My aliens friends
ตอนที่ 2
"ชัย
แสน
.นี่เราเองไง"
เสียงก้องที่เหมือนจะดังอยู่ในหัวทำให้ผมลืมตาขึ้นมอง มือยังกอดพี่ไม่มีปล่อย
"ฟล็อกงั้นเรอะ" เสียงพี่ชัยดังขึ้น ผมมองร่างของเพื่อนทางอินเตอร์เนทไม่วางตา
เรื่องบ้าอะไรกันนี่ !!!! ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง!! เขาเป็นมนุษยต์ต่างดาวจริงๆ
ร่างตรงหน้าของผมถึงแม้จะดูว่าคล้ายมนุษย์มาก แต่จากผมสีเขียวเข้มกับตาสีทอง
ผิวที่ขาวราวกับแก้วใสทำให้แตกต่างจากมนุษย์โลกอย่างค่อนข้างชัด
ร่างนั้นยิ้มให้
"เราเคยบอกไว้แล้วว่าจะมาเยี่ยมพวกนาย" เสียงก้องเข้ามาในหัวผมอีก
"นายเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆหรือนี่" ผมอดอุทานออกไปไม่ได้
พี่ผมมองผมอย่างแปลกใจ
"ทำไมแสนถึงรู้เรื่องฟล็อก" พี่มองผมอย่างขวางๆ ผมยิ้มเก้อๆ
อึกอักอยู่พักค่อยสารภาพความจริงทั้งหมดไป
"เฮ้อ" พี่ผมเอามือกุมศีรษะ "ทำไมแสนทำตัวอย่างงี้
ก็อปกุญแจ แถมแอบใช้เครื่องคอมพี่โดยไม่ได้รับอนุญาตอีก
"
ผมถอนหายใจ เงยหน้าขึ้นสบตาฟล็อก พี่ผมเริ่มบทบาทของคุณแม่อบรมลูกอีกแล้วครับ
โดยไม่ได้สนใจสถานที่เลยว่าที่ไหน
"ขอโทษครับ" ผมสารภาพผิด
"ทำแบบนี้ก็คล้ายกับขโมยเลยรู้ไหม แสนรู้นี่นาว่าการขโมยนะมันไม่ดี
มีแต่โทษกับตัวเอง พี่ไม่ชอบคนขโมยนะ" พี่ผมอบรมต่อ แต่ถึงตอนนี้มีคนเดือนร้อนถึงสองคน
ฟล็อกยิ้มเก้อๆ เขาเองก็ขโมยยานลำนี้ออกมาเหมือนกัน ดังนั้นร้อนตัวไปด้วย
หลังจากนั้นเราสามคนก็นั่งลงบนสิ่งที่คล้ายกับเก้าอี้ที่ผุดขึ้นมาจากพี้น
ผมเพิ่งรู้ว่าฟล็อกกับพี่นั้นติดต่อกันนานแล้ว ทางสถาบันวิทยาศาสตร์ที่พี่ทำงานอยู่ได้ส่งคลื่นผ่านดาวเทียมไปยังอวกาศ
ฟล็อกเป็นมนุษย์ต่างดาวคนแรกที่ติดต่อกลับมา พี่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง
พี่กับฟล็อกได้ปรับคลื่นความถี่ของระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ต่อเชื่อมกันได้
ในตอนแรกพวกเขาติดต่อกันแต่เฉพาะที่สถาบัน แต่หลังจากนั้นพี่ก็ขยับขยายมาติดที่บ้านด้วย
(พี่ผมคงจะเป็นบุคคลคนแรกที่ติดต่อมนุษย์ต่างดาวโดยอินเตอร์เนทได้
ส่วนผมก็เป็นคนที่สอง) ฟล็อกหันไปสั่งการกับแผงควบคุมอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่โตอยู่กลางห้อง
"มิธ นายช่วยเตรียมเครื่องดื่มให้พวกเราหน่อยนะ"
"ได้ครับ จะรับอะไรดีล่ะครับ" เสียงคอมพิวเตอร์ตอบมา
"เอ่อ พวกเราขอน้ำเปล่าแล้วกัน" พี่ผมตอบแทน แทบอึดใจ
น้ำเปล่าสองแก้วก็มาปรากฏที่หน้าทันทีราวกับเนรมิต พี่มองคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่นั้นด้วยความทึ่ง
"ฟล็อก ไม่น่าเชื่อว่าเทคโนโลยีดาวนายจะเจริญขนาดนี้ ชั้นไม่เคยเห็นอะไรขนาดนี้มาก่อน
ราวกับเวทมนต์"
"ที่นายเห็นนี่คือ มิธ คอมพิวเตอร์สมองกลที่เพิ่งคิดค้นได้จากที่ดาวชั้น"
ฟล็อกพูดอย่างภูมิใจ "ยานทั้งหมดนี่คือร่างกายของมิธ มิธสามารถมีการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
แถมยังโต้ตอบกับเราได้ด้วย
พี่ผมยังอึ้งเป็นบื้ออยู่ ด้วยวิทยาการของโลกตอนนี้ กว่าจะก้าวถึงระดับที่เห็นนี่อย่างน้อยคงต้องอีกหลายร้อยปีแน่
ไม่สิอาจจะหลายพันปีด้วยซ้ำ
"แล้วนี่เราจะไปไหนเหรอ" ผมเงยหน้าขึ้นทำลายความเงียบ
"ฮ้า
รถชั้น" พี่ผมพึ่งนึกได้ว่าจอดรถทิ้งไว้ที่ถนน แถมยังเปิดประตูทิ้งไว้ด้วย
"นายส่งพวกชั้นกลับไปที่ถนนที ชั้นจะขับรถกลับบ้าน แล้วเราค่อยคุยกันต่อ"
ฟล็อกพยักหน้า พร้อมกับหันไปสั่งมิธ
"มิธ เปิดระบบขนส่งมวลสารของยานสิ ส่งสองคนนี้ไปยังพื้นโลกด้วย"
"
"
ไร้เสียงตอบจากคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ ฟล็อกหันไปสั่งอีกรอบ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ ฟล็อก" พี่ผมสงสัย ฟล็อกอึ้งไป เขาเองก็ไม่รู้ระบบของมิธดีพอที่จะอธิบายได้
"เอ่อ ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" เขาเดินเข้าไปที่คอมพิวเตอร์หลัก
"มิธ
เฮ้" ฟล็อกเดินเข้าไปยังไม่ทันถึงดี ตัวยานก็เอนเกือบตั้งฉากกับพื้นโลก
แถมยังเกิดการสั่นสะเทือนอย่างแรง ผมกับพี่ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า ฟล็อกเองก็คลานอยู่กับพื้นเหมือนกัน
เขาพยายามเข้าไปจนกระทั่งเกาะแผงควบคุมใหญ่โตนั้นได้และกดปุ่นบนแผงหน้าปัด
"มิธ ตอบชั้นหน่อย เกิดอะไรขึ้น" เขาตะโกนถาม
"ระบบขัดข้อง
ระบบขัดข้อง
..เกิดการควบคุมจากภายนอก
..ระบบขัดข้อง"
เสียงตอบของมิธดังขึ้นมากระท่อนกระแท่น
"อะไรนะ ภายนอกงั้นเหรอ" ฟล็อกหน้าซีดเผือด หรือว่าพวกจากดาวตามเขามาพบแล้ว
มอร์นิเตอร์กลางห้องสว่างพรึบขึ้นมา
"
..เจ้าหน้าที่ฟล็อก คีน เมเดอาร์ ขโมยยานหลบหนีออกนอกดาวเอรันเทร่า
ติดต่อสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่น ทำผิดกฏหมายข้อที่ 10548 ของกฏสมาพันธ์จักรวาล
จะต้องถูกลงโทษตามกฎ จำต้องพาตัวกลับไปพิพากษาที่เอรันเทร่า"
"หา พิพากษางั้นเรอะ" ฟล็อกหน้าซีดเผือด พี่ผมยังไม่ได้ทันถามอะไรยานก็เคลื่อนไหวอย่างแรงอีกครั้ง
"นี่เรากำลังจะไปไหนเนี่ย ปล่อยเราลงสิ ฟล็อก" ผมตกใจมาก
เมื่อเห็นภาพวิวจากกระจกที่ติดอยู่เลื่อนต่ำลงอย่างรวดเร็ว ยานกำลังลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ
"ขะ ขอโทษ ตอนนี้ชั้นไม่สามารถทำอะไรได้
.เราถูกบังคับจากภายนอกอยู่
."
"ถูกบังคับจากภายนอก!! นายหมายความว่าไง" พี่ผมตกใจเหมือนกัน
ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนว่าลอยออกมานอกชั้นบรรยากาศโลกแล้ว ดวงจันทร์อยู่ใกล้นิดเดียว
ด้วยเวลาเพียงแค่หนึ่งนาที!!
"พวกเรากำลังจะไปเอรันเทร่า" ฟล็อกพูดเสียงเบา "ผมขโมยยานหลบหนีออกมาจากดาว
พวกนั้นจึงมาตามจับตัวผมกลับ"
"แล้วพวกเราล่ะ พวกเราสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนายด้วยนี่
ปล่อยพวกเรากลับไปสิ" พี่ผมเริ่มโมโห "นายมันเป็นพวกอาชญากรงั้นเรอะ"
ฟล็อกหน้าเสียหลังจากได้ยินพี่ผมว่า พี่ไม่รู้ว่าฟล็อกขโมยยานเพราะต้องการหลบหนีพิธีดูมาร์อะไรนั่น
"พี่..พี่ หยุดพูดเถอะ ฟล็อกเขาจำเป็นต้องทำอย่างนี้"
ผมพยายามอธิบายให้พี่ฟัง จนในที่สุดพี่ก็สงบลง แต่ก็ยังเดินวนเวียนอยู่กลางยาน
ผมเผ้ายุ่งเหยิง แถมเสื้อเชิ้ตที่เคยเรียบแปร้กับเนทไทก็ไม่เป็นระเบียบ
"เอาละ เอาละ
ชั้นยอมรับได้ ชั้นจะถือว่ามาเปิดหูเปิดตาในอวกาศสักครั้ง"
ตอนนี้ยานอวกาศได้ออกมานอกโลกแล้ว บรรยากาศสีดำมืดคลอบคลุมอยู่ ดวงดาวที่เคยอยู่ไกลลิบเหมือนห่างออกไปแค่ไม่เท่าไหร่
โลกดูเป็นดวงดาวสีน้ำเงินขนาดเล็กท่ามกลางสะเก็ดดาวและหมู่ดาวรายล้อมอีกมากมาย
พี่กับผมมองดูด้วยความตะลึง
วันนี้เป็นวันที่ผมพบประสบการณ์ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตด้วยกัน ทั้งมีผู้ชายมาสารภาพรัก
ทั้งพบกับมนุษย์ต่างดาว และทั้งถูกบังคับออกไปยังนอกโลก!! แต่สิ่งที่ผมกังวลที่สุดก็คือ
"พรุ่งนี้ผมมีสอบเลขด้วยนะ!!"
"พวกเราจะกลับไปเอรันเทร่าไม่ได้"
ฟล็อกกุมหัว พยายามเคาะแผงควบคุม กดปุ่มอะไรนู่นนี่เต็มไปหมด
"ทำไมเรอะ
นายจะถูกพิพากษารุนแรงรึไง" พี่ผมถามด้วยความเป็นห่วง
"ผมน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก กฎของเอรันเทร่าสำหรับชาวเอรันเทร่าไม่เคยมีโทษถึงประหาร
อย่างมากที่สุดก็แค่ลดระดับชั้นแล้วก็ส่งไปอยู่คุกมืด แต่สำหรับคนดาวอื่นนั้น
."
เขาเว้นระยะเงียบไป
"อะไร พวกเราจะต้องถูกพิพากษาด้วยงั้นเรอะ" ผมงงมาก
"สำหรับคนดาวอื่นที่เข้าเมืองโดยผิดกฏหมายนั้นมีโทษตายสถานเดียว
"
ฟล็อกพูดเบาๆ พวกเราสองคนขนลุก
"หา พวกเราไม่ได้เต็มใจมาด้วยสักหน่อย พวกนั้นบังคับจับเรามาแท้ๆ"
พี่ชายผมร้องลั่น "ไม่ยุติธรรมแท้ๆ ผมรับไม่ได้หรอกน่ะ"
"เรื่องนั้นสภาชาวเอรันเทร่าไม่รับรู้หรอก เขาแค่รู้ว่าชัยกับแสนเป็นคนดาวอื่นและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองเท่านั้น"
ฟล็อกถอนหายใจ "ดังนั้นเรากลับไปเอรันเทร่าไม่ได้ เราต้องหลบหนี
เพราะผมแท้ๆทำให้พวกคุณพบปัญหาแบบนี้" หยาดน้ำใสๆ ไหลออกจากตาของฟล็อก
"เราก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน พวกเราต้องทำยังไงบ้าง" พี่ผมพูดด้วยความหวัง
"ชัยลองมองออกไปนอกยานสิ" ฟล็อกบอกพี่ชายผม พวกเราหันไปมองนอกยานผ่านหน้าต่างกระจก
เครื่องยนต์ทรงกลมสามลูกลอยเคว้งอยู่รอบยานเป็นรูปสามเหลี่ยม มีประกายแสงประหลาดส่งต่อถึงกันดึงดูดยานของฟล็อกไว้ตรงกลาง
"นั่นคือราเรีย การ์ดแห่งเอรันเทร่า เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ปล่อยกำลังแม่เหล็กมหาศาล
สงสัยหลังจากที่ผมขโมยยานออกมา พวกที่สถาบันคงส่งราเรียออกมาตามจับ
มันสามารถปล่อยพลังแม่เหล็กบังคับคอมพิวเตอร์ทุกชนิดให้อยู่ในอำนาจมัน
มันพยายามดึงเรากลับเอรันเทร่า" ฟล็อกอธิบาย อีกไม่นานเท่าไหร่
พวกเราก็รู้สึกถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นของยาน ดวงดาวรอบข้างพร่าเลือนไปเหลือแต่เพียงแสงแวบผ่านเท่านั้น
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย" ผมถามเสียงกุกกัก จับพี่ไว้แน่น
"เรากำลังถูกเคลื่อนย้ายด้วยความเร็วเหนือแสงน่ะ ราเรียกำลังดึงดูดพวกเรากลับไปที่เอรันเทร่า"
ฟล็อกถอนหายใจ ไม่ได้กล่าวอะไรอีก ผมเองก็อึ้งจนพูดไม่ออก ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วยาน
ในตอนแรก พี่กับฟล็อกเดินวุ่นไปทั่ว พยายามกดปุ่มโน้นปุ่มนี้ส่วนผมก็เพียงนั่งเฉยๆ
จนกระทั่งผมไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่พี่ผมจับไหล่เขย่า
ความเร็วของยานลดลง
"แสน ตื่น ตื่นได้แล้ว" ผมงัวเงียลุกขึ้นมานั่ง พยายามมองรอบตัว
ฟล็อกหันหน้าไปอีกทาง ยกมือขึ้นชี้ไปที่ดาวสีส้มที่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่นัก
"นั่นคือเอรันเทร่า อีกไม่ถึงสามชั่วโมงเราจะไปถึงถ้ายังถูกดึงอยู่ด้วยความเร็วระดับนี้"
ผมกับพี่ตัวเย็นเฉียบ สามชั่วโมง อีกสามชั่วโมงพวกเราจะไปถึงดาวเอรันเทร่า
และจะถูกประหาร !!
"พวกเราควรจะทำยังไงดี!!"
"เราต้องทำลายราเรียให้ได้ เพียงแค่ทำลายราเรียได้แค่ลูกเดียว
สมดุลของมันจะเสีย เราจะสามารถขับยานหลบหนีออกไปได้"
"แล้วยังไงล่ะถึงจะทำลายได้" พี่ผมตะโกน กังวลสุดๆ
"ผมก็กำลังหาอยู่นี่ไง มิธเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่น่าจะมีอาวุธอะไรติดอยู่บ้าง
ถึงแม้มิธจะไม่สามารถบังคับได้ด้วยตัวเองตอนนี้ แต่ถ้าพวกเราหาเจอพวกเราก็สามารถบังคับเองได้"
ฟล็อกอธิบาย หลังจากนั้นผมก็เห็นพี่กับฟล็อกพยายามค้นหาปุ่มอะไรกันใหญ่
ผมเองก็ได้แต่มองไปที่หน้าต่างดูดวงดาวสีส้มที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อี๊ด
ครืน
.เสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวด้านนอก
"แสน ดูสิว่ามีอะไรด้านนอกมั้ย" พี่ผมตะโกนถาม ผมชะโงกหน้าไปติดกระจก
"มีท่อนอะไรยาวๆไม่รู้ครับพี่ ยื่นออกมา อาจจะเป็นปืนก็ได้นะครับ"
ผมตะโกนตอบ
"แน่แล้ว ปืนเลเซอร์" ฟล็อกดีใจ "เราต้องทำลายราเรีย
แต่ตอนนี้ไม่สามารถมองผ่านมอนิเตอร์ได้ เราจะต้องใช้คันบังคับแทน
แสนช่วยบอกทิศทางยิงไปที่ราเรียด้วย"
ผมรับคำ ตอนนี้พวกเราเข้าใกล้เมืองมากขึ้นไปอีก ผมสามารถมองเห็นตึกรูปทรงประหลาดอยู่เต็มพื้นดาวเต็มไปหมด
"ไปทางขวาครับ ซ้ายอีกนิด อีกนิดครับ ขึ้นข้างบนหน่อย นั่นแหละครับ
ยิงเลย" ผมให้สัญญาณด้วยความตื่นเต้น
"เปรี้ยง" ลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากปืนเลเซอร์ข้างยาน ทะลุผ่านราเรียไปยังภูเขาหินด้านหลัง
ภูเขาหินด้านหลังทะลายเป็นแถบ แต่ราเรียลูกนั้นก็ยังไม่ระเบิด
"เฮ้ย ทำไมเป็นยังงี้" ผมอุทานด้วยความผิดหวัง "โดนตรงๆเลยนี่
ยิงอีกทีไหม" ผมเร่ง แต่แล้ว ราเรียลูกนั้นก็เกิดเหตุการประหลาดขึ้น
มันขยับขึ้นลงเหมือนเสียสมดุล ประกายไฟปะทุออกมา ยานที่อยู่ตรงกลางหมุนวนอย่างแรงราวกับลูกข่าง
"คงไม่ใช่มันจะระเบิดนะ พวกเราอาจจะตายก่อนที่จะได้ลงไปที่เอรันเทร่าก็ได้!!"
พวกเราโดนเหวี่ยงอย่างแรงอยู่ภายใน ถูกกระแทกราวกับหุ่นกระบอกที่ไม่สามารถบังคับได้
จนในที่สุดสติทุกคนก็ดับวูบลง