My aliens friends
ตอนที่ 9
"อะไรน่ะ พี่กับฟล็อกหายตัวไปงั้นหรือ"
ผมร้องอย่างตกใจเมื่อฟังเรื่องจากคนสนิทของอาร์ดีน ผมพึ่งกลับมาจากโรงเรียนยังไม่หายเหนื่อยก็ได้ข่าวที่น่าตกใจเสียแล้ว
"หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่" อาร์ดีนถามเสียงเครียด
"ก็คงประมาณสายๆของวันนี้แหละ ทีแรกพวกผมนึกว่าคุณชัยกับฟล็อกเดินเล่นอยู่ในสวน
แต่หลังจากนั้นหาจนทั่วก็ไม่เห็นแม้แต่เงาจนถึงตอนนี้เลยครับ"
ทหารคนนั้นรายงาน อาร์ดีนชำเลืองหางตามองผมแวบหนึ่ง
"ก็หายไปเกือบค่อนวันแล้ว ลองออกไปค้นนอกเมืองหรือยัง ดูแถวๆชายป่าด้วย"
อาร์ดีนออกคำสั่ง ทหารคนนั้นรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ได้ยินแต่เสียงลมหายใจดังสลับกัน
ผมพยายามคิดว่าพี่กับฟล็อกคงแอบออกไปทำอะไรนอกเมืองที่ไม่อยากให้อาร์ดีนรู้เป็นแน่
แต่ก็เป็นห่วงอยู่ลึกๆ เพราะว่าออกไปนานมากแล้ว
ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงไม่มีใครพูดอะไร แต่ทหารคนเดิมวิ่งกระหืดกระหอบมารายงาน
"ท่านอาร์ดีนครับ พวกชนเผ่าหลังหุบเขาบาร์แดนมันเข้ามาทางชายป่าอีกแล้วครับ"
อาร์ดีนลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ
"ไอ้พวกไร้อารยธรรมมันเข้ามาอีกแล้วรึ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า
ชัยกับฟล็อกล่ะ" อาร์ดีนถามอย่างเป็นห่วง ผมเองก็หน้าซีด
"เอ่อ....เอ่อ....พวกเราหาคุณชัยกับฟล็อกไม่พบครับ แต่.."
เสียงอ้ำๆอึ้งๆ ของทหารทำให้อาร์ดีนรำคาญ
"ทำไม..แต่อะไรอีกเล่า" อาร์ดีนคำราม เขาเองก็เครียดเหมือนกัน
"เราพบศพของพวกหลังหุบเขาบาร์แดนสี่ศพทางด้านป่าโปร่งหลังตัวเมือง
มีร่อยรอยการต่อสู้ รอยเลือด..แล้วก็..." ทหารคนนั้นหยุดไปสักพักก่อนที่จะหยิบเศษโลหะที่บิดเบี้ยวกับเศษกระจกแตกๆขึ้นมา
พอผมเห็นแค่นั้นผมก็วิ่งเข้าไปดูทันที แว่นตาของพี่!!!! ถึงแม้จะยับเยินแต่ผมก็จำได้ติดตาว่าเป็นแว่นที่พี่ใส่ประจำ
แว่นยังเป็นขนาดนี้แล้วเจ้าของล่ะ พอคิดได้เท่านี้ผมก็หน้ามืดวูบไป
ยังดีที่อาร์ดีนเข้ามารับได้ทันก่อนที่หัวจะฟาดพื้น
"เรียกแม่หมอมาดูอาการเมรันอาหน่อย" เสียงอาร์ดีนตะโกนสั่งคนของเขา
ผมสลบไปนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนผมรู้สึกตัว มีมือใหญ่สัมผัสใบหน้าผมอย่างแผ่วเบา
เกลี่ยผมที่ระหน้าผากไปอีกทาง ผมครางเสียงเบาพร้อมกับพยายามลืมตามอง
ร่างที่จับผมอยู่ร้องอย่างดีใจ
"แสน เป็นไงบ้าง รู้สึกเป็นไง เดี๋ยวชั้นเรียกแม่หมอมาดูอาการอีกทีนะ"
เสียงอาร์ดีนเรียกคนข้างนอก ผมพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง อาร์ดีนก็เข้ามาช่วย
ประคองหัวผมซบกับไหล่กว้างของเขา ก่อนที่ผู้หญิงร่างท้วมอายุมากคนหนึ่งเดินเข้ามา
"เมรันอาฟื้นแล้วหรือค่ะ...ไม่ต้องเป็นห่วงมาหรอกค่ะท่านอาร์ดีน
เพียงแค่ตกใจกับช็อกเท่านั้นเอง ตัวท่านเองต่างหากที่น่าเป็นคนป่วยมากกว่า...."
เสียงบ่นชะงักไปเมื่ออาร์ดีนยื่นมือขึ้นห้ามไม่ให้พูดต่อ
"เอาเถอะ ให้มาดูคนป่วยก็เข้ามาดูหน่อย เซียร่า" อาร์ดีนกวักมือเรียกแม่หมอร่างท้วม
ร่างนั้นเดินเข้ามาจับๆผมสักพัก
"อืม ตัวรุมๆนิดหน่อย เดี๋ยวอิชั้นออกไปจัดยามาให้เมรันอาดื่มก็แล้วกัน"
พูดจบก็เดินอุ้ยอ้ายออกไป
"ผมสลบไปนานเท่าไหร่..." ผมถามฝ่าความเงียบออกมา
"ก็คืนกับวันเต็มๆ..." อาร์ดีนตอบผม
"แล้วพี่ล่ะ..." ผมถามเสียงสะอื้น
"ยังหาไม่พบเลย..." อาร์ดีนตอบอย่างกังวล ทหารของเขารายงานว่าพบศพพวกหลังหุบเขาถึงสี่ศพ
เสียชีวิตโดยที่ร่างกายแทบจะหาบาดแผลไม่พบ ธรรมดาพวกหลังหุบเขาเป็นนักรบโหดร้าย
ป่าเถื่อน ทรหด แม้แต่เขาเองถ้าให้ฆ่าทีเดียวถึงสี่คนก็คงจะเกินแรงเหมือนกัน
ใครเป็นคนฆ่าพวกนั้น แล้วฟล็อกกับชัยหายตัวไปไหน อาร์ดีนนึกฉงนในใจ
เพียงคำตอบแค่นี้น้ำตาผมก็ทะลักออกมา อาร์ดีนรีบดึงตัวผมเข้าไปกอด
ลูบหัวผมเบาๆ
"ไม่เอานะแสน อย่าร้องไห้สิ นายยังมีฉันอยู่นะ" ร่างนั้นพยายามปลอบ
แต่ผมก็ยังไม่หยุดร้องไห้ ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายกอดอาร์ดีนซะแน่น น้ำตาซึมใส่เสื้อฝ่ายตรงข้ามจนชื้นเป็นปื้นๆ
สำหรับผมพี่เป็นทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกัน ผมอยู่กับพี่สองคนมาตั้งแต่ผมอายุสิบสองจนตอนนี้สิบห้าแล้ว
ถึงจะมีสายเลือดเดียวกันแค่ครึ่งเดียว แต่ผมว่าพวกเราสองคนก็รักกันมากกว่าพี่น้องแท้ๆบางคู่เสียอีก
และถ้าผมเสียพี่ไปจริงๆ....
แม่หมอเซียร่าเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยใส่ยาต้มสีขาวขุ่นๆ อาร์ดีนยื่นมือไปรับก่อนจะส่งสัญญาณให้แม่หมอเดินออกไป
ผมรับยามาดื่มอย่างเลื่อนลอย แทบไม่รู้รสสิ่งที่เข้าปากไป อาร์ดีนทำท่าจะลุกขึ้น
แต่ผมดึงแขนเขาไว้
"อย่าไป....อยู่เป็นเพื่อนผมก่อน อย่าทิ้งผมไปนะ....ผมกลัว"
"ชั้นไม่ไปไหนหรอกนะแสน จะอยู่ใกล้ๆแสนนี่แหละ" เสียงนุ่มๆตอบพร้อมกับโอบผมเข้าไป
ผมสังเกตเห็นนาฬิกาของผมติดอยู่ที่ข้อมือของอาร์ดีน
ถึงตอนนี้ผมเองก็รู้สึกอบอุ่นในใจลึกๆ
ความเจ็บปวดทำให้ชัยรู้สึกตัว
เขาพยายามลืมตาขึ้นสู้แสง จนเมื่อสายตาเริ่มคุ้นเขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องสีขาว
มีครอบแก้วประหลาดครอบตัวเขาอยู่ เมื่อพยายามยกมือขึ้นก็เจ็บแปลบที่หัวไหล่
ใช่แล้ว!! เขาถูกแทง !! เมื่อทบทวนความคิดย้อนไป เขาจำฟล็อกที่ตะโกนด่าพวกหลังหุบเขาบาร์แดนได้
เขาจำความเจ็บปวดตอนที่หอกแทรกผ่านเนื้อเขาแล้วหมดสติไปได้ ชัยพยายามออกเสียง
แต่ลำคอเขาแห้งผากแถมร้อนยังกับไฟ เพียงแค่ขยับนิดเดียวก็รู้สึกเหนื่อยหอบแล้ว
"ชัย ชัยได้สติแล้วใช่ไหม" เสียงอุทานดังขึ้น ร่างเล็กผมสีเขียวยิ้มอย่างดีใจ
วิ่งเข้ามาพร้อมกับกดปุ่มเปิดครอบแก้วออก เข้ามาประคอง
"น้ำ...." ชัยพยายามออกเสียงจนได้....ฟล็อกได้ยินก็ยื่นแก้วน้ำข้างตัวเขามาจ่อที่ปากชัย
แต่ด้วยความที่ไม่มีแรง น้ำจึงแทบไม่ได้เข้าปาก หกรดตัวเต็มไปหมด
ฟล็อกยิ้มมุมปากนิดๆก่อนที่เขาจะยกแก้วน้ำขึ้นกรอกเข้าปากตัวเอง
โดยที่ชัยยังงงอยู่ ฟล็อกเลื่อนตัวเข้ามาประกบปากชัย ความชุ่มฉ่ำไหลผ่านลำคอลงไป
คนถูกป้อนน้ำตะลึงไปสักพัก แต่ก็อ่อนแรงจนไม่ได้ต่อต้านอะไร กลับมีความรู้สึกแปลกๆเข้ามาแทนที่
แม้น้ำจะถูกป้อนไปหมดแล้วแต่ปากของทั้งคู่ก็ยังประกบกันอย่างดูดดื่ม
จนในที่สุดฟล็อกก็เป็นฝ่ายถอนตัวออกไป
"รู้สึกเป็นยังไงบ้างชัย...นายกระดูกหักสองท่อน ฟกช้ำทั่วตัว
แล้วยังถูกแทงที่ไหล่กล้ามเนื้อฉีกอีกด้วย แถมหลังจากนั้นยังมีไข้หนักอีก"
ร่างเล็กถามด้วยความเป็นห่วง พร้อมรายงานอาการป่วยเสร็จสรรพ ตอนนี้ชัยถึงสังเกตฝ่ายตรงข้าม
ฟล็อกซูบไป ขอบตาช้ำ บางทีร่างเล็กอาจจะดูแลเขาจนแทบไม่ได้นอนเลยก็ได้
"ชั้นสลบไปกี่วันน่ะ..." ชัยถามอย่างงงๆ เพราะตอนนี้ถึงแม้เขาจะอ่อนแรงแต่แผลก็สมานกันไปหมดแล้ว
ความเจ็บปวดก็ลดลงกว่าเดิมมาก แล้วยิ่งเมื่อพอได้น้ำก็รู้สึกกำลังวังชากลับมา
"วันนี้เป็นวันที่สี่แล้ว...ชัยไม่ได้สติมาตลอด" ฟล็อกเริ่มน้ำตาไหล
"ผมเอายาที่มีบนยานให้ชัยกิน พร้อมกับพยายามพันแผลให้ พาชัยมาที่ห้องปลอดเชื้อนี่
แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลเท่าไหร่"
"ชั้นถูกแทง...แล้ว.."
"ตอนชัยถูกแทงผมตกใจแทบแย่..ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรเป็นอะไร
แต่มิธยิงเลเซอร์มาใส่พวกนั้น!! เหมือนกับว่ามิธรู้ว่าผมตกอยู่ในอันตราย
พวกนั้นตายไปสี่คน ส่วนพวกที่เหลือก็วิ่งกระจัดกระจายหายไป ผมจึงพาชัยเข้ามาที่นี่....ผมเอายา...เอ่อ...ผมบอกให้มิธเชคร่างกายชัย..แล้วก็.."
ฟล็อกเริ่มพูดไม่ต่อเนื่องกันด้วยเพราะเสียงสะอื้นปนกับน้ำตา
ชัยรับฟังพร้อมกับปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมด หมายความว่าหลังจากนั้นมิธได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้
ฟล็อกพาเขามารักษาตัวที่ยานพร้อมกับใช้ยาที่เขามี แน่นอนว่ายาในอนาคตย่อมต้องดีกว่ายาในยุคนี้แน่
มิน่าเขาจึงรู้สึกดีขึ้นมากแค่เพียงสี่วันเท่านั้น เดี๋ยวก่อน สี่วัน...พวกเขาหายตัวไปสี่วันแล้วใช่ไหม
พวกในเมืองมิเป็นห่วงเขาแย่รึ โดยเฉพาะแสน!! ชัยยกมือขึ้นดันแว่นด้วยความเคยชิน
แต่แล้วเขาก็พบว่าตัวเองไม่ได้ใส่แว่น แต่เขากลับเห็นทุกอย่างกระจ่างเหมือนปกติ
"สายตาชั้น..." ชัยพูดอย่างงง
"ตอนให้มิธตรวจร่างกายดูเหมือนมิธจะปรับสายตาให้ชัยด้วยเลย
เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำให้สายตาเป็นปรกติได้" ฟล็อกพูดขณะเตรียมยาอยู่
"นายได้กลับไปที่บาร์นาเดียบ้างหรือเปล่า" ชัยถามต่อ
"ผมไม่ได้กลับไปหาใครเลย ได้แต่ดูแลชัยอยู่ที่นี่" ฟล็อกตอบ
ชัยถอนหายใจ ถ้าเป็นเขาเขาคงจะหาทางติดต่อกลับไปแน่ เพราะว่ากลัวคนอื่นจะเป็นห่วง
แต่อีกใจก็รู้สึกอบอุ่น ฟล็อกเป็นห่วงเขาจนไม่ได้หลับนอน เขาเองไม่มีใครมาดูแลหรือเป็นห่วงกังวลมานานเท่าไหร่แล้วนะ
เขาต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ตั้งแต่เรียนจบมหาลัย ดูแลน้อง ทำงานหนัก...ตอนเจ็บไข้ก็ได้แต่ดูแลตัวเอง
"ชัยโกรธผมเหรอ...ที่ผมไม่ได้ติดต่อใคร" ฟล็อกหน้าเสียเมื่อได้ยินเสียงชัยถอนหายใจ
เขาทำอะไรผิดอีกสิแล้วสิเนี่ย ชัยส่ายหัว
"ไม่หรอก..ชั้นจะไปโกรธนายได้ยังไง มีแต่ต้องขอบใจนายถึงจะถูก
ที่ดูแลชั้นอย่างดี..." ชัยยิ้มให้อย่างจริงใจ ฟล็อกยิ้มพร้อมยื่นยากับน้ำส่งให้
"ได้เวลากินยาแล้วฮะ ถึงบาดแผลภายนอกกับกระดูกจะประสานกันแล้วก็ตาม
แต่ว่าอาการไข้ยังไม่หายสนิท ชัยคงต้องกินยาต่ออีก"
"ธรรมดานายให้ชั้นกินยายังไงตอนที่ไม่ได้สตินะ" ชัยรับยาที่ฟล็อกส่งมา
มีทั้งยาน้ำแล้วก็ยาเม็ด เขากินยาเม็ดก่อนแล้วก็ค่อนดื่มยาน้ำที่รสชาติขมปี๋ตามไป
"เอ่อ...ก็..." ร่างเล็กเริ่มหน้าแดง พูดอึกอัก ใครจะกล้าบอกว่าเขาให้ยาชัยวิธีเดียวกับที่ป้อนน้ำวันละสามครั้งตลอดสี่วัน
ชัยยิ้มรู้ทัน
"นายรู้หรือเปล่าว่ายานี้รสชาติแบบไหน" ชัยถาม ฟล็อกตอบงงๆ
"ก็ต้องรู้สิในเมื่อผมชิมก่อนตลอด...." ฟล็อกอึ้งไปรีบเอามือปิดปากเมื่อรู้ตัวว่าโดนหลอกให้พูด
"ยามันก็ต้องขมอยู่แล้ว"
"แต่ชั้นว่ายานี้มันหวานนะ...." ร่างสูงพูด ฟล็อกอ้าปากทำท่าจะเถียง
ชัยก็ถือโอกาสดึงร่างเล็กที่นั่งค่อนข้างชิดเข้ามาจูบ ร่างเล็กงงในทีแรก
แต่ด้วยความคุ้นเคย (แน่ละ จูบมาตลอดสี่วันไม่คุ้นได้ไง) รสชาติขมปะแล่มๆของยาแทรกผ่านปลายลิ้นสู่ปลายลิ้น
ให้ความรู้สึกแปลกๆ ฟล็อกเริ่มเพลิดเพลิน เขายกมือโอบรอบคอของชัยไว้
มือประคองศีรษะฝ่ายตรงข้าม รสยาเริ่มจางหายไป รสอื่นเริ่มเข้ามาแทนที่
ลิ้นของชัยสำรวจทั่วปากของเขา ฝ่ายฟล็อกเองก็ตอบสนองอย่างเต็มที่
ร่างสองร่างแนบชิดจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ผ่านไปสักพักชัยก็ถอนปากออก
เขาจ้องตาฟล็อก
"ยามันหวานหรือขมล่ะ...."