My aliens friends
ตอนที่ 15
"แสน" อาร์ดีนหน้าซีด
แสนยังโมโหเขาอยู่แน่ๆ
"ไม่ยกโทษให้ เพราะว่าไม่รู้ว่าจะยกโทษให้เรื่องอะไร"
แสนหันมามองเขา
"ก็เรื่อง...ที่ชั้นขอยกเลิกสัญญากับแสน.."
"นั่นไม่เห็นจำเป็นต้องขอโทษผมนี่ อาร์ดีนไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
ถ้าอยากเลิกก็บอกกันตรงๆ ผมไม่ว่ากันอยู่แล้ว" แสนพูดเนือยๆ
"ผมมันเด็กนี่"
"ไม่ใช่...ชั้นไม่ได้อยากเลิกนะ" ตอนนี้อาร์ดีนพูดเสียงค่อนข้างดัง
"ชั้นแค่...ชั้นแค่...แค่..."
"แค่อะไร" ผมถาม จริงๆหลังจากที่ผมออกมาจากห้องผมก็พอเดาได้หรอก
ว่าอาร์ดีนพูดเพราะเข้าใจผมผิด แต่ผมเคืองเขาตรงที่ไม่ยอมรับฟังผมก็เท่านั้น
ความน้อยใจมันประดังกันเข้ามา
"แค่รักแสนมากไปเท่านั้น"
"พรืด..." ถึงตอนนี้ผมแทบสำลักกับคำพูดที่คาดไม่ถึง ตอนแรกผมโกรธอาร์ดีนมากเหมือนกัน
แต่ตอนนี้จากโกรธจะกลายเป็นขำเสียมากกว่า พูดออกมาไม่อายปากเลย..
"ชะ ชั้นคิดว่าแสนจะมาบอกลาชั้นนะ...ชั้นโมโหก็เลยบอกไปแบบนั้น.."
"ก็ทำไมอาร์ดีนไม่รอให้ผมพูดให้จบก่อน" ผมต่อว่า หันหน้าไปมองเขา
"ก็ชั้นไม่อยากได้ยินคำลา...." อาร์ดีนทำท่าหงอยๆ
ถึงตอนนี้ผมเพิ่งสังเกตเห็นรอยช้ำบนใบหน้าของอาร์ดีน รอยใหญ่ทีเดียวเริ่มบวมเล็กน้อยแล้วด้วย
"หน้าไปโดนอะไรมา..." ผมถามด้วยความเป็นห่วง
"ก็ถูกพี่เขยฝากรอยรักเอาไว้น่ะ...." อาร์ดีนพูดติดตลก
ผมยิ้มออกมาได้
ผมล้มตัวลงนอนดูดาวเหมือนเดิม เอามือตบที่ข้างๆตัว ให้อาร์ดีนลงมานอนเหมือนกัน
"ที่เอรันเทร่านี่มีนิทานที่เกี่ยวกับดวงดาวหรือเปล่า"
ผมมองพร้อมกับชี้ไปที่ท้องฟ้า มองดวงดาวที่เรียงตัวเป็นรูปร่างต่างๆ
"ก็มีตำนานดาวเจ้าหญิงกับอัศวินน่ะ....เจ้าหญิงผู้เลอโฉมหลงรักกับอัศวินผู้ต่ำต้อย..พระราชาไม่พอใจจะหาทางกำจัดอัศวินโดยมอบหมายงานสุดแสนยากลำบากให้ทำ...โดยมีข้อแม้ว่าถ้าทำสำเร็จจะยกเจ้าหญิงให้
อัศวินรับปากทำงานซึ่งต้องเสียเวลาถึงเจ็ดปี...ระหว่างนั้นพระราชาหลอกเจ้าหญิงว่าอัศวินได้ทอดทิ้งเธอไปมีรักใหม่
เจ้าหญิงเสียใจมากจนฆ่าตัวตาย เวลาผ่านไปเจ็ดปีอัศวินกลับมาพร้อมความสำเร็จแต่ทว่าไม่มีเจ้าหญิงที่เขารักอีกแล้ว....อัศวินจึงกระโดดหน้าผาตายตามเจ้าหญิงที่เขารักพร้อมกับอธิษฐานบอกว่าความรักของเขาจะไม่มีวันตาย...."
พูดจบอาร์ดีนก็ชี้มือไปที่กลุ่มดาวบนท้องฟ้า
"กลุ่มดาวตรงนั้นคือหน้าผา...ส่วนตรงนั้นก็คือกลุ่มดาวเจ้าหญิง
ส่วนกลุ่มดาวที่อยู่ใกล้ๆดาวเจ้าหญิงก็คือดาวอัศวิน" ผมมองตามด้วยความสนใจ
ดวงดาวพวกนั้นก็มีรูปร่างคล้ายอัศวินถือดาบกับเจ้าหญิงนุ่งกระโปรงยาวจริงๆเสียด้วยสิ
"ตอนเด็กๆผมเคยคิดจะนับดาวบนท้องฟ้าว่ามีอยู่กี่ดวง....แต่ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง
เพราะว่าผมนอนหลับก่อนที่จะนับเสร็จทุกที..."ผมพูดติดตลก "ผมคิดเสมอว่าคนเราก็มีนับล้านคนเหมือนดาวบนท้องฟ้า...แต่หนึ่งในล้านนั้นก็คือคนที่จะมาเป็นเนื้อคู่เรา...เนื้อคู่แห่งโชคชะตา.."
"ถ้าแสนเป็นเจ้าหญิงของผม...ก็เป็นเจ้าหญิงที่ข้ามเวลามากว่าพันปี
แถมมาจากดาวดวงอื่นด้วย" อาร์ดีนพูดเบาๆ "แสนอย่ากลับเลยนะ..."
ผมถอนหายใจ
"งั้นคราวนี้อาร์ดีนจะยอมให้ผมพูดจนจบหรือเปล่า...."
ช่วงที่ทั้งแสนและอาร์ดีนกำลังมีความสุขนั่งนอนมองดูดาวคุยกันจนเกือบรุ่งเช้านั้นเอง
อาร์ดีนลืมไปเลยว่าเขาได้ทิ้งคนหลายสิบคนไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน...
เมื่อใกล้รุ่งอาร์ดีนกับแสนเดินกลับไปที่ห้อง เมื่ออาร์ดีนเปิดประตูห้องเขาออกมา
ก็พบชัยกับฟล็อกนั่งรออยู่ ชัยตาคล้ำเพราะอดนอนแล้วก็เป็นห่วงน้องชายตัวเอง
ฟล็อกเองก็ดูย่ำแย่เช่นเดียวกัน เมื่อชัยเห็นแสนกลับมาก็รีบลุกขึ้นเข้าไปหา
"แสน เป็นอะไรหรือเปล่า หายไปไหนมาทั้งคืน พี่ตามหาแทบแย่"
แสนหันไปสบตาอาร์ดีนสักพัก ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบว่าไม่ได้ไปไหนไกล แค่นั่งคุยกับอาร์ดีนอยู่ในสวน
ชัยมองหน้าน้องชายตัวเองกับคนที่ทำหน้าระรื่นอยู่ ก็พอเดาได้ว่าคืนดีกันแล้ว
ด้วยความหมั่นไส้ ชัยเข้าไปขัดขาคนตัวใหญ่จนล้ม ร้องโอดโอยเพราะว่าซ้ำแผลเดิมเข้าให้
"โทษฐานที่ปล่อยให้พวกเราเป็นห่วงแล้วก็ไม่ได้นอนทั้งคืน"
ชัยเดินเข้าไปดึงฟล็อกออกมา
" ชั้นไปแล้ว ไม่ขอรบกวนพวกนายก็แล้วกัน ง่วง"
"อาร์ดีนเป็นอะไรมากหรือเปล่า" ผมเข้าไปช่วยพยุงอาร์ดีนให้ลุกขึ้นมา
"เปลี่ยนกางเกงก่อนเถอะ เลือดเลอะเต็มไปหมดแล้ว" เลือดที่ผมเห็นนั้นเป็นเลือดที่เปื้อนมาตั้งแต่ช่วงตอนที่อาร์ดีนเตะโต๊ะจนแผลแตก
ซึ่งที่จริงแห้งไปแล้ว แต่ตอนนี้เริ่มไหลใหม่เนื่องจากที่ล้มเพราะถูกชัยขัดขา
"ชัยนี่ก็โมโหร้ายเหมือนกันนะ ชั้นน่วมไปหมดทั้งตัวแล้ว ทั้งหน้าทั้งขา"
อาร์ดีนพูดพึมพำ ผมได้แต่ยิ้มมุมปาก
"ที่จริงพี่น่าจะทำแรงกว่านี้อีก...คนรังแกน้องชายจะได้ไม่ต้องมีแรงบ่น"
ผมเข้าไปพยุง หัวเราะเห็นฟันขาว อาร์ดีนมองตะลึงอยู่สักพัก พอผมพาอาร์ดีนไปที่เตียงได้
คนตัวใหญ่กลับฉุดให้ล้มลงไปด้วยกันบนเตียง
"ทำอะไรนะ อาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนเถอะ เลอะเทอะไปหมดแล้วทั้งดินทั้งโคลนจากสวน"
"ก็จะรังแกคนน้องจริงๆสักทีไง.." คนตัวใหญ่กระซิบข้างหูเบาๆ
ไม่สนแผลตัวเอง แถมยังมาขบหูผมเล่นด้วย ผมขนลุกซู่ ร่างใหญ่กอดรัดผมที่ทับอยู่ข้างบนแนบแน่น
จูบไล่จากหูลงมาที่แก้มก่อนที่จะระเรื่อยมาหยุดมองที่ริมฝีปากแดงระเรื่อ
ก่อนจะครอบครอง มาคราวนี้ผมไม่ได้ว่าอะไรมาก จูบตอบอาร์ดีนไปแบบกล้าๆกลัว
พัวพันลิ้นที่เริ่มเข้ามาสำรวจในปาก พร้อมกับเสียงครางเบาๆที่ลอดออกมา
"แสน...แสนจะทำให้ชั้นแทบคลั่งอยู่แล้ว" พูดไม่พูดเปล่า
ร่างใหญ่กระชากชุดที่ผมใส่อยู่ลงไปกองที่เอว ผมอุทานตกใจทีแรก แต่ก็เปลี่ยนเป็นเสียงหอบแบบทำอะไรไม่ถูกในตอนหลัง
ผมรู้สึกเหมือนลอยคว้างอยู่ในอวกาศ ต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ผมกดรั้งหัวอาร์ดีนไว้แน่น
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังเล่นอยู่กับติ่งเนื้อที่หน้าอกซึ่งตอนนี้ชูชันเต็มที่
ไม่รู้เหมือนกันว่าอาร์ดีนอดทนกับผมมานานหรือยังไง...เพียงแป๊บเดียวทั้งผมและเค้าก็ไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น...
ผมเองก็ครางไม่เป็นภาษา..อาร์ดีนจูบแทบจะทุกตารางนิ้วบนร่างช่วงบนของผม
มือของผมรู้สึกได้ถึงเส้นผมที่นุ่มนวลของเขา..ความรู้สึกครั้งนี้ต่างจากที่อาร์ดีนบังคับจูบผมครั้งก่อน
คราวนี้ผมยอมเต็มที่แถมยังมีอารมณ์ร่วมด้วย
ในที่สุดอาร์ดีนก็พลิกผมลงไปนอนใต้ร่างของเขา ผมรู้สึกน้ำหนักโถมทับลงบนตัว
ชักเริ่มจะเกร็งกับสิ่งที่จะต้องตามมา..อาร์ดีนย้อนกลับมาจูบผมอย่างดูดดื่มอีกครั้ง
ผมรู้สึกเหมือนไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่าง ช่องท้องก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ลมหายใจอุ่นๆที่รินรดตามผิวทำให้รู้สึกขนลุกจั๊กกะจี้เล็กน้อย
รวมทั้งจุดแก่นกายของผมที่เหมือนจะถูกกระตุ้นให้ตื่นเต้นตามไปด้วย
อาร์ดีนจับมือของผมลูบไปบนร่างกายของเขา ผมรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นสูงของเราสองคน
มือผมเริ่มลูบต่ำลงไปโดยไม่ต้องมีคนนำ อาร์ดีนสูดหายใจลึกเมื่อผมเลื่อนไปถึงจุดสำคัญที่กำลังตื่นตัวของเขา
เขาครางเสียงกระเส่ายามที่ผมกุมความยาวของเขาไว้ อาร์ดีนตอบสนองทุกสัมผัสของผม
ขนาดของเขาในมือของผมค่อนข้างทำให้ผมตกใจพอสมควร ผมไม่สามารถมองเขาเต็มๆได้เนื่องจากตัวเขาทาบทับผมอยู่
มือของผมพยายามที่จะกำรอบแล้วลองกะขนาดความยาวดู แต่แล้วก็ถูกมือใหญ่ดึงขึ้นไปรวบไว้ข้างบนศีรษะ
"ซุกซน ชั้นยังไม่อยากจะไปก่อนแสนนะ...ไว้ชั้นจะสอนถึงวิธีใช้มือให้ถูกต้องทีหลัง"
คราวนี้อาร์ดีนดันตัวขึ้นมาคร่อมผมไว้ เปิดโอกาสให้ผมมองถึงอาวุธของเขาที่กำลังประจัญบาน...มันใหญ่ซะจน....
"ไม่ต้องกลัวนะ ชั้นจะไม่รุนแรงกับแสน..." อาร์ดีนพูดเมื่อเห็นแววตาหวาดกลัวของผม
"ชั้นจะอ่อนโยน" พูดจบเขาก็หันไปหยิบกระปุกที่อยู่ในชั้นใกล้เตียงขึ้นมา
ในใจนึกขอบใจแม่หมอเซียร่า ที่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้เขาด้วยหลังจากตอนที่ชัยมาแอบขอไปใช้
เมื่อเปิดกระปุกกลิ่นน้ำมันหอมก็ระเหยทั่วห้อง...เขาทาน้ำมันหอมที่มือก่อนที่จะเริ่มลูบไปที่ขาอ่อนของผม
ผมสะดุ้งเฮือก ไม่คิดมาก่อนว่าจะเย็นขนาดนี้...
อาร์ดีนจูบแสนอีกครั้งเพื่อกระตุ้นอารมณ์ ที่จริงตอนนี้เขาแทบจะบังคับตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว
ร่างเล็กบอบบางข้างใต้ผิวเป็นสีชมพูด้วยความกระสัน แววตาหรี่ปรือที่มองเขาพร้อมกับเสียงหอบหายใจ
แสนไม่รู้หรอกว่าแค่นี้เขาก็แทบจะปลดปล่อยตัวเองด้วยความต้องการ
ยิ่งยามที่มือของแสนสะเปะสะปะลูบคลำเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นยิ่งอยากทำให้เขาครอบครองแสนเร็วยิ่งขึ้น
สู้กับพวกหลังหุบเขาเป็นร้อยยังไม่รู้สึกเหนื่อยเท่านี้เลย
อาร์ดีนลูบน้ำมันหอมเข้าไปถึงต้นขาด้านในก่อนที่จะยกขาข้างนั้นของผมพาดไหล่เขา
นิ้วมือเริ่มชำแรกเข้าถึงหลืบที่ซ่อนความหฤหรรษ์ ก่อนที่จะส่งนิ้วแรกเข้าไปสำรวจช่องทาง
ผมสูดหายใจดังเฮือก...ร่างผมเกร็งขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอม
"แสนอย่าเกร็งสิ สูดหายใจลึกๆ ชั้นเข้าไม่ได้" อาร์ดีนกระซิบบอกผม
เสียงเขาหอบ มืออีกข้างเขาเริ่มลูบคลำส่วนด้านหน้าของผมเพื่อกระตุ้นอารมณ์
ผมสะดุ้งเป็นจังหวะยามที่มือของอาร์ดีนเลื่อนขึ้นลงตามความยาวของมัน...สติผมเริ่มกระเจิงไปพร้อมกับความเย็นของน้ำมันหอมและความร้อนของร่างกาย
นิ้วมือของอาร์ดีนรุกรานเพิ่มมากขึ้น เขาสอดใส่เข้าไปในร่างกายผมถึงสามนิ้วตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้แถมยังเลื่อนเข้าออกเพื่อปรับขนาดของร่างกายผม
มืออีกข้างของเขาก็ยังรูดขึ้นลงกับแก่นกายของผม ในที่สุดผมก็ร้องขึ้นมาเมื่ออารมณ์ผมขึ้นถึงจุดสุดยอด
ผมปลดปล่อยความต้องการออกมาเต็มมือของอาร์ดีน พร้อมทั้งเผื่อแผ่มาถึงหน้าอกและท้องน้อยทั้งของผมและของเขา
ผมหอบหายใจด้วยความผ่อนคลาย แต่ทันใดนั้นเองร่างกายผมก็รับสิ่งแปลกปลอมอื่นเข้ามาจนสุด!!!
ผมร้องด้วยความเจ็บออกมาสุดเสียง สะดุ้งพรวด ร่างกายเหมือนถูกฉีกเป็นส่วนๆ
ความคับแน่นกับความเจ็บทำให้ผมบิดตัวพร้อมกับดันอาร์ดีนออกไปสุดแรง
น้ำตาไหลพราก อาร์ดีนถอนหายใจกดผมไว้กับเตียงแน่น กัดฟันด้วยความอดทน
"แสน...อย่าขยับ...มะ..ไม่งั้นชั้นจะทนไม่ได้เอา..." อาร์ดีนหยุดค้างไปสักพักเพื่อให้ร่างกายของแสนปรับตัว...ด้วยขนาดของเขาแสนต้องเจ็บแน่ๆ
เขาฉวยโอกาสช่วงที่แสนผ่อนคลายที่สุดแทงอาวุธของเขาเข้าไปจนมิดด้ามซึ่งก็ไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก
แต่หลังจากนั้นนี่สิ แสนเกร็งจนเขาขยับไม่ได้ ช่องทางรัดแน่นมาก
อวัยวะส่วนนั้นเต้นตุ๊บๆ มือเขาเริ่มนวดไปทั่วตัวร่างเล็กเพื่อกระตุ้นอารมณ์อีกรอบ
"จะ...เจ็บ..." ผมคราง ยังดีที่ความแสบร้อนของช่องทางถูกบรรเทาด้วยความเย็นของน้ำมันหอม...แต่ถึงกระนั้นผมก็รู้สึกเจ็บจนหน้ามืด...อาร์ดีนเริ่มขยับช้าๆเพื่อปรับช่องทาง
ความเจ็บกับความหฤหรรษ์ผสมกันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก อาร์ดีนกอดผมแน่นยามที่เคลื่อนตัวเร็วขึ้น
ผมสะดุ้งพร้อมกับครางเป็นจังหวะ ตาลายราวกับเห็นหมู่ดาวนับล้านรอบตัว
"แสน..ชั้นรัก..แสน" อาร์ดีนครางออกมาก่อนที่จะปลดปล่อยความต้องการสู่ร่างเล็ก...
"ผม..ก็รักอาร์ดีน.." ผมพูดปนหอบ ก่อนที่สติจะหายไปพร้อมกับหมู่ดาวที่ลอยตรงหน้า...
.............แสนเป็นเจ้าหญิงของผม...เป็นเจ้าหญิงที่ข้ามเวลามากว่าพันปี.....
ผมตื่นมายามเช้า อาร์ดีนออกไปประชุมแล้วแต่ก็อุตส่าห์ส่งแม่หมอเซียร่ามาดูอาการทุกๆชั่วโมง
ผมมองที่ข้อมือตัวเอง ก็พบว่าสร้อยเส้นนั้นที่ผมคืนอาร์ดีนไปคล้องอยู่ที่ข้อมือผมเหมือนเดิม...