Surechigai no kataomoi
ตอนที่ 12
"ความรักไม่ใช่สิ่งผิดปกติหรอกครับ
แต่คนมักจะคิดเอาเองว่าการรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งผิดปกติ จริงๆ แล้วสังคมต่างหากที่ผิดปกติ
เพราะไม่ยอมรับความรู้สึกดีๆ ที่ว่านี้ แต่กลับไปยอมรับการที่ผู้ชายนอกใจภรรยาทั้งๆ
ที่นั่นเป็นการทำร้ายจิตใจคนที่รักชัดๆ ผมคิดว่ามันยากนะครับที่เราจะพึงพอใจใครซักคนเป็นพิเศษ
ในโลกนี้มีคนเป็นล้าน การได้รักใครซักคนสำหรับบางคนต้องรอทั้งชีวิต
แล้วอย่างนี้เราจะปล่อยให้หลุดไปงั้นหรือครับ สำหรับผมแล้วการมีชีวิตอยู่โดยไม่ได้รักใครเลยต่างหากที่ผิดปกติ"
เป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังใครสักคนที่ไม่ใช่พ่อแม่หรือครูมาเทศนาถึงในห้องทำงาน
อย่างไรก็ตามก็ทำให้ผมโล่งใจได้ระดับหนึ่ง
จะว่าไปแล้ว ตลอดชีวิตของผม ผมมักจะเห็นข้อเสียของคนอื่นไปทั่ว และนำจุดนี้มาสร้างกำแพงระหว่าางตัวเองกับพวกเขา
มีเพียงจินัตสึเท่านั้น ที่ผมไม่เคยนึกถึงข้อเสียอย่างจริงจังเลย
ยิ่งกว่านั้นในทางตรงกันข้าม ผมอยากจะรู้ข้อเสียของเขา อยากรู้ทั้งหมดไม่ว่าแง่ดีหรือร้าย
และกลับคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งน่ารักไป เพราะนั่นคือตัวตนของจินัตสึ
เหมือนกับการที่ผมรู้ข้อเสียที่แก้ไม่ได้ของตัวเองแต่ก็ยอมรับมันเพราะมันคือตัวผม
แล้วทีนี้ผมจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ การเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองไม่ใช่ว่าจะทำให้มีความสุขเสมอไป
ผมไม่อยากทำลายอนาคตของเขา นี่ผมจะเห็นแก่ตัวรั้งเขาไว้ดี หรือจะเห็นแก่อนาคตแล้วปล่อยเขาไป...
เขายังเด็ก ถ้าเกิดผมไปให้ความหวังเขาตอนนี้ แล้วอีกหน่อยเขาเจอคนที่ดีกว่า
คนที่จะเสียใจก็คือผมเองไม่ใช่หรือ...
จินัตสึมาทำความสะอาดบ้านให้หลายวันแล้ว
ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าเขาต้องไปโรงเรียน ผมโทษตัวเองหลายครั้งที่น่าจะจ้างคนมาทำความสะอาดตอนกลางวัน
แต่อีกใจก็นึกเสียดายถ้าเขาจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว แม้ว่าผมจะไม่ได้เจอเขาก็ตาม
คานาโกะท่าทางจะเหนื่อยกับท่าทีของผม เราตัดสินใจนั่งจับเข่าคุยกันในวันสุดสัปดาห์
"ก่อนอื่น... ฉันมีเรื่องต้องขอโทษ ฉันปิดคุณมาตลอด จริงๆ แล้ว...
ฉันกำลังท้องได้ 2 เดือน"
ผมอึ้ง ไม่ได้แปลกใจเรื่องของเธอ แต่แปลกใจที่เธอมาบอกผมเองมากกว่า
"ฉันไม่ได้คิดจะปกปิดอะไรหรอค่ะ เพียงแต่คิดว่าพ่อฉันคงอยู่ได้อีกไม่นาน
ถ้าท่านเห็นฉันแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาไปก็คงดี ส่วนฉันเองก็่วางแผนหลอกให้คุณตกลงแต่งงานกับฉันให้ได้ก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยแอบหย่ากันก็ได้
อีกอย่างฉันก็อยากเลิกกับพ่อของเด็กในท้องให้มันเด็ดขาดไปเลยด้วย"
"พ่อของเด็กในท้อง..."
"เขาเป็นพนักงานในบริษัทที่พ่อไว้ใจให้มาดูแลตอนที่ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานแทนพ่อใหม่ๆ
เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก แต่เสียที่นิสัยเจ้าชู้ เขาหลอกฉัน เขาคิดจะแต่งงานกับฉันเพื่อหวังมรดกของพ่อ...
ฉันโง่เองค่ะ ฉันเด็กมาก คึกคะนองไม่เข้าเรื่อง มารู้ตัวอีกทีก็สายไปซะแล้ว
เขาบอกว่ารักฉันในขณะที่เขาก็รักใครอีกหลายคน หลังจากนั้นฉันก็เลยคิดว่าต้องเปลี่ยนตัวเองซะใหม่
ถ้าเราไม่ร้าย คนอื่นก็จะร้ายกับเราได้"
"จริงๆ แล้วคุณไม่เห็นต้องบอกผมเรื่องนี้เลย"
เธอทำตาโต
"เพราะผมไม่ได้คิดจะแต่งงานกับคุณตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ผมมีคนที่ผมรัก
ผมจึงแต่งงานกับคุณไม่ได้"
"อะไรกัน... ฉันไม่เห็นเคยได้รับรายงานเรื่องนี้เลย"
ผมยิ้มไม่ตอบอะไร
"เพราะไม่มีใครเคยรู้เรื่องนี้... แม้แต่ผม"
เธอทำหน้าเศร้านิดๆ เวลาทำหน้าแบบนี้ค่อยดูน่ารักขึ้นมาหน่อย
"น่าอิจฉาคนๆ นั้นจังเลยนะคะ"
"เพราะฉะนั้น เรื่องระหว่างเรา ขอให้เป็นจบแต่เพียงเท่านี้ได้มั้ย"
ไม่สิ... จะว่าไปก็ยังไม่ได้เริ่มอะไรด้วยซ้ำ
"ได้ค่ะ... อ้อ 2-3 วันนี่ฉันเห็นเด็กที่ชื่อจินัตสึแอบเข้ามาในห้องด้วยค่ะ"
เธอพูดยิ้มๆ แต่น้ำเสียงเหมือนฟ้องมากกว่า
"แม่บ้านผมเองน่ะ"
เธอหัวเราะคิกๆ เหมือนเด็ก
"ถ้างั้นเย็นนี้ฉันจะกลับบ้าน แล้วเรียกแม่บ้านคุณกลับมาได้แล้วนะคะ"
พูดจบเธอก็คว้าโทรศัพท์โทรเรียกใครสักคนซึ่งผมคิดว่าคงเป็นเลขาของเธอ
แล้วหยิบกระเป๋าถือเดินออกจากห้อง
"อ้อ...ลืมไป คุณเป็นผู้ชายที่ดีนะคะ" พูดจบก็เดินออกจากห้อง
ผู้ชายที่ดีงั้นเหรอ.... ผมส่ายหน้า