|
สงครามตำนานแห่งรัก
ตอนที่ 7 ลูกแก้วมุกวารี
เมื่อเดินเข้ามาใกล้ลาเลียสก็ได้ยินเสียงหัวเราะ
เขาชะงัก เสียงหัวเราะใสๆดังออกมาจากศพ ลาเลียสชักกระบี่ออกมา
"เจ้าเล่นพอรึยัง ออกมาได้แล้ว"
ลาเลียสพูดหน้าเครียดพอพูดจบร่างหนึ่งก็กระโดดออกมาจากหลังศพ
"ไม่เห็นสนุกเลย ท่านไม่เห็นกลัวสักนิดเดียว"
ร่างนั้นพูด พร้อมกับโชว์ลักยิ้มบุ๋มสองข้างแก้ม
"ถ้าเจ้าแตะต้องศพนั่นมากไปกว่านี้
ข้าฟันเจ้าแน่ ซาเรส" ซาเรสรู้ดีว่าเขาไม่ควรล้อเล่นมากไปกว่านี้
เขากระโดดลงมาจากแท่นวางศพ
"ข้ากะแล้วว่าท่านจะต้องมาที่นี่
" ซาเรสพูดอย่างรู้ทันลาเลียสจ้องหน้าซาเรส เขารู้สึกว่าเขาไม่เข้าใจซาเรสขึ้นทุกที
เด็กผู้หญิงที่เล่นกับศพ !!
"เด็กผู้หญิงไม่ควรออกมาดึกดื่น เจ้าออกมาที่นี่เพียงเพื่อแกล้งข้างั้นรึ"
ซาเรสมองหน้าลาเลียสอย่างประหลาดใจ แล้วเขาก็หัวเราะจนตัวงอ
"ฮะ...ฮะ..ฮะ.. ท่านนี่ดูภายนอกเหมือนเป็นคนเจนโลก
แต่จริงๆแล้วไร้เดียงสากว่าที่คิดนะ" ลาเลียสรู้สึกหน้าตึง
' ไร้เดียงสา' อย่างเขาเนี่ยนะ !!
"ตรงไหนของเจ้าที่คิดว่าข้าเป็นอย่างนั้น"
ลาเลียสพูดเสียงเข้ม เขาถูกเด็กสบประมาทซึ่งๆหน้าแล้ว
"ก็ข้าหลอกท่านว่าเป็นผู้หญิง ท่านยังเชื่ออยู่จนถึงตอนนี้เลยเหรอ
ผู้หญิงที่ไหนจะออกเดินทางคนเดียวเล่า ข้าก็ใส่ชุดผู้ชายอยู่ชัดๆ"
ลาเลียสไม่ได้ขำไปกับคำพูดนั้น เขาไม่เคยสนใจโลกภายนอก เขาอยู่แต่ในน้ำในเผ่านารูก้า
เขามีแต่ความแค้น จนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาถึงรู้ตัวเองว่าเขาเป็นอย่างที่ซาเรสบอกจริงๆ
เขาไม่เคยสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆจริงๆ เขาจ้องหน้าซาเรสอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาเพ่งพิศอย่างละเอียด
โครงหน้าถึงแม้สวยได้รูปหวานเหมือนผู้หญิงแต่ก็ยังส่อแววไปทางผู้ชายอยู่บ้าง
ส่วนรูปร่างนั้นเล่า ถึงตัวเล็กก็จริงแต่ซาเรสก็ไม่ได้มีรูปร่างเหมือนผู้หญิง
เขาไม่มีหน้าอกแล้วก็สะโพก
"ท่านจะจ้องข้าอีกนานไหมเนี่ย.....ที่ท่านควรจะจ้องไม่ใช่ข้าสักหน่อย"
ซาเรสชักรู้สึกอายๆ
"อะไร" ลาเลียสถามงงๆซาเรสชี้มือไปที่ศพเจ้าชายฟารูส
แต่คราวนี้ไม่มีเสียงหัวเราะ
"ท่านรู้ได้ไงว่านั่นเป็นเจ้าชายฟารูสจริงๆ"ลาเลียสชะงัก
"ศพนั่นหน้าตาก็บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร
มีแต่คำประกาศกับป้ายชื่อ ท่านแน่ใจได้หรือ"
"ข้าไม่รู้หรอก แต่ข้าจำได้ วันที่ข้าช่วยเขาจากลานประหาร
เขาใส่ชุดเต็มยศ..." ลาเลียสพูดช้าๆ
"ข้าใส่ชุดผู้ชาย บอกท่านว่าเป็นผู้หญิงท่านยังเชื่อข้าได้
ถึงแม้ศพนี้ใส่ชุดเจ้าชายฟารูสแต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเจ้าชายฟารูสนี่นา"
ซาเรสพูดพลางชี้มือไปที่ศพ
"ท่านจะเชื่อคำประกาศมากกว่าเชื่อตัวเองเหรอ"
ลาเลียสอึ้งไปกับคำพูดนั้น ใช่สิ เขาดูแต่ภายนอกแล้วเชื่อ ซาเรสบอกว่าเป็นผู้หญิงเขาก็เชื่อ
เขาไม่เคยมีความคิดจะจับซาเรสแก้ผ้าดูนี่นา
ลาเลียสก็เหมือนกัน เขาไม่รู้หรอกว่าลาเลียสมีไฝมีปานที่ไหนบ้าง
ตอนหนีมาด้วยกันก็บาดเจ็บทั้งคู่ เขาจำไม่ได้หรอกว่ามีแผลกี่แห่งโดนฟันกี่ที่
แล้วยิ่งตอนนั้นสติของเขาก็ไม่สมบูรณ์ด้วย แต่เดี๋ยว!!เหมือนจะนึกอะไรออก....ลาเลียสวิ่งขึ้นไปบนแท่นวางศพ
เขาถอดเสื้อของศพออก ตามตัวศพก็มีรอยแผลเต็มไปหมด ทั้งรอยเก่าและใหม่
แต่ที่เขาจะหาไม่ใช่แผลนั้น......
"หายไปไหนกันหมด.... ปล่อยข้าออกไปเดี๋ยวนี้นะ"
เสียงตะโกนดังออกมาจากในห้อง
"นาไนท์ นาไนท์ ไอ้ทรราชย์"
เสียงตะโกนดังจนแหบแห้งเมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็ต้องพบกับความตกใจ ฟารูสพบว่าตัวเองมานอนอยู่ในห้องที่ไม่มีประตู
สวมแค่กางเกงขายาวสีขาวบางๆตัวหนึ่ง เขามองไปรอบๆห้อง ผนังด้านบนมีช่องเล็กๆเป็นกระจกสามารถเห็นวิวข้างนอกได้
เขาถูกตรึงไว้กับแท่นบูชา ข้อมือเขาถูกมัดแยกไว้กับมุมแท่นด้านบน
ไม่สามารถขยับได้ ฟารูสยังจำคำพูดของนาไนท์ก่อนที่จะสลบไป...ฆ่าเขาส่งศพไปขอขมา...วางแผนทั้งหมด......เขาหลอกทุกคน!!
ครืน ครืน เสียงผนังด้านหนึ่งเลื่อนออกไป เขาได้ยินเสียงผีเท้าเดินเข้ามาใกล้
พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ชวนขนลุก
"ไอ้ทรราชย์ แกเลวยิ่งกว่าสัตว์อีก
ไอ้ชั่ว..." เสียงสบถสาบานดังก้อง เขาพยายามเงยหน้าและเตะถีบเท้าทั้งสองของเขาออกไปหวังว่ามันคงจะโดนเจ้าของเสียงหัวเราะนั้นบ้าง
แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
"หึๆ ท่าทางท่านคงจะไม่ชอบนอนเฉยๆนะเจ้าชายฟารูส
รู้สึกจะนอนดิ้นตั้งแต่เด็กแล้วนี่" เสียงแหลมสูงดังอยู่เหนือศีรษะเขา
"แต่ข้าชอบท่านตอนนอนนิ่งๆมากกว่า"
พูดจบฟารูสก็รู้สึกว่าขาของเขาถูกมัดแยกไว้ที่มุมของแท่นบูชาด้านล่าง
ตอนนี้เขาขยับตัวแทบไม่ได้เลย
"เอาละพวกเจ้าออกไปได้แล้ว"
นาไนท์ออกคำสั่งกับทาสที่เข้ามาด้วย
"เจ้าจะฆ่าก็ฆ่า ไม่ต้องจับข้ามาทรมานหรอก
จะส่งศพข้าไปขอขมาเผ่านารูก้าก็ทำเลยสิ" เจ้าชายตะโกน
"ข้าส่งไปแล้ว"
"ข้าส่งศพเจ้าชายฟารูสไปให้เผ่านารูก้าแล้ว"
นาไนท์พูดช้าๆ เขารอดูปฏิกริยาของเจ้าชายฟารูสอยู่
"ตอนนี้ท่านไม่ใช่เจ้าชายฟารูสแล้ว
ท่านเป็นคนไม่มีตัวตนคนหนึ่งเท่านั้น" เมื่อพูดจบห้องทั้งห้องก็เงียบจนได้ยินแต่เสียงลมหายใจ
ไม่มีเสียงด่าทอของเจ้าชายฟารูส
"ตายแล้ว ข้าตายไปแล้วงั้นรึ"
เจ้าชายพูดช้าๆๆ
"ศพของท่านถูกประจานอยู่ที่ประตูเมือง....ก่อนที่จะส่งไปเผ่านารูก้า"
นาไนท์พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะประตูเมือง !!! ลาเลียส แบบนี้ลาเลียสก็ต้องรู้ข่าวนี้แล้วน่ะสิ
ลาเลียสจะรู้สึกยังไง จะร้องไห้ให้เขารึเปล่านะ.....
"นายทหารคนนั้นละสิ" ฟารูสพูดพร้อมนึกถึงนายทหารโชคร้ายในวิหารคืนนั้น
"ทำไมเจ้าไม่ฆ่าข้าซะเลยล่ะ"
" หึ..หึ.. ท่านยังมีประโยชน์กับข้าอยู่นะ
โดยเฉพาะร่างกาย" นาไนท์หัวเราะเสียงแหลมอย่างมีเลศนัยร่างกายของเขาเครียดขึ้นมาทันที
เขาพยายามออกแรงดึงที่แขนและขาอีกครั้ง แววตาเต็มไปด้วยความสับสน
นาไนท์วางมือของเขาลงบนหน้าอกของเจ้าชายฟารูสพร้อมลูบเบาๆ
"ออกไปนะ เจ้าอย่ามาแตะต้องข้าแม้แต่ปลายเล็บ
ไอ้ทรราชย์...." ยังพูดไม่ทันจบเขาก็ถูกเศษผ้าชิ้นนึงยัดเข้าปากมา
"ข้าเคยสอนท่านแล้วไง ว่าเป็นเจ้าชายต้องมีมารยาท.....บทลงโทษสำหรับเด็กไม่เชื่อฟัง"
พูดจบเขาก็ลูบไล้ร่างกายท่อนบนของเจ้าชายฟารูสต่อฟารูสรู้สึกขยะแขยงกับสัมผัสนั้น
เขาอยากจะตายให้มันรู้แล้วรู้รอด เขาขยะแขยงสัมผัสนี้มานานเต็มทีแล้ว
นาไนท์ชอบมองเขาแปลกๆ ตอนเผลอก็ชอบมาลูบคลำเขา ตอนนี้เขารู้สึกถึงลมหายใจและลิ้นเปียกๆที่อยู่บนตัวเขา
เขาพยายามเบนตัวหนี แต่ยิ่งเบี่ยงตัวก็ยิ่งเหมือนจะปลุกอารมณ์ของฝ่ายตรงข้าม
มือของนาไนท์ก็เริ่มที่จะสำรวจตัวเขาเรื่อยๆ
กางเกงที่เขาสวมอยู่ก็แทบจะไม่ปกป้องอะไรได้เลย เขาช็อคไปพักนึงเมื่อมือนั้นเลื่อนต่ำลงมา
ฟารูสกำมือจนเล็บจิกลงไปในเนื้อ หยาดน้ำตาซึมจากหางตา แต่แล้วสัมผัสนั้นก็หยุดลงพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอนาไนท์สนุกที่ได้ทรมานเขา!!
กำลังทำลายศักดิ์ศรีของเขา !! ลงโทษเขา!!
"ข้าสนุกที่ได้เล่นกับท่าน แต่ยังไม่ใช่เวลานี้หรอก
ความบริสุทธิ์ของท่านจำเป็นสำหรับข้า" นาไนท์พูดเป็นปริศนาพร้อมกับเดินออกจากห้องไป
ฟารูสนอนสะอื้นอยู่ครู่หนึ่ง เขายิ่งไม่เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ความคิดของเขาสับสนในหัวไปหมด
แต่ความคิดที่แวบเข้ามาในหัวของเขาอย่างหนึ่งก็คือ
'ตอนที่เขาสัมผัสลาเลียส ลาเลียสมีความรู้สึกแบบนี้รึเปล่า'
ฟารูสเป็นเพื่อนคนสำคัญหรือเปล่า.....ลาเลียสนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว
เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง เขารู้สึกกับฟารูสยิ่งกว่าเพื่อน!!.....
คนรัก? เขาส่ายหัวไปกับความคิดนั้น เขารักฟารูสงั้นหรือ เขาเป็นผู้ชายฟารูสก็เป็นผู้ชาย
เขาเคยรังเกียจสัมผัสของฟารูส แต่ก็เป็นช่วงที่ร่ายกายของเขาทรมานแทบจะไม่รู้สึกตัว
ตอนนี้เพียงแค่นึกถึง ลาเลียสก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาโหยหาสัมผัสนั้น......ตอนที่เขาสำรวจศพอย่างละเอียดแล้วพบว่านั่นไม่ใช่เจ้าชายฟารูส
เขาทั้งสับสนทั้งดีใจ ฟารูสยังไม่ตาย!! เขานึกย้อนไปถึงตอนที่ฟารูสถูกนายพลอัลเมอร์ฟันที่ชายโครงข้างซ้าย
เขาเองแอบซุ่มมองดูอยู่แต่ไม่ได้เข้าไปช่วย บาดแผลนั้นสาหัสพอดู
มันน่าจะมีรอยแผลเป็นให้เห็นบ้างแหละน่า และอีกรอยแผลนึง......รอยแผลที่เขาไม่เคยได้เห็นแต่เป็นรอยแผลที่ช่วยชีวิตเขา
รอยแผลที่ฟารูสกรีดเลือดให้เขาดื่ม ด้วยสัญชาติญาณนักรบเขาแน่ใจว่าน่าจะอยู่ตรงช่วงแขนซ้ายเพราะฟารูสถนัดขวา
และช่วงแขนมีเส้นเลือดใหญ่อยู่....เพล้ง!! เสียงดังในบ้านสะดุดอารมณ์ของลาเลียส
"ท่านบอกว่ามุกวารีอยู่ในตัวเจ้าชายฟารูสงั้นรึ"
เสียงซาเรสตะโกนขึ้นมา
"ทำไมพึ่งมาบอกเอาป่านนี้"ลาเลียสเดินเข้าไปสมทบ
เขาเห็นท่าทางตกใจของซาเรสกับคำพูดของท่านโอมาก็รู้สึกประหลาดใจ
ทำไมซาเรสต้องตกใจขนาดนั้น
" เรื่องมุกวารีเป็นความลับของเราเผ่านารูก้ากับนครมานาล็อก
เจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรด้วย เจ้าเป็นใครกันแน่"
" เรื่องนี้มันไม่ใช่ความลับของสองเผ่าแล้วนะ
ถ้าเจ้านั่นได้มุกวิเศษไปละก็ เรื่องใหญ่แน่!!"
"อะไรกัน เจ้านั่นคือใคร แล้วมุกวิเศษจะออกมาได้ยังไง
? ข้าสับสนไปหมดแล้วนะ ซาเรส" ลาเลียสพูดอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
สายตาทุกคู่กำลังจ้องไปที่ซาเรส
"มุกวารีน่ะเป็นลูกแก้วรวมพลังของมังกรที่บำเพ็ญศีลมานาน
เมื่อตัวมันสลายไปแต่ลูกแก้ววิญญาณวิเศษของมันก็ยังคงอยู่ กลายเป็นลูกแก้วที่มีพลังวิเศษ
นอกจากทำให้น้ำบริสุทธิ์ และรักษาโรคหลากหลายได้แล้ว ยังสามารถส่งเสริมพลังเวทมนต์ให้เข้มแข็งขึ้นได้อีกหลายเท่าอีกด้วย"
"เจ้าเป็นใครกันแน่ !!!มุกวารีเป็นของประจำเผ่าข้า
แล้วทำไมเจ้าถึงรู้สรรพคุณมันดีนักละ แล้วใครคือเจ้านั่นที่เจ้าพูดถึงกัน"
ลาเลียสตะคอกถามซาเรสอย่าลืมตัว ตอนนี้ทุกสายตามองไปที่ซาเรสเป็นทางเดียวกัน
"เฮ้อ....เจ้านั่นที่ข้าพูดถึงข้าก็ยังไม่แน่ใจหรอก....มันเป็นนักโทษที่หลบหนีออกมาจากเมืองของเข้าเป็นเวลานานแล้ว
ข้าออกเดินทางเพื่อตามหามันมาลงโทษ ข้าพอได้เบาะแสของมันมาว่ามากบดานอยู่ที่เมืองมานาล็อกนี่
ถ้าข้าเดาไม่ผิด มันก็คือราชครูนาไนท์"
"นาไทน์งั้นเหรอ!!" โอมาพูดเสียงดัง
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาจำได้ว่า นาไนท์มาสมัครเป็นแพทย์หลวงของทางพระราชวัง
ด้วยความสามารถแปลกๆของเขาที่สามารถรักษาโรคได้มากมาย ทำให้พระราชาแมนนอนโปรดเป็นพิเศษ
นาไนท์เลยยิ่งได้ใจ วางตัวข่มเขาไปทั่ว ตอนสุดท้ายช่วงที่เจ้าชายฟารูสประชวรมาก
นาไนท์ถึงกับแนะนำให้พระราชาแมนนอนทำลายความสัมพันธ์กับเผ่านารูก้าโดยการขโมยมุกวารีมา
ราชครูโอมาพยายามห้ามปรามอย่างสุดชีวิต แต่พระราชาแมนนอนก็ไม่ฟัง
แถมยังปลดเขาออกราชการให้นาไนท์ดำรงตำแหน่งแทน โอมาจึงจำต้องระเห็ดออกมาอยู่ที่บ้านโทรมๆกับอานูหลานชาย.......
"แล้วเจ้าเป็นใครกันแน่ ซาเรส เจ้าบอกว่าติดตามนาไนท์มาหลายปีแล้ว......แถมข้ายังรู้สึกคุ้นๆหน้าเจ้าด้วย"
โอมาพูดพร้อมกับหรี่ตาลง ใช่เขาเคยเห็นหน้านี้มาก่อนแล้วแน่ๆ แต่มันนานมาแล้วจนเขานึกแทบไม่ออก
"อา....ข้านึกออกแล้ว เจ้าคือ........!!!!"
"พอเถอะ ไม่ต้องพูดออกมาหรอก พวกท่านไม่มีใครบอกข้าว่ามุกว่ารีอยู่ในตัวเจ้าชายฟารูส
ข้าแน่ใจว่าเจ้าชายฟารูสยังไม่ตาย แต่ถ้าหลังคืนวันเพ็ญนี่ละก็ เขาตายแน่นอน"
ซาเรสพูดเสียงเครียด ตอนนี้เขาไม่มีเค้าว่ากำลังล้อเล่นอยู่เลย
"ก็วันนี้คือวันเพ็ญไม่ใช่เหรอ"
อานูตะโกนเสียงดัง
|
|
|