Surechigai no kataomoi
ตอนที่ 09
หลังจากที่เรากลับจากรับประทานอาหาร
ก็อาบน้ำเข้านอน
มันแปลกอยู่ไม่น้อยที่ต้องมานอนเตียงเดียวกับคนอื่น... จะว่าไปผมก็เคยนอนเตียงเดียวกับจินัตสึมาก่อน
แต่ตอนนั้นผมเป็นไข้จนไม่มีสติ
เรานอนหันหลังให้กัน ผมพยายามไม่คิดอะไร หลับตาลง พอเริ่มเคลิ้มๆ
ครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็รู้สึกว่ามีวงแขนเรียวเล็กโอบรอบลำตัวจากด้านหลัง
"มาซาฮิโระ... ฉันรู้นะว่าคุณยังไม่หลับ" เสียงหวานๆ ของคานาโกะลอยมากระทบหู
ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดอย่างไรชอบกล
"มาซาฮิโระ... ไม่เอาน่า อีกหน่อยเราก็แต่งงานกันแล้วนะ"
คานาโกะเสียงอ้อน ผมรู้สึกว่าเธอกำลังซบไหล่ของผม มือที่โอบมาด้านหน้า
เริ่มป่ายแปะไปทั่ว ผมพลิกตัวกลับไปหาเธอ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ทำให้ผมเหมือนตกอยู่ในภวังค์
แว่บหนึ่งผมเกือบเผลอตัวจูบเธอเข้า ทว่า... จินัตสึ...
ผมสะดุ้งดึงตัวออกห่าง
"จะทำอะไรน่ะ"
ทว่าเธอกลับยิ้ม... ดูยั่วยวนอย่างไรพิกล
"อะไรกัน... อย่าบอกนะ ว่าคนจริงจังอย่างคุณ จะจริงจังเรื่องพวกนี้ด้วย...
คนที่มีหัวสมัยใหม่เรื่องงาน คงไม่หัวโบารณเรื่องความรักหรอกนะ"
อะไรกันนี่... ผู้หญิงคนนี้ ร้ายกาจจริงๆ ด้วย
ผมเปิดไฟที่หัวเตียง ก่อนลุกเดินออกไปจากห้อง ตั้งใจจะนอนโซฟา แต่...
ถ้าเธอตามออกมาล่ะ
ผมเปิดประตูเข้าไปห้องจินัตสึ ลงกลอนอย่างดี ก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง
คำถามมากมายพรั่งพรูเข้ามาในหัว นี่ผมเป็นผู้ชายรึเปล่า... ขนาดผู้หญิงทอดสะพานให้ขนาดนั้นแล้ว
ยังปฏิเสธได้ลง ไม่สิ... แต่เธอไม่ใช่แบบที่ผมชอบนี่นา ผู้หญิงที่น่ากอดสำหรับผมคงจะต้อง...
เส้นผมอ่อนนุ่ม... ตากลมโตดูสดใสเหมือนเด็ก... ผิวเนียน ไหล่บางน่าทะนุถนอม
ทำอาหารเก่ง เอาใจใส่... แล้วทำไมผมจะต้องนึกถึงจินัตสึด้วยล่ะ....
ผมกำลังนึกถึงผู้หญิงอยู่ไม่ใช่หรือ
อีกอย่าง... ว่ากันว่าผู้ชายนอนกับผู้หญิงได้โดยไม่จำเป็นต้องรัก...
แล้วทำไมผมจึงไม่ล่ะ
ผมถกเถียงกับตัวเองในใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม แย่จริง...
กลิ่นของจินัตสึทำให้ผมรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก... อยากหลับเสี้ยวินาทีนี้เลยล่ะ
เช้าขึ้นมา... ผมตื่นจากฝัน จึงได้พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเลย
เป็นห้องที่แตกต่างจากห้องของผมโดยสิ้นเชิง เตียงนุ่มมีเทปและแผ่นซีดีวางเกะกะ
ข้างๆ มีโต๊ะหนังสือที่รกราวกับไม่ได้จัด ผมมองไปรอบๆ แล้วหัวเราะกับตัวเอง
หมอนั่นมัวแต่ดูแลผม ทำความสะอาดห้องนอนให้ผมเสียจนเรียกได้ว่าเรียบร้อยอย่างกับห้องนอนผู้หญิง
แต่ทีกับห้องตัวเอง รกยังกะรังหนู สมกับเป็นห้องของเด็กผู้ชายจริงๆ
จะว่าไปผมเองก็ไม่เคยมีห้องแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่เด็กๆ มีคนมาจัดเก็บกวาดให้ตลอด
จนผมเองไม่ชินกับห้องรกๆ แต่เมื่อคืน...กลับนอนหลับสบาย เหมือนกับคืนนั้น...
หนาวสะท้านเพราะพิษไข้ แต่กลับรู้สึกถึงอ้อมกอดเล็กๆ ที่อบอุ่น
ผมออกจากห้อง คานาโกะไปแล้ว ทิ้งกาแฟหอมกรุ่นไว้บนโต๊ะ ผมเข้าห้องตัวเอง
อาบน้ำแต่งตัว ขนเสื้อผ้าบางส่วนมาไว้ในห้องของจินัตสึ แล้วออกมาที่โต๊ะอาหาร
"ฉันต้องเข้าออฟฟิส" โน้ตสั้นๆ จากคานาโกะ
ผมจะคว้าหนังสือพิมพ์ ทว่ามันไม่อยู่ที่ที่มันควรจะอยู่ตอนเช้า ...โดนคานาโกะโฉบไปเสียแล้ว
จริงสิ เธอก็เป็นว่าที่ประธานบริษัทนี่นา ผมคิดก่อนเดินออกจากห้องโดยไม่ได้แตะอาหารเช้าเลยแม้แต่น้อย
"ซากุระดะ คานาโกะ บุตรสาวคนเดียวของประธานกลุ่มบริษัท
เอ-กรุ๊ป เธอักษาการแทนท่านประธานซากุระดะ ฮิเดโอะได้ 3 เดือนแล้วครับ
นับเป็นผู้หญิงเก่งที่พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นระดับแนวหน้าได้รวดเร็ว"
ผมกำลังนั่งฟังรายงานที่ให้เลขาไปสืบ
"เอาล่ะ... เรื่องนั้นผมรู้แล้วล่ะ ขอส่วนสำคัญดีกว่า"
เลขาพยักหน้าแล้วรายงานต่อ "ครับ ประธานซากุระดะ ฮิเดโอะได้เกษียณตัวเองอย่างไม่เป็นทางการ
เพราะอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ควาดว่าคงอยู่ได้ไม่เกิน
6 เดือน ท่านจึงอยากให้คุณคานาโกะแต่งงานและมีทายาทสืบสกุลเร็วๆ
แต่ก็มีข่าววงในซึ่งไม่สามารถสรุปได้ว่าจริงหรือไม่"
"ข่าววงในงั้นเหรอ"
"ข่าวลือน่ะครับ... คนของตระกูลซากุระดะลือกันว่าคุณคานาโกะท้องกับใครก็ไม่รู้
เลยต้องรีบแต่งงานน่ะครับ"
ท้องไม่มีพ่องั้นเหรอ... แย่ล่ะสิ แบบนี้ก็ไม่ต่างจากที่พวกผู้หญิงสมัยนี้ชอบทำ
จะว่าไปก็น่าเห็นใจอยู่ ถ้าเกิดไม่รีบแต่งหรือแสดงให้เห็นว่าอยู่กับใคร
(ซึ่งก็คือผม) กล่าวคือ ถ้าไม่รีบสร้างหลักฐานล่ะก็ ทั้งแม่และเด็กในท้องคงถูกสังคมประนามเป็นแน่
ยิ่งเธอเองจะต้องนั่งตำแหน่งผู้บริหารกิจการใหญ่โตด้วยแล้วล่ะก็...
ผมเลิกงานดึกเพราะมีประชุม กว่าจะกลับถึงบ้านก็
3 ทุ่มครึ่งแล้ว
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็พบห้องที่สลัวด้วยแสงเทียน ผมเกือบจะเดินออกจากห้องด้วยเข้าใจว่าเข้าห้องผิดเสียแล้ว
"กลับมาแล้วเหรอคะ" คานาโกะในชุดราตรียาวสีดำเปิดหลังเดินถือแก้วไวน์มาหาแล้วยื่นให้ผม
"วันนี้มีอะไรงั้นเหรอ" ผมถามอย่างงงๆ
"เมื่อคืนฉันต้องขอโทษที่จู่ๆ ก็ทำอะไรแปลกๆ ลงไป ฉันก็เลยคิดได้ว่าระหว่างคุณกับฉันเรายังไม่เคยมีความทรงจำที่โรแมนติกด้วยกันเลย"
ผมมองโต๊ะอาหารที่จัดไว้อย่างหรูหรา นึกเอียนขึ้นมาเพราะเพิ่งอิ่มมาจากข้างนอก
"แล้วอาหารพวกนี้..."
เธอหัวเราะเสียงใส "ฉันสั่งมาจากโรงแรมน่ะค่ะ"
"เหรอ... จัดสวยดีนี่" ผมตอบเก้อๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องไปอาบน้ำ
"เดี๋ยวก่อนสิคะ... จะไม่ทานซักหน่อยเหรอ"
"ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่คิดว่าคุณจะรอ เลยทานจากข้างนอกมาแล้ว
แล้วพรุ่งนี้ผมมีประชุมผู้บริหารตอนเช้า ต้องรีบเตรียมเอกสารเข้านอน
คิดว่าคุณคงจะเข้าใจนะ"
"อื้ม" เธอพยักหน้าอย่างเสียไม่ได้
ผมรู้สึกแย่ที่ต้องเสียมารยาทกับเธอ แต่รู้สึกโล่งใจซะมากกว่า เธอคิดจะทำอะไรกันแน่นะ