01      02      03      04      05      06      07      08       09       10       11       12       13       14       15       16      17
Peebee

My aliens friends

ตอนที่ 2

"ชัย…แสน….นี่เราเองไง" เสียงก้องที่เหมือนจะดังอยู่ในหัวทำให้ผมลืมตาขึ้นมอง มือยังกอดพี่ไม่มีปล่อย
"ฟล็อกงั้นเรอะ" เสียงพี่ชัยดังขึ้น ผมมองร่างของเพื่อนทางอินเตอร์เนทไม่วางตา เรื่องบ้าอะไรกันนี่ !!!! ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริง!! เขาเป็นมนุษยต์ต่างดาวจริงๆ
ร่างตรงหน้าของผมถึงแม้จะดูว่าคล้ายมนุษย์มาก แต่จากผมสีเขียวเข้มกับตาสีทอง ผิวที่ขาวราวกับแก้วใสทำให้แตกต่างจากมนุษย์โลกอย่างค่อนข้างชัด ร่างนั้นยิ้มให้
"เราเคยบอกไว้แล้วว่าจะมาเยี่ยมพวกนาย" เสียงก้องเข้ามาในหัวผมอีก
"นายเป็นมนุษย์ต่างดาวจริงๆหรือนี่" ผมอดอุทานออกไปไม่ได้ พี่ผมมองผมอย่างแปลกใจ
"ทำไมแสนถึงรู้เรื่องฟล็อก" พี่มองผมอย่างขวางๆ ผมยิ้มเก้อๆ อึกอักอยู่พักค่อยสารภาพความจริงทั้งหมดไป
"เฮ้อ" พี่ผมเอามือกุมศีรษะ "ทำไมแสนทำตัวอย่างงี้ ก็อปกุญแจ แถมแอบใช้เครื่องคอมพี่โดยไม่ได้รับอนุญาตอีก…"
ผมถอนหายใจ เงยหน้าขึ้นสบตาฟล็อก พี่ผมเริ่มบทบาทของคุณแม่อบรมลูกอีกแล้วครับ โดยไม่ได้สนใจสถานที่เลยว่าที่ไหน
"ขอโทษครับ" ผมสารภาพผิด
"ทำแบบนี้ก็คล้ายกับขโมยเลยรู้ไหม แสนรู้นี่นาว่าการขโมยนะมันไม่ดี มีแต่โทษกับตัวเอง พี่ไม่ชอบคนขโมยนะ" พี่ผมอบรมต่อ แต่ถึงตอนนี้มีคนเดือนร้อนถึงสองคน ฟล็อกยิ้มเก้อๆ เขาเองก็ขโมยยานลำนี้ออกมาเหมือนกัน ดังนั้นร้อนตัวไปด้วย
หลังจากนั้นเราสามคนก็นั่งลงบนสิ่งที่คล้ายกับเก้าอี้ที่ผุดขึ้นมาจากพี้น ผมเพิ่งรู้ว่าฟล็อกกับพี่นั้นติดต่อกันนานแล้ว ทางสถาบันวิทยาศาสตร์ที่พี่ทำงานอยู่ได้ส่งคลื่นผ่านดาวเทียมไปยังอวกาศ ฟล็อกเป็นมนุษย์ต่างดาวคนแรกที่ติดต่อกลับมา พี่มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง พี่กับฟล็อกได้ปรับคลื่นความถี่ของระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ต่อเชื่อมกันได้ ในตอนแรกพวกเขาติดต่อกันแต่เฉพาะที่สถาบัน แต่หลังจากนั้นพี่ก็ขยับขยายมาติดที่บ้านด้วย (พี่ผมคงจะเป็นบุคคลคนแรกที่ติดต่อมนุษย์ต่างดาวโดยอินเตอร์เนทได้ ส่วนผมก็เป็นคนที่สอง) ฟล็อกหันไปสั่งการกับแผงควบคุมอะไรสักอย่างที่มีขนาดใหญ่โตอยู่กลางห้อง
"มิธ นายช่วยเตรียมเครื่องดื่มให้พวกเราหน่อยนะ"
"ได้ครับ จะรับอะไรดีล่ะครับ" เสียงคอมพิวเตอร์ตอบมา
"เอ่อ พวกเราขอน้ำเปล่าแล้วกัน" พี่ผมตอบแทน แทบอึดใจ น้ำเปล่าสองแก้วก็มาปรากฏที่หน้าทันทีราวกับเนรมิต พี่มองคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่นั้นด้วยความทึ่ง
"ฟล็อก ไม่น่าเชื่อว่าเทคโนโลยีดาวนายจะเจริญขนาดนี้ ชั้นไม่เคยเห็นอะไรขนาดนี้มาก่อน ราวกับเวทมนต์"
"ที่นายเห็นนี่คือ มิธ คอมพิวเตอร์สมองกลที่เพิ่งคิดค้นได้จากที่ดาวชั้น" ฟล็อกพูดอย่างภูมิใจ "ยานทั้งหมดนี่คือร่างกายของมิธ มิธสามารถมีการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง แถมยังโต้ตอบกับเราได้ด้วย
พี่ผมยังอึ้งเป็นบื้ออยู่ ด้วยวิทยาการของโลกตอนนี้ กว่าจะก้าวถึงระดับที่เห็นนี่อย่างน้อยคงต้องอีกหลายร้อยปีแน่ ไม่สิอาจจะหลายพันปีด้วยซ้ำ
"แล้วนี่เราจะไปไหนเหรอ" ผมเงยหน้าขึ้นทำลายความเงียบ
"ฮ้า…รถชั้น" พี่ผมพึ่งนึกได้ว่าจอดรถทิ้งไว้ที่ถนน แถมยังเปิดประตูทิ้งไว้ด้วย
"นายส่งพวกชั้นกลับไปที่ถนนที ชั้นจะขับรถกลับบ้าน แล้วเราค่อยคุยกันต่อ" ฟล็อกพยักหน้า พร้อมกับหันไปสั่งมิธ
"มิธ เปิดระบบขนส่งมวลสารของยานสิ ส่งสองคนนี้ไปยังพื้นโลกด้วย"
"……"
ไร้เสียงตอบจากคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ ฟล็อกหันไปสั่งอีกรอบ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงเงียบอยู่เหมือนเดิม
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ ฟล็อก" พี่ผมสงสัย ฟล็อกอึ้งไป เขาเองก็ไม่รู้ระบบของมิธดีพอที่จะอธิบายได้
"เอ่อ ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" เขาเดินเข้าไปที่คอมพิวเตอร์หลัก
"มิธ…เฮ้" ฟล็อกเดินเข้าไปยังไม่ทันถึงดี ตัวยานก็เอนเกือบตั้งฉากกับพื้นโลก แถมยังเกิดการสั่นสะเทือนอย่างแรง ผมกับพี่ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า ฟล็อกเองก็คลานอยู่กับพื้นเหมือนกัน เขาพยายามเข้าไปจนกระทั่งเกาะแผงควบคุมใหญ่โตนั้นได้และกดปุ่นบนแผงหน้าปัด
"มิธ ตอบชั้นหน่อย เกิดอะไรขึ้น" เขาตะโกนถาม
"ระบบขัดข้อง…ระบบขัดข้อง…..เกิดการควบคุมจากภายนอก…..ระบบขัดข้อง" เสียงตอบของมิธดังขึ้นมากระท่อนกระแท่น
"อะไรนะ ภายนอกงั้นเหรอ" ฟล็อกหน้าซีดเผือด หรือว่าพวกจากดาวตามเขามาพบแล้ว มอร์นิเตอร์กลางห้องสว่างพรึบขึ้นมา
"…..เจ้าหน้าที่ฟล็อก คีน เมเดอาร์ ขโมยยานหลบหนีออกนอกดาวเอรันเทร่า ติดต่อสิ่งมีชีวิตจากดาวอื่น ทำผิดกฏหมายข้อที่ 10548 ของกฏสมาพันธ์จักรวาล จะต้องถูกลงโทษตามกฎ จำต้องพาตัวกลับไปพิพากษาที่เอรันเทร่า"
"หา พิพากษางั้นเรอะ" ฟล็อกหน้าซีดเผือด พี่ผมยังไม่ได้ทันถามอะไรยานก็เคลื่อนไหวอย่างแรงอีกครั้ง
"นี่เรากำลังจะไปไหนเนี่ย ปล่อยเราลงสิ ฟล็อก" ผมตกใจมาก เมื่อเห็นภาพวิวจากกระจกที่ติดอยู่เลื่อนต่ำลงอย่างรวดเร็ว ยานกำลังลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ
"ขะ ขอโทษ ตอนนี้ชั้นไม่สามารถทำอะไรได้….เราถูกบังคับจากภายนอกอยู่…."
"ถูกบังคับจากภายนอก!! นายหมายความว่าไง" พี่ผมตกใจเหมือนกัน ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนว่าลอยออกมานอกชั้นบรรยากาศโลกแล้ว ดวงจันทร์อยู่ใกล้นิดเดียว ด้วยเวลาเพียงแค่หนึ่งนาที!!
"พวกเรากำลังจะไปเอรันเทร่า" ฟล็อกพูดเสียงเบา "ผมขโมยยานหลบหนีออกมาจากดาว พวกนั้นจึงมาตามจับตัวผมกลับ"
"แล้วพวกเราล่ะ พวกเราสองคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนายด้วยนี่ ปล่อยพวกเรากลับไปสิ" พี่ผมเริ่มโมโห "นายมันเป็นพวกอาชญากรงั้นเรอะ" ฟล็อกหน้าเสียหลังจากได้ยินพี่ผมว่า พี่ไม่รู้ว่าฟล็อกขโมยยานเพราะต้องการหลบหนีพิธีดูมาร์อะไรนั่น
"พี่..พี่ หยุดพูดเถอะ ฟล็อกเขาจำเป็นต้องทำอย่างนี้" ผมพยายามอธิบายให้พี่ฟัง จนในที่สุดพี่ก็สงบลง แต่ก็ยังเดินวนเวียนอยู่กลางยาน ผมเผ้ายุ่งเหยิง แถมเสื้อเชิ้ตที่เคยเรียบแปร้กับเนทไทก็ไม่เป็นระเบียบ
"เอาละ เอาละ…ชั้นยอมรับได้ ชั้นจะถือว่ามาเปิดหูเปิดตาในอวกาศสักครั้ง"
ตอนนี้ยานอวกาศได้ออกมานอกโลกแล้ว บรรยากาศสีดำมืดคลอบคลุมอยู่ ดวงดาวที่เคยอยู่ไกลลิบเหมือนห่างออกไปแค่ไม่เท่าไหร่ โลกดูเป็นดวงดาวสีน้ำเงินขนาดเล็กท่ามกลางสะเก็ดดาวและหมู่ดาวรายล้อมอีกมากมาย พี่กับผมมองดูด้วยความตะลึง
วันนี้เป็นวันที่ผมพบประสบการณ์ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตด้วยกัน ทั้งมีผู้ชายมาสารภาพรัก ทั้งพบกับมนุษย์ต่างดาว และทั้งถูกบังคับออกไปยังนอกโลก!! แต่สิ่งที่ผมกังวลที่สุดก็คือ
"พรุ่งนี้ผมมีสอบเลขด้วยนะ!!"

"พวกเราจะกลับไปเอรันเทร่าไม่ได้" ฟล็อกกุมหัว พยายามเคาะแผงควบคุม กดปุ่มอะไรนู่นนี่เต็มไปหมด
"ทำไมเรอะ…นายจะถูกพิพากษารุนแรงรึไง" พี่ผมถามด้วยความเป็นห่วง
"ผมน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก กฎของเอรันเทร่าสำหรับชาวเอรันเทร่าไม่เคยมีโทษถึงประหาร อย่างมากที่สุดก็แค่ลดระดับชั้นแล้วก็ส่งไปอยู่คุกมืด แต่สำหรับคนดาวอื่นนั้น…." เขาเว้นระยะเงียบไป
"อะไร พวกเราจะต้องถูกพิพากษาด้วยงั้นเรอะ" ผมงงมาก
"สำหรับคนดาวอื่นที่เข้าเมืองโดยผิดกฏหมายนั้นมีโทษตายสถานเดียว…" ฟล็อกพูดเบาๆ พวกเราสองคนขนลุก
"หา พวกเราไม่ได้เต็มใจมาด้วยสักหน่อย พวกนั้นบังคับจับเรามาแท้ๆ" พี่ชายผมร้องลั่น "ไม่ยุติธรรมแท้ๆ ผมรับไม่ได้หรอกน่ะ"
"เรื่องนั้นสภาชาวเอรันเทร่าไม่รับรู้หรอก เขาแค่รู้ว่าชัยกับแสนเป็นคนดาวอื่นและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองเท่านั้น" ฟล็อกถอนหายใจ "ดังนั้นเรากลับไปเอรันเทร่าไม่ได้ เราต้องหลบหนี เพราะผมแท้ๆทำให้พวกคุณพบปัญหาแบบนี้" หยาดน้ำใสๆ ไหลออกจากตาของฟล็อก
"เราก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน พวกเราต้องทำยังไงบ้าง" พี่ผมพูดด้วยความหวัง
"ชัยลองมองออกไปนอกยานสิ" ฟล็อกบอกพี่ชายผม พวกเราหันไปมองนอกยานผ่านหน้าต่างกระจก เครื่องยนต์ทรงกลมสามลูกลอยเคว้งอยู่รอบยานเป็นรูปสามเหลี่ยม มีประกายแสงประหลาดส่งต่อถึงกันดึงดูดยานของฟล็อกไว้ตรงกลาง
"นั่นคือราเรีย การ์ดแห่งเอรันเทร่า เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ปล่อยกำลังแม่เหล็กมหาศาล สงสัยหลังจากที่ผมขโมยยานออกมา พวกที่สถาบันคงส่งราเรียออกมาตามจับ มันสามารถปล่อยพลังแม่เหล็กบังคับคอมพิวเตอร์ทุกชนิดให้อยู่ในอำนาจมัน มันพยายามดึงเรากลับเอรันเทร่า" ฟล็อกอธิบาย อีกไม่นานเท่าไหร่ พวกเราก็รู้สึกถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นของยาน ดวงดาวรอบข้างพร่าเลือนไปเหลือแต่เพียงแสงแวบผ่านเท่านั้น
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย" ผมถามเสียงกุกกัก จับพี่ไว้แน่น
"เรากำลังถูกเคลื่อนย้ายด้วยความเร็วเหนือแสงน่ะ ราเรียกำลังดึงดูดพวกเรากลับไปที่เอรันเทร่า" ฟล็อกถอนหายใจ ไม่ได้กล่าวอะไรอีก ผมเองก็อึ้งจนพูดไม่ออก ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วยาน
ในตอนแรก พี่กับฟล็อกเดินวุ่นไปทั่ว พยายามกดปุ่มโน้นปุ่มนี้ส่วนผมก็เพียงนั่งเฉยๆ จนกระทั่งผมไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้ว มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่พี่ผมจับไหล่เขย่า ความเร็วของยานลดลง
"แสน ตื่น ตื่นได้แล้ว" ผมงัวเงียลุกขึ้นมานั่ง พยายามมองรอบตัว
ฟล็อกหันหน้าไปอีกทาง ยกมือขึ้นชี้ไปที่ดาวสีส้มที่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่นัก
"นั่นคือเอรันเทร่า อีกไม่ถึงสามชั่วโมงเราจะไปถึงถ้ายังถูกดึงอยู่ด้วยความเร็วระดับนี้"
ผมกับพี่ตัวเย็นเฉียบ สามชั่วโมง อีกสามชั่วโมงพวกเราจะไปถึงดาวเอรันเทร่า และจะถูกประหาร !!
"พวกเราควรจะทำยังไงดี!!"
"เราต้องทำลายราเรียให้ได้ เพียงแค่ทำลายราเรียได้แค่ลูกเดียว สมดุลของมันจะเสีย เราจะสามารถขับยานหลบหนีออกไปได้"
"แล้วยังไงล่ะถึงจะทำลายได้" พี่ผมตะโกน กังวลสุดๆ
"ผมก็กำลังหาอยู่นี่ไง มิธเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่น่าจะมีอาวุธอะไรติดอยู่บ้าง ถึงแม้มิธจะไม่สามารถบังคับได้ด้วยตัวเองตอนนี้ แต่ถ้าพวกเราหาเจอพวกเราก็สามารถบังคับเองได้" ฟล็อกอธิบาย หลังจากนั้นผมก็เห็นพี่กับฟล็อกพยายามค้นหาปุ่มอะไรกันใหญ่ ผมเองก็ได้แต่มองไปที่หน้าต่างดูดวงดาวสีส้มที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
อี๊ด…ครืน….เสียงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวด้านนอก
"แสน ดูสิว่ามีอะไรด้านนอกมั้ย" พี่ผมตะโกนถาม ผมชะโงกหน้าไปติดกระจก
"มีท่อนอะไรยาวๆไม่รู้ครับพี่ ยื่นออกมา อาจจะเป็นปืนก็ได้นะครับ" ผมตะโกนตอบ
"แน่แล้ว ปืนเลเซอร์" ฟล็อกดีใจ "เราต้องทำลายราเรีย แต่ตอนนี้ไม่สามารถมองผ่านมอนิเตอร์ได้ เราจะต้องใช้คันบังคับแทน แสนช่วยบอกทิศทางยิงไปที่ราเรียด้วย"
ผมรับคำ ตอนนี้พวกเราเข้าใกล้เมืองมากขึ้นไปอีก ผมสามารถมองเห็นตึกรูปทรงประหลาดอยู่เต็มพื้นดาวเต็มไปหมด
"ไปทางขวาครับ ซ้ายอีกนิด อีกนิดครับ ขึ้นข้างบนหน่อย นั่นแหละครับ ยิงเลย" ผมให้สัญญาณด้วยความตื่นเต้น
"เปรี้ยง" ลำแสงสีแดงพุ่งออกมาจากปืนเลเซอร์ข้างยาน ทะลุผ่านราเรียไปยังภูเขาหินด้านหลัง ภูเขาหินด้านหลังทะลายเป็นแถบ แต่ราเรียลูกนั้นก็ยังไม่ระเบิด
"เฮ้ย ทำไมเป็นยังงี้" ผมอุทานด้วยความผิดหวัง "โดนตรงๆเลยนี่ ยิงอีกทีไหม" ผมเร่ง แต่แล้ว ราเรียลูกนั้นก็เกิดเหตุการประหลาดขึ้น มันขยับขึ้นลงเหมือนเสียสมดุล ประกายไฟปะทุออกมา ยานที่อยู่ตรงกลางหมุนวนอย่างแรงราวกับลูกข่าง
"คงไม่ใช่มันจะระเบิดนะ พวกเราอาจจะตายก่อนที่จะได้ลงไปที่เอรันเทร่าก็ได้!!" พวกเราโดนเหวี่ยงอย่างแรงอยู่ภายใน ถูกกระแทกราวกับหุ่นกระบอกที่ไม่สามารถบังคับได้ จนในที่สุดสติทุกคนก็ดับวูบลง

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1