชายนักธุรกิจใหญ่ต่างหากละครับ"
เก่งบอกผมด้วยสีหน้ายิ้มๆ หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมา
ตอนนี้เก่งกับบิลลี่หายโกรธกันแล้ว
"หา นายบิลลี่นี่นะ" ผมอุทานอย่างไม่น่าเชื่อ
"บ้านบิลลี่น่ะคฤหาสน์สุดหรูเลยนะครับ
ถูกเลี้ยงแบบคุณหนูมาตั้งแต่เล็กทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง พี่ดูก็คงรู้แล้ว"
"ครายทำอาไรไม่เป็นสักอย่าง อย่าส่ายร้ายกันอย่างนั้นสิ
ซันนี่" บิลลี่พูดงอนๆ
"เอ่อ..แล้วบิลลี่กับเก่งรู้จักกันได้ไงล่ะ"
ผมถามคำถามนี้ไปแต่ที่จริงแล้วผมอยากรู้มากกว่าว่าเก่งกับบิลลี่มีความสัมพันธ์กันแบบไหน
เรื่องบิลลี่เป็นพวกรักร่วมเพศผมพอรู้แล้ว แล้วเก่งเป็นด้วยหรือเปล่า
"เรารู้จักกันที่โรงเรียนค้าบ ซันนี่เปนเพื่อนของเพื่อนผมอีกที
แต่ผมกลับสนิทกับซันนี่มากกว่าเพื่อนผมซ้าอีก"
"บิลลี่มันเป็นพวกต้องการความรักนะครับ
สนิทกับคนเขาไปทั่ว ได้หมดไม่ว่าหญิงหรือชาย" เก่งแซวบิลลี่
ตอนนี้ทั้งสองคนกล้าบอกกับผมแล้วว่าบิลลี่เป็นพวกไบเซกช่วล
"พ้มพูดตรงๆเลยนะค้าบ พ้มว่ามีอาไรกับผู้ชายสนุกกว่ามีกับผู้หญิงนาค้าบ"
บิลลี่พูดพร้อมกับหันมามองผม ผมเองตอบไม่ถูกหรอก เพราะผมเคยแต่กับผู้หญิง
แล้วอีกอย่างผมแทบจะจำเหตุการณ์ตอนจะถูกข่มขืนนั้นไม่ค่อยได้ อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา
ผมนึกขอบใจมันเหมือนกัน
"แล้วเธอสองคนเป็นแฟนกันหรือเปล่าล่ะ"
ผมเปิดอกถามกันตรงๆเพราะเรื่องนี้มันคาใจผมมานานแล้ว หลังจากฟังคำถามผมจบบิลลี่ก็หัวเราะใหญ่
"เจ้าซันนี่นะมันเป็นดาวโรงเรียนเชียวนะคาบ
มีพูชายมาชอบมันเยอะมากเพราะมานหน้าตาน่ารักเหมือนผู้หญิง แต่อย่างมานน่ะไม่ตรงสเป๊กผมเท่าหร่าย
ผมชอบผู้ชายมาดแมนมากกว่านะคาบ"
"ชอบอย่างนายหลุยส์ใช่ไหมละ"
เสียงกระแนะกระแหนดังมาจากปากเก่งที่นั่งฟังอย่างเงียบๆ
"เราก็ชอบแบบนั้นแหละ แต่ที่ชอบจริงๆคงจาเป็นแบบพี่พงศ์มากกว่านาค้าบ"
บิลลี่ยิ้มพร้อมหันมามองผม นี่เจ้าบิลลี่มันสารภาพรักกับผมหรือเปล่าเนี่ย
"หน้าตาแบบคุณพงศ์น่าจามีคนมาชอบแยะนาค้าบ
ดูอย่างเจ้าสตีเวนซี พอเห็นคุณพงศ์เข้าจ้องตาม่ายกาพริบเลยไม่โสนเจ้าซันนี่สักติ๊ดเดียว
มานยังมาถามผมเลยว่าคุณพงศ์เป็นเหมือนพวกมานหรือเปล่า อยากให้คุณพงศ์ลองกับมานสักครั้ง
ถึงขนาดตามคุณพงศ์ปายเกาะด้วยเลย" หลังจากบิลลี่พูดจบผมก็นึกไปถึงวันที่เจอกับสตีเวนกับหลุยส์ครั้งแรก
ที่สตีเวนจ้องเขาอยู่นาน นี่หมายความว่าที่สตีเวนกับหลุยส์เลื่อนวันเดินทางมาพร้อมกับพวกเขาก็เพราะว่าสตีเวนชอบเขางั้นเหรอ
พอถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ เคยแต่มีผู้หญิงมาสารภาพรัก แต่ผู้ชายนี่เพิ่งจะเคยมี
ยังไม่ทันจะคิดอะไรได้มากจู่ๆบิลลี่ก็กระโดดเข้ามาจูบผมดื้อๆ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูกไปพักหนึ่ง
บิลลี่ได้ทีจูบผมอยู่นานโดยไม่แคร์สายตาของเก่งเลย
พลัก!! บิลลี่ล้มลงไปด้วยแรงผลักเต็มแรง
เก่งหน้าแดงและหอบด้วยความตกใจ
"นะ..นายสัญญากับชั้นว่าจะไม่ยุ่งกับพี่พงศ์ไง
บิลลี่" เก่งแทบจะตะโกน
"ก๊อช่าย..เราสานญากับนายไว้ เพราะเห็นว่านายที่เปนเพื่อนสนิทขอร้องเรา
แต่หลังจากเหตุการณ์คราวนี้แล้ว เราเห็นว่านายปกป้องคุณพงศ์ม่ายได้
เราต่างหากที่เปนคนช่วยคุณพงศ์ไว้ เราเองก้อรู้สึกว่าชอบคุณพงศ์มาก
ช้านว่าเรามาแข่งกันอย่างยุติธรรมดีกว่าน่า"
"หลังจากเหตุการณ์บ้าบอนี่นะเหรอ
ถ้านายไม่ไปตีสนิทกับไอ้ฝรั่งสองตัวนั่น เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิด
ไม่ต้องมาพูดเข้าข้างตัวเองดีกว่าน่า" เก่งตะคอกใส่บิลลี่อย่างโมโห
ผมซึ่งนั่งตกใจ งงไปหมดละล่ำละลักถามแทรกขึ้น
"เดี๋ยวๆๆ พี่งงไปหมดแล้ว พวกเธอพูดเรื่องอะไรน่ะ"
"เจ้าซันนี่มานก็ชอบคุณพงศ์เหมือนผมแหละ
มานเล่าให้ผมฟังบ่อยๆถึงพี่ที่เมืองทาย แล้วพอดีช่วงปิดเทอมปีนี้
เจ้าซันนี่มันมีปัญหาว่ามีผู้ชายมาตามตื้อ มันเลยชวนผมให้แสดงตัวเปนแฟนมันแล้วก้อหลบมาเมืองทาย
มานอยากพบคุณพงศ์มาก แต่มานไม่กล้าพูดหรอก" บิลลี่เล่าเป็นช็อตๆ
จนผมฟังแทบไม่ทัน สรุปโดยย่อๆว่า ทั้งบิลลี่แล้วก็เก่งต่างก็ชอบผม
ช่วงหยุดมาเที่ยวนี่ผมถูกผู้ชายมาชอบถึงสามคน ถึงแม้ว่าหนึ่งในนั้นจะอยู่ในตะแลงแกงแล้วก็ตาม
มีคนมาชอบก็ดีอยู่หรอกแต่ไหงถึงเป็นผู้ชายทั้งนั้นนะ
"นายเงียบๆไปเลยนะบิลลี่" เก่งตวาดตอนนี้หน้าแดงเกือบถึงใบหูแล้ว
คงเป็นเพราะบิลลี่พูดให้ผมฟังโดยไม่ปิดบังนั่นเอง
"นายผิดสัญญากับชั้นแต่แรกแล้ว นายพยายามทำตัวสนิทกับพี่พงศ์อยู่เสมอ
นายก็รู้ว่าชั้นโมโห แต่นายก็ยังทำเหมือนแกล้งชั้นอย่างนั้นแหละ
แค่นั้นยังไม่พอยังมาแนะนำไอ้โฮโมโรคจิตสองคนนั่นมาอีก ชั้นถึงฟิวส์ขาดไง"
พอฟังมาถึงตอนนี้ผมก็เริ่มชักเข้าใจ ที่แท้ตลอดมาที่ผมเข้าใจว่าเก่งหึงที่ผมสนิทกับบิลลี่
ที่แท้เก่งหึงที่บิลลี่มาทำตัวสนิทกับผมต่างหาก แล้วที่เก่งทะเลาะกับบิลลี่รุนแรงก็เพราะบิลลี่แนะนำสตีเวนมาให้ผมรู้จัก
มิน่าตอนอยู่ที่เกาะเก่งบอกให้ผมระวังตัว ใครจะรู้เล่าว่ามันเป็นเรื่องแบบนี้
"ก็นายมีอะไรชอบเก็บว้ายคนเดียว คนเอเชียนี่นิสายเหมือนกันหมดรึเปล่า
ชอบเขาก้อม่ายยอมบอกแล้วขาวจารู้ได้ยังไงเล่า ทีกับพูหญิงม่ายเห็นเป็นอย่างนี้เลย"
บิลลี่ลุกเดินเข้ามาหาผม แต่เก่งเข้ามานั่งขวางทางบิลลี่ไว้
จ้องตากันอยู่นาน
"เดี๋ยวก่อน ชั้นไม่ใช่สิ่งของนะจะได้มาแย่งกันแบบนี้
อีกอย่างชั้นก็เป็นผู้ชายด้วย พวกนายบ้าไปแล้วเหรอ ผู้หญิงก็มี แล้ว..แล้วยังมาจูบชั้นอีก"
ผมตะโกนพูดละล่ำละลัก จู่ๆเก่งก็มาจับแขนผมไว้ทั้งๆที่ยังจ้องกับบิลลี่อยู่
"ชั้นรับคำท้านายก็ได้ บิลลี่"
เก่งพูดโดยไม่สนใจผมสักนิดเดียว แถมใช้ความเร็วแบบสายฟ้าแลบ มาดึงผมเข้าไปจูบ
ผมแทบไม่ทันตั้งตัว แต่คราวนี้ผมไม่ถึงกับตะลึงทำอะไรไม่ถูก ผมรีบผลักเก่งออกไปสุดแรง
เก่งกระแทกพื้นดังโครมใหญ่ บิลลี่ยิ้มมุมปากเล็กๆ
"พี่..พี่พงศ์ผลักผม ทีบิลลี่พี่ไม่เห็นทำแบบนี้เลย"
เก่งพูดพร้อมกับทำเสียงสะอื้น ผมชักรู้สึกสงสาร ผมคงทำเกินไปจริงๆ
|
|
|