00     01      02      03      04      05      06      07      08       09       10       11       12       13       14       15       16      17
Cherry March


Surechigai no kataomoi

ตอนที่ 13

 ผมไขประตูเข้าไปในห้อง หนึ่งสัปดาห์แล้วที่เขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แม้จะรู้ว่าไม่มีอะไรแต่ผมก็อดกังวลไม่ได้ว่าเขาอาจจะนึกรักผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาบ้าง เหลืออีกเพียงหนึ่งอาทิตย์...แล้วหลังจากนั้น...
ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทนไม่เห็นเขาได้อย่างไรตั้ง 1 อาทิตย์นี่อาจเป็นเกมฝึกความอดทนของพระเจ้าก็เป็นได้
ผมดิ่งเข้าครัว เสาร์อาทิตย์ที่ผมไม่ได้มา ในห้องมีแต่ขยะของถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
... มาซาฮิโระซังกินของพวกนี้ด้วยหรือนี่... ทำไมเขาไม่ออกไปกินข้างนอก แล้วคู่หมั้นของเขาทนกินของอย่างนี่ได้อย่างนั้นหรือ
ผมนั่งแยกขยะแล้วผูกปากถุง จากนั้นก็จัดการดูดฝุ่นห้องรับแขกกับห้องครัว แล้วก็ห้องนอน...
ห้องของมาซาฮิโระซังดูโล่งๆ ชอบกล แม้ว่ากระเป๋าเดินทางอันแสนเกะกะจะตั้งขวางตู้เสื้อผ้าอยู่เช่นเคย แต่มีบางอย่างไม่เหมือนเดิม จริงสิ เครื่องสำอางสารพัดชนิดบนโต๊ะเครื่องแป้งอันตรธานหายไปราวกับถูกยกเค้า อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าที่พาดอยู่บนเตียง โต๊ะ หรือเก้าอี้ก็ยังคงเกะกะ ผมจัดการทำความสะอาดเท่าที่ทำได้เหมือนเคย ก่อนจะเข้าไปทำห้องผมซึ่งมาซาฮิโระซังใช้อยู่
ผมเปิดประตูเข้าไป แล้วต้องตกใจ ร่างสูงใหญ่ของเขานอนห่มผ้าอยู่บนเตียง
"มาซาฮิโระซัง..." ผมวางเครื่องดูดฝุ่น รีบเข้าไปดูอาการของเขา
"ทำไมเธอ..." เขาลืมตาปรือๆ มองผม
"ผมมาทำความสะอาดให้ครับ คุณไม่สบายอีกแล้วเหรอ" ผมเอื้อมมือไปแตะหน้าผาก ทว่ามือใหญ่ของเขาคว้าขอมือดึงผมลงมาที่เตียงด้วย
"มาซาฮิโระซัง..."
เขาผุดลุกขึ้นมาคร่อมร่างผมไว้ ทำยังไงดีล่ะ ตกใจก็ตกใจแต่เขินมากกว่า
"จินัตสึ... ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่"
อะไรกัน นี่เขาไม่ได้ป่วยหรอกหรือ
"ผม... ผมบอกแล้วไงครับว่ามาทำความสะอาดให้น่ะ นี่คุณหลอกผมงั้นเหรอ"
"ฉันไม่ได้หลอกเธอนะ ฉันนอนของฉันอยู่ดีๆ เธอก็เดินเข้ามา"
"ก็ผมตกใจคิดว่าคุณป่วยนี่นา"
"แล้วทำไมถึงต้องมาทำความสะอาดห้องฉัน... ไม่ไปโรงเรียนหรือไง"
"โรงเรียนน่ะช่างมันเถอะครับ..." ผมหลบสายตาที่มองลงมา รู้สึกแปลกชอบกลที่เป็นฝ่ายถูกมอง แต่ผมก็ไม่ได้นึกเกลียด กลับรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ "ขอแค่มาซาฮิโระซังอยู่อย่างสบายก็พอแล้วครับ"
"เธอนี่มัน..." เขาหัวเราะ.... เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเขาหัวเราะแบบนี้ เขาดีดหน้าผากผมเบาๆ "เอาล่ะต่อไปนี้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาอีกแล้วนะ แล้วก็ไม่ต้องหยุดเรียนด้วย"
"หมายความว่า..." ผมหน้าเสีย ว่าแล้วเชียวถ้าเขารู้เขาคงไม่ยอมแน่ๆ
"กลับมาอยู่ที่นี่ได้แล้ว... ไม่มีเธอฉันรู้สึกเหมือนขาดๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ"
ผมเขินจนหุบยิ้มไม่ลง อยู่ๆ เล่นมาพูดอะไรให้คิดแบบนี้
"อีกบัญชีนึง..."
ผมหน้าซีด... เรื่องอะไรอีกล่ะ
"ที่เธอบอกว่ารัก คืนนั้นน่ะ"
คืนนั้น... ตอนนี้ผมร้อนผ่าวไปทั้งหน้า
"คุณยังไม่หลับ...."
"ก็ใช่น่ะสิ"
โอย... อยากมุดเตียงหนี นี่แสดงว่าตอนที่จูบตอนนั้นก็ด้วย... อยากจะบ้าตายจริงๆ
"คือ... ผม..." ผมอ้ำอึ้งหาข้อแก้ตัวไม่ถูก ดวงตาซึ่งดูเหมือนกำลังถามอะไรบางอย่างจู่โจมผมตลอด
"ตั้งแต่เมื่อไหร่..." เขาถามด้วยสีหน้าจริงจัง ดวงตาเป็นประกายตอนที่หัวเราะเมื่อครู่หายไป
ผมนิ่งอึ้ง รู้สึกอย่างกับลมหายใจตัวเองจะหยุดเสียให้ได้ ไม่ไหวแล้วนะ... ตอนแรกก็ว่าอายแล้ว มาถึงตอนนี้หน้าแทบจะร้อนเป็นไฟ ผมจะตอบเขาว่าอย่างไรดี... ถ้าบอกความจริงไปเขาจะหัวเราะเยาะผมไหม แล้วถ้าพูดออกไป เขาจะคิดอย่างไรกับผม
เขานิ่งเหลือเกิน นิ่งฟังคำตอบที่ผมอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดซักที และผมก็แพ้สีหน้าแบบนั้น รู้สึกว่าน้ำตาเอ่อขึ้นมาจนภาพของเขาค่อยๆ เลือนลาง
"ตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้วครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่..." ในที่สุดผมก็ตอบออกไป
"เด็กบ้า" เขาเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ อ่อนโยนอย่างประหลาด "แค่นี้ต้องร้องไห้ด้วย... ฉันเลยรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแกล้งเด็ก"
เอ๊ะ...
ผมอึ้ง จับต้นชนปลายไม่ถูก... นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย ผมไม่อยากคิดอะไรเข้าข้างตัวเองในเวลานี้
"ถ้ารู้อย่างนี้ฉันคงไม่เสียเวลากลุ้มมากมายขนาดนั้น"
"ทำไมล่ะครับ"
ยังไม่ทันที่จะถามจบ ประตูห้องก็เปิดผลัวะเข้ามา
"ว้าย... ขอโทษค่ะ คือฉันกลับมาเอากระเป๋าเสื้อผ้าน่ะ ไม่คิดว่าคุณจะมีธุระอยู่" เสียงใสๆ ของคานาโกะซังดังอยู่ที่ประตู ทั้งผมทั้งมาซาฮิโระซังต่างก็สะดุ้งโหยงไปตามๆ กัน
"กระเป๋าคุณอยู่ห้องโน้น" มาซาฮิโระซังทำเสียงเซ็งๆ ใส่
"เปล่าค่ะ คือจริงๆ แล้วขนไปแล้ว... แค่จะมาทักทายคุณเท่านั้นเอง เห็นประตูไม่ได้ล็อคนี่" เธอทำท่าจะพูดอะไรต่อ ทว่า "ถ้างั้น... ฉันไปก่อนล่ะนะ โธ่เอ๊ย... คนที่ชอบ... ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง" ตามด้วยเสียงหัวเราะแบบร้ายๆ ของคานาโกะซังจนเธออกจากห้อง ไม่วายเปิดประตูเข้ามาล็อคห้องให้อีก
"มาซาฮิโระซัง... คู่หมั้นคุณ..."
"ช่างเขาเถอะ ผมกับเขาถอนหมั้นแล้ว"
"ทำไมล่ะครับ" หรือเพราะผมเข้ามาจุ้นจ้านตอนพวกคุณไม่อยู่...
"เพราะฉันมีคนที่รักอยู่แล้วน่ะสิ แล้วจะให้แต่งงานกับหล่อนได้ยังไง"
"เอ๋... คนที่รัก" ผมหน้าเจื่อน นี่ยังมีอีกเหรอเนี่ย
"นี่แกล้งโง่รึเปล่า ตอนนี้ฉันกอดใครอยู่ล่ะ"
ผมหน้าแดงขึ้นมา... ใครเขาจะไปกล้าคิดเข้าข้างตัวเองกันล่ะ ผมก็กลัวความผิดหวังเป็นนะ
ผมหลบตาของเขาที่จู่ๆ ก็ราวกับมีประกายไฟลุกขึ้นมา เขาจูบผมเบาๆ ที่หน้าผาก ถ้าเป็นความฝันก็อย่าให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างคราวที่แล้วอีกเลย

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1