01      02      03      04      05      06      07      08       09       10       11       12       13       14       15       16      17
Peebee


My aliens friends

เพื่อนรักเพื่อนต่างดาว ตอน 1

"โธ่เว้ย แฮงค์อีกแล้ว น่ารำคาญจริงๆ…." ผมเอามือทุบโต๊ะคอมพิวเตอร์เสียงดัง เซ็งจริงๆ เกมกำลังมันส์แท้ๆ ผมกดปิดเครื่องคอมเครื่องเก่าของที่บ้าน คอมเครื่องของผมไม่ได้อัพเกรดมานานหลายปีแล้ว เรียกว่าตกรุ่นล้าสมัยมาก ทั้งๆที่พี่ชายของผมเองก็เป็นถึงด็อกเตอร์หนุ่มด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ หัวสมองเรียกได้ว่าเข้าขั้นอัจฉริยะ มีเงินเดือนค่อนข้างสูง ทำงานในสถาบันวิทยาศาสตร์ใหญ่โต พอผมพูดเรื่องนี้กับพี่ทีไรก็ได้แต่คำตอบว่า
"เล่นคอมมากๆทำไม ยังเด็กแค่นี้ เดี๋ยวไม่โตหรอก ออกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนนอกบ้านดีกว่า แสน" ด้วยเหตุผลข้อนี้นี่เอง ทำให้คอมของผมยังเป็น "อีแก่" อยู่ฉะนี้แล
ผมกับพี่มีสายเลือดเดียวกันแค่ครึ่งหนึ่ง แม่ของพวกเราแต่งงานใหม่สามครั้ง แต่งสองครั้งแรกก็มีเรื่องพ่วงติดมาสองลำก็คือผมกับพี่ สำหรับพ่อคนสุดท้าย แต่งกันได้ไม่ถึงปี แม่ก็มาด่วนจากไปด้วยโรคมะเร็ง ทำให้พ่อคนที่สามที่ยังหนุ่ม (หนุ่มไม่หนุ่มก็อายุต่างกับพี่ชายผมแค่ห้าปี) ไม่อยากรับภาระพวกเราต่อ
"ผมดูแลน้องผมได้ บ้านนี้ก็เป็นบ้านแม่ผม คุณออกไปใช้ชีวิตของคุณได้อย่างอิสระ ยังไงเราก็ไม่ได้มีสายเลือดเกี่ยวพันกัน พวกเราก็ไม่ได้ใช้นามสกุลคุณ" พี่ชายผมบอกพ่อเลี้ยงคนที่สามอย่างนั้น ซึ่งเขาเองก็ดีใจยอมรับข้อตกลง
"เบื่อ…น่าเบื่อ ทีวีก็มีแต่ละครหลังข่าวไม่เห็นสนุกเลย พี่ก็ไม่เห็นกลับสักกะที" ระหว่างที่กำลังนั่งบ่นนั่นเอง โทรศัพท์ที่บ้านก็ดัง
"ฮัลโหล แสนเหรอ นี่พี่ชัยเองนะ คืนนี้พี่ไม่กลับ บังเอิญงานที่สถาบันวุ่นน่ะ คงนอนคนเดียวได้นะ"
"ค้าบ….ไม่มีปัญหาคร้าบ ผมอายุจะสิบห้าแล้วนะพี่ อย่าคิดว่าผมเป็นเด็กซี่" ผมงอนนิดๆ พี่ผมชอบคิดว่าผมเป็นเด็กเสมอ
"จ้า จ้า … แค่นี้แหละ" ไม่รอผมพูดต่อ พี่ผมก็วางหูโทรศัพท์ปั๊บ สงสัยงานยุ่งจริงๆนั่นแหละ แต่ทันใดนั้นเองผมก็คิดอะไรขึ้นได้ ยิ้มออกมา พร้อมกับกระโดนขึ้นจากเก้าอี้
"ฮ้า….พี่ไม่กลับ อย่างนี้ก็แอบเข้าไปห้องพี่ได้สิ"
ถึงแม้คอมของผมจะล้าสมัย แต่คอมในห้องพี่ผมนั้นเรียกได้ว่าไฮเทค เทคโนโลยีสุดยอด ถึงแม้ห้องจะล็อคแต่พี่ก็ไม่รู้หรอกว่าผมแอบปั๊มกุญแจไว้ โฮ่..ผมเคยแอบเข้าไปเล่นสี่ห้าครั้งแล้ว โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เพราะไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่
ผมเปิดสวิทซ์เครื่องคอม พร้อมกับใส่พาสเวิร์ด กับลอกอินเข้าไป (อันนี้ผมก็แอบรู้อีก สมกับเป็นน้องผู้ประเสริฐจริงๆ )
"ฟล็อกจะอยู่มั้ยน้า…." ฟล็อกเป็นชื่อที่ผมเรียกชื่อเพื่อนทางอินเตอร์เนทของพี่ เรารู้จักกันตอนครั้งแรกที่ผมเข้ามาแอบเล่นเครื่องของพี่ โดยครั้งแรกผมเปิดโปรแกรมแปลกๆที่เข้าใจว่าเป็นเกม แต่แล้วก็ปรากฏชื่อของฟล็อกขึ้นมา แรกๆเขาก็ตกใจที่ผมไม่ใช่พี่ แต่พอคุยกันหลายครั้งเราก็สนิทกันขึ้น ฟล็อกเป็นคนแปลก ชอบคุยอะไรเพ้อฝันเรื่องต่างดาวมั่งล่ะ ยูเอฟโอมั่งแหละ แต่ผมก็ชอบเพราะตื่นเต้นประหลาดดี
"นั่นชัยหรือแสนน่ะ….." คำถามทางฝ่ายนั้นถามมา ผมพิมพ์ตอบไปว่า "แสนครับ…ทำอะไรอยู่"
"ฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะ อยากติดต่อกับชัย"
"พี่ไม่อยู่ครับ ทำงาน" ฝ่ายนั้นเงียบไปพักหนึ่ง ผมจึงพิมพ์ต่อ
"ปัญหาอะไรหรือครับ…ร้ายแรงหรือเปล่า"
"เอ่อ….ปัญหาส่วนตัวน่ะ….คือพ่อชั้นจะบังคับให้ฉันเข้าพิธีดูมาร์ "
"ดูมาร์….ไม่เห็นเคยได้ยินเลย เป็นพิธีอะไรน่ะ" ผมพิมพ์ถามไป ถึงแม้ผมจะพิมพ์คุยภาษาไทยกับเขา แต่ผมก็คิดว่าฟล็อกคงไม่ใช่คนไทย เพราะพูดจาแปลกๆหลายครั้ง แล้วบางทีก็บอกว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวบ้างล่ะ ที่พิมพ์เป็นภาษาไทยได้ก็เพราะเครื่องแปลภาษาที่เขามีอยู่บ้างล่ะ ผมคิดว่าเขาคงเป็นคนที่บ้าหนังสตาร์วอร์ หรือไม่ก็สตาร์เทรกน่าดูทีเดียว
"เอ่อ ก็เป็นพิธีคล้ายๆ พิธีแต่งงานมั้ง"
"อะไรกัน สมัยนี้ยังมีการคลุมถุงชนอีกเหรอ" ผมพิมพ์ตอบไป
"….คืออะไรน่ะคลุมถุงชน…ชั้นไม่เข้าใจ" ผมอธิบายตอบฟล็อกไป
"อืม เข้าใจแล้ว แต่ที่ดาวชั้นน่ะ พวกเราจะมีคู่พันธสัญญากันตั้งแต่เกิด เมื่ออายุถึงเกณฑ์ก็จะถูกให้เข้าพิธีดูมาร์กับคู่พันธสัญญา ด้วยเหตุผลที่ว่าจะต้องรักษาเผ่าพันธุ์และระดับสมองที่ดีเลิศไว้"
"แล้วคู่พันธสัญญาอะไรนั่นของเจ้าสวยหรือเปล่า" ผมถามด้วยความอยากรู้ ใจจริงผมไม่เชื่อเขาหรอก มันเรื่องบ้าชัดๆ แต่ฟังดูน่าสนใจดี
"ไม่เคยเห็นหน้าหรอก แต่ที่ชั้นไม่ชอบคือ ชั้นไม่อยากเข้าพิธีดูมาร์ ชั้นอยากเป็นนักผจญภัยอวกาศมากกว่า แล้วก็อยากมาที่โลกมาพบพวกเจ้าด้วย" เขาตอบมาให้ผมทึ่ง
"นักผจญภัยอวกาศ ฟังแล้วน่าสนุกจัง อย่างนี้ฟล็อกก็ต้องมียานอวกาศสิ"
"ตอนแรกไม่มี แต่ตอนนี้มีแล้ว" เขาตอบแล้วเงียบไป
"มีแล้วก็เป็นนักผจญภัยได้สิ ยานอวกาศนี่ต้องซื้อด้วยหรือเปล่า ต่างดาวนี้เขาก็ต้องใช้เงินด้วยใช่ไหม"
"ใช่….แต่ไม่ได้ซื้อหรอก ชั้นขโมยมา"
"หา…." ผมอึ้งไป
"พ่อชั้นทำงานศูนย์วิจัยอวกาศ เทคโนโลยีของดาวเราเจริญมาก ชั้นเองจึงได้เข้าออกสถานที่ต่างๆในสถาบันได้ เมื่อวานชั้นตัดสินใจขโมยยานอวกาศรุ่นใหม่ล่าสุดแล้วหนีออกมา"
"ฮ้า แล้วอย่างนี้ไม่มีคนตามทวงคืนเหรอ"
"มี…แต่ตอนนี้หนีออกมาจากดาวแล้ว กำลังเข้าสู่วงโคจรของโลกของแสนแล้ว"
"โลก…ฟล็อกจะมาพบพวกเราเหรอ" ผมรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย ช่างสรรหาเรื่องมาเล่าจัง
"….อือ ชั้นจะไปพบพวกแสนได้ใช่ไหม"
"ได้สิ ผมเองก็อยากพบฟล็อกเหมือนกัน"
"ถ้าแสนเต็มใจก็ไม่มีปัญหา คงประมาณไม่กี่วันชั้นคงจะถึงชั้นบรรยากาศของโลก ไว้เราจะไปหาพวกนายนะ แค่นี้ก่อนล่ะ เพราะชั้นยังมีปัญหากับยานลำนี้อยู่บ้าง ไว้พบกันที่โลก" ว่าแล้วสัญญาณจากฟล็อกก็หายไป ผมเองก็นั่งอึ้งอยู่
"ไม่ได้บอกที่อยู่ไปสักหน่อย แล้วจะมาได้ยังไง เราคุยกับคนเพี้ยนหรือเปล่านี่" ผมพึมพำกับตัวเอง ว่าแล้วก็ปิดเครื่องคอมของพี่กลับเข้าไปนอนในห้องตัวเอง

หลังจากนั้นไม่นาน ผมเองก็ลืมเรื่องที่คุยกับฟล็อกไปเพราะเป็นช่วงใกล้สอบ ต้องเตรียมอ่านหนังสือ แถมตอนเย็นก็ยังไปนั่งห้องสมุดในโรงเรียนจนกระทั่งปิดแล้วค่อยเดินกลับบ้าน
"แสน น้องแสนจ๋า ไปไหนหรือจ๊ะ" เสียงกวนอวัยวะเบื้องต่ำดังขึ้นมาข้างๆตัวผม กลุ่มรุ่นพี่สามคนเดินเข้ามาล้อมไว้
"กลับบ้าน" ผมตอบแบบไม่มองหน้า ก้มหน้างุดๆ เดินตามถนนเรื่อย รุ่นพี่กลุ่มนี้ชอบมาเจ๊าะแจ๊ะกับผมเรื่อยซึ่งผมไม่เคยชอบ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมชอบมาตอแยผมนัก
"ไว้พี่ไปส่งมั้ยจ๊ะ น้องแสนคนสวย" รุ่นพี่คนเดิมถามผมอีก
"ไม่ต้อง แล้วผมก็เป็นผู้ชายไม่ต้องมาสงมาสวยอะไรเลย" ผมตะคอกด้วยความโมโห
"เฮ้ย….แกทำน้องแสนเค้าโมโหแล้วเห็นไหม แต่แหม โกรธก็ยังน่ารักนะจ๊ะ" เพื่อนของรุ่นพี่คนนั้นพูดข้ามหัวผม จนผมทนไม่ไหว ยกกระเป๋าฟาดแขนที่ทำท่าจะเข้ามาจับไหล่ผม
"เลิกยุ่งกับผมซะที พวกพี่ต้องการอะไร ผมไม่ชอบนะ" ผมพูดด้วยความโมโหผสมความกลัว รุ่นพี่กลุ่มนั้นเข้ามาล้อมผมไว้
"แหม โมโหร้ายซะด้วยนะ คือว่าพี่วีร์ เข้าเห็นน้องแสนน่ารัก เลยอยากจะขอเป็นแฟนด้วยก็แค่นั้นเอง" พูดจบก็เบือนหน้าไปหารุ่นพี่ที่ถามผมคนแรกว่าจะไปไหน
"บ้าเหรอ ผมเป็นผู้ชายนะ จะมีแฟนเป็นผู้ชายได้ไง" ผมถึงขึ้นเอ๋อกิน
"ไม่เห็นเป็นไรเลย น้องแสนน่ารักซะอย่าง พี่ชอบ" รุ่นพี่ที่ชื่อวีร์ตอบ แถมเข้ามาลูบหน้าผมอีก ผมสะบัดหน้าหนี
"วิปริต บ้ากันไปหมดแล้ว ไปให้พ้นๆเลยนะ" ผมตะโกน น้ำตาเริ่มไหล
"แหม น้องแสนก็แค่ตอบตกลงกับพี่ก่อนก็แค่นั้น"
ด้วยความที่ตอนนี้ค่อนข้างดึก แล้วถนนที่เดินอยู่ก็ไม่ค่อยมีคนเดินอยู่แล้วด้วย รุ่นพี่คนนั้นจึงกล้าเป็นพิเศษพยายามฉุดมือผมไว้ ส่วนอีกสองคนก็ส่งเสียงเฮกัน ผมพยายามจะร้อง แต่แล้วรุ่นพี่อีกคนก็ปิดปากผมไว้ ทันใดนั้นเอง ลำแสงสีฟ้าประหลาดก็ส่องตรงมาที่พวกเรา
"เฮ้ย..นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย บ้านไหนเปิดสปอร์ตไลท์ฟะ…" แต่แล้วพวกเราก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อเห็นบนท้องฟ้าสีดำมี วัตถุประหลาดทรงกลมเรืองแสงขนาดใหญ่ลอยอยู่
"แว้ก..ผะ ผีหลอก….." รุ่นพี่สามคนวิ่งหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทาง ส่วนผมเองเข่าอ่อนทรุดลงตรงพื้นนั่นเอง ผ่านไปสักพักวัตถุนั้นก็เริ่มจางหายไป แต่ผมเองก็ลุกไม่ไหวเหมือนกัน จนกระทั่งได้ยินเสียงแตรรถบีบใส่ผม "ปี๊น ๆๆๆ"
"แสน นั่นแสนใช่ไหมเนี่ย มานั่งอะไรกลางถนน อันตรายนะ" คนขับเดินลงมาจากรถ "เกิดอะไรขึ้นน่ะ"
ผมวิ่งเข้าไปหาเมื่อมองเห็นว่าเป็นพี่ชาย
"พี่ชัย ผมเห็นยูเอฟโอ" ผมบอกพี่ทันที ตอนนั้นเรื่องของรุ่นพี่กระเด็นออกจากหัวไปหมดแล้ว ด้วยเรื่องหลังที่ตื่นเต้นกว่า
"ว่าไงนะ…รูปร่างเป็นยังไง" พี่ชายผมทำท่าสนใจกระทันหัน
"ก็…เอ่อ…." ผมยังไม่ทันอธิบาย ก็รู้สึกถึงแสงประหลาดนั่นอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นสีเหลือง ผมกับพี่รีบเงยหน้าขึ้นมอง วัตถุนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้นกว่าเดิม แล้วผมก็รู้สึกว่าตัวลอยขึ้นจากพื้นดิน ผมรีบกอดพี่แน่น….วัตถุประหลาดนั้นดูดตัวพวกเราสองคนขึ้นไป!!!!!!! ผมหลับตาปี๋

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1