My aliens friends
บทส่งท้าย
เอรันเทร่าปี 2586
เอรันเทร่า ดวงดาวที่เจริญที่สุดในระบบหมู่ดาว..ประกอบด้วยท่าอากาศยานระหว่างดวงดาวที่ใหญ่โตที่สุด
ร่ำรวยจากการขายแร่ธาตุต่างๆ เป็นเมืองท่าที่มีมนุษย์ต่างดาวเดินทางเข้าออกนับล้านคนในแต่ละวัน..บ้านเมืองล้วนแล้วแต่มีความเจริญ
ยานบินส่วนตัวลอยฉวัดเฉวียนอยู่เต็มท้องฟ้า ตึกเก่าล้าสมัยก็ถูกทุบทิ้งกลายเป็นตึกใหม่
แต่ก็ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งถึงแม้ว่าภายนอกจะเจริญเพียงใด แต่ภายในก็ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคสมัยที่ต่างกัน
นั่นก็คือ "ตึกประวัติศาสตร์ความทรงจำแห่งเอรันเทร่า"
ตอนนี้ที่ด้านหน้าของตึก ยืนไว้ด้วยเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังรอใครอยู่
ร่างสูงระหงพร้อมสีผมที่ค่อนข้างจะแตกต่างจากชาวเอรันเทร่าทั่วไปทำให้เป็นจุดสนใจพอสมควร
ผมสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำปลิวตามแรงลม ดวงตาสีน้ำตาลใสเริ่มฉายแสงหงุดหงิดที่ไม่เห็นคนที่รอมาตามนัด
คิ้วเค้มเริ่มขมวด แต่ผ่านไปอีกไม่นานก็ได้ยินเสียงใสๆตะโกนเรียก
"เม็ท ขอโทษทีนะ ที่มาช้า บังเอิญยานบินที่มาทางนี้วนผิดทางน่ะ"
สาวน้อยเอรันเทร่าคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาร่างสูงนั้น
"สาย" ร่างที่ชื่อเม็ทตอบเรียบๆ
"เอาน่า...ที่นี่ชั้นเคยมาที่ไหนล่ะ คนยุคนี้เค้าไม่ค่อยสนใจสถานประวัติศาสตร์กันแล้ว...เทคโนโลยีสมัยใหม่น่าสนใจกว่าจะตาย"
ร่างเล็กตอบยิ้มๆ ก่อนที่จะเดินร่าเริงเข้าตัวตึกไป เม็ทได้แต่ถอนหายใจเดินตาม
ภายในตัวตึกแทบไม่มีคนตามที่สาวน้อยกล่าว...ทั้งสองคนเดินไปตามทางที่แบ่งไว้
สองฝากทางเดินมีข้าวของจากยุคต่างๆมากมายวางแสดง ร่างสูงเดินอย่างชำนาญราวกับรู้ทางดี
เขาเดินตรงไปที่ห้องยุคต้นปฏิวัติศาสตร์แห่งเอรันเทร่า
"โห เม็ท นายนี่รู้ทางยังกับหุ่นยนต์ที่ดูแลที่นี่เลยนะ..."
"ตอนเด็กๆ พ่อชอบพามาน่ะ" ร่างสูงเฉลย
"อ๋อ คุณปู่น่ะเหรอ..ชั้นว่าคุณปู่เป็นคนแปลกๆนะ...ชอบมาที่เก่าๆ
แถมชอบพูดอะไรแปลกๆ"
"ไม่เอาน่า เมเท..คนพึ่งเสียชีวิตไปแล้วอย่านินทาเลย"
เม็ทติงว่าที่หลานสาว แต่ที่จริงแล้วทั้งสองคนอายุไม่ต่างกันเท่าไหร่
"ไม่ได้นินทาสักหน่อย แค่ออกความเห็น...ก็ยายชั้นที่เป็นพี่สาวปู่น่ะเล่าให้ฟัง
ตอนคุณปู่หนุ่มๆ คุณปู่ขโมยยานอวกาศรุ่นล่าสุดหนีไปโลก..ถือเป็นข่าวใหญ่ของช่วงปีนั้นเลย..แถมตอนถูกจับกลับมาที่เอรันเทร่าก็มีเหตุการณ์ระเบิด
ยานหายสาบสูญไปสองวัน..แต่หลังจากนั้นก็กลับมาพร้อมกับไม่มีร่องรอยบุบสลายเลย"
ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรเดินเข้าไปในห้องที่ตั้งใจจะมา กลิ่นอายของห้องทำให้เขานึกถึงตอนที่เขาเป็นเด็ก
พ่อชอบพาเขามาที่นี่...เล่าเรื่องต่างๆให้เขาฟัง ถึงแม้ตอนนั้นพ่อจะอายุค่อนข้างมากแล้วก็ตาม
พ่อเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ที่จริงคนในครอบครัวของพ่อก็ไม่ค่อยมีใครเข้าใจพ่อนัก
พ่อเคยอยากเป็นนักผจญภัยอวกาศมาก ถึงขนาดหนีพิธีดูมาร์และขโมยยานและหลบหนีออกจากดาวไปที่โลก
ยังดีที่ตอนนั้นพ่อยังอายุน้อยกว่ากฎหมายลงโทษของเอรันเทร่า ทำให้พ่อถูกลดหย่อนผ่อนโทษได้มากหลังจากที่โดนจับกลับมา
มิธยานอวกาศถูกลงโปรแกรมใหม่ ส่วนพ่อก็ผันตัวเองมาเป็นนักวิทยาศาสตร์..
"ความทรงจำของพ่ออยู่ที่นี่.."
พ่อพูดบ่อยๆ พ่อมักพาเขามาที่ห้องนี้ นั่งเงียบๆอยู่นาน บางทีก็เล่าเรื่องแปลกๆให้ฟัง
พ่อเล่าให้คนหลายคนฟังว่าพ่อได้หลงไปเอรันเทร่ายุคนี้ด้วยอุบัติเหตุ
แต่ว่าไม่มีใครเชื่อพ่อเลย หาว่าเป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆของเด็กเท่านั้น
พ่อก็เลยไม่เคยพูดเรื่องนี้อีก แต่เขาเชื่อพ่อ...
"เม็ทดูนี่สิ...มาดูรูปพวกนี้สิน่าสนใจดีนะ" เสียงแจ๋วๆของญาติสาวดังขึ้นมาทำให้เขาตื่นจากภวังค์
"ชั้นนึกว่าจะมีแต่เม็ทเท่านั้นที่มีสีผมต่างจากใคร แต่ดูรูปพวกนี้สิ
สองคนนี้ก็มีผมสีดำเหมือนเธอเลยนะ.." เมเทชี้ไปที่ภาพวาดบนผนัง
ซึ่งผนังช่วงนี้ได้ถูกถอดออกมาจากวิหารโบราณก่อนที่มันทรุดโทรมไป...ร่างเล็กอ่านคำอธิบายที่จารึกอยู่
"อาร์ดีนแห่งบาร์นาเดีย...หลังจากปีสงครามปฏิวัติปีที่ 22 ได้เป็นผู้รวบรวมหัวเมืองต่างๆเข้าด้วยกัน
กวาดล้างชนเผ่าหลังหุบเขาบาร์แดน ผู้นำแห่งราเรียโดยตรงคนแรกในปีปฎิวัติที่
30...ผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคืออาคันตุกะจากแดนไกลผู้มีผมสีดำตาสีดำ...ชัย..ผู้คิดค้นการถลุงแร่ฟูทาเดียมใหม่
นับเป็นรากฐานของความเจริญแห่งเอรันเทร่าในยุคต่อๆมา กับแสนชายหนุ่มผู้ซึ่งกลายมาเป็นเมรันอาแห่งอาร์ดีน...เนื่องจากอาร์ดีนไม่มีทายาทสืบทอดจึงมอบอำนาจทั้งหมดให้กับชัย
พี่ชายของเมรันอาและทายาทสืบช่วงต่อ..แต่ชัยอยู่คนเดียวจนสิ้นชีวิตไม่มีทายาทหรือผู้สืบทอดทำให้ราชวงค์ของอาร์ดีนสิ้นสุดเพียงแค่ห้าสิบปีหลังจากปีปฏิวัติที่
30.." เมเทอ่านด้วยความสนใจ
"อ้าว..ชัยไม่มีผู้สืบทอดนี่นา...งั้นก็ไม่น่าจะมีชาวเอรันเทร่าผมสีเข้มตาสีเข้มเหมือนเม็ทสิ"
เมเทพูดด้วยความสงสัย
เม็ทยิ้มจางๆ ก่อนจะพูดว่า "บ้าสิ นั่นมันสองพันกว่าปีก่อนนะ
ถ้าเกิดคนที่ชื่อชัยนั่นมีลูกหลานจริงละก็ ป่านนี้ชาวเอรันเทร่าครึ่งเมืองก็มีผมสีเข้มเหมือนชั้นแล้ว"
"อ้าว งั้นทำไมเม็ทถึงมีผมสีเข้มผิดกับคนอื่นล่ะ"
"ชั้นเป็นเด็กที่เกิดจากการผสมพันธุ์ทางโครโมโซมนะ เธอนี่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
พ่อไม่ได้แต่งงานสักหน่อย" เม็ทติงเมเท
"ก็คุณปู่นะ เก็บตัวจะตาย เอาแต่อยู่ในห้องทดลอง....กว่าชั้นจะได้รู้จักกับเธอก็เมื่อปีที่แล้วเอง
ไม่มีใครบอกอะไรชั้นเลยนี่ ชั้นก็นึกว่าปู่แอบมีลูกตอนแก่ แล้วเธอไม่อายบ้างเหรอ
ต่างจากเขาแบบนี้"
"แล้วเธอว่ามันน่าอายรึเปล่าล่ะ" เจ้าตัวคนถูกถามย้อนถามคนถามบ้าง
ซึ่งจริงๆเมเทก็ไม่คิดว่ามันน่าอายหรอก เพราะว่าเม็ทดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ซึ่งเธอออกจะชื่นชมไม่น้อย
......เม็ท จงภูมิใจในตัวเองเถอะ...เจ้านะเป็นเด็กที่เกิดมาจากความรักของพ่อกับชายคนนั้น....
"พ่อบอกว่าพ่ออีกคนของชั้นอยู่ที่นี่..." เม็ทพึมพำออกมา
เขาจำได้แม่น ก่อนที่พ่อของเขาจะเสีย...ได้กุมมือเขา พร่ำบอกความในใจออกมา
"ชัย...ชั้นขอโทษ..ชั้นทำสัญญาของเราเป็นจริงไม่ได้....ชั้นกลับไปหานายไม่ได้...แต่ชั้นทำให้ความรักของเราเป็นตัวตนได้...."
พ่อพูดเพ้อพร้อมนำตาซึม มือของพ่อที่กุมแน่นเริ่มเย็นชืดไป
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น เม็ทเองก็น้ำตาซึม...เขาอธิษฐานว่าวิญญาณของพ่อกับชายคนรักคงจะได้พบกันที่ไหนสักแห่ง
หัวใจของชั้นอยู่ทีนี่....ชั่วชีวิตนี้ชั้นจะรักนายคนเดียว.....
เม็ท ---- ภาษาเอรันเทร่าที่แปลว่า
นิรันดร..