01      02      03      04      05      06      07      08       09       10       11       12       13       14       15       16      17
Peebee

My aliens friends

ตอนที่ 14

"ชั้นไม่กลับหรอกน่ะ ฟล็อก" แสนบอกกับฟล็อกตามตรงหลังจากที่ฟล็อกมาชวนเขาให้กลับไปด้วยกัน
"ไม่เอาน่า แสน..แสนจะปล่อยชัยให้กลับคนเดียวเหรอ ที่นี่ลำบากจะตาย ไม่ค่อยสะดวกสบายเหมือนเอรันเทร่าในอนาคตเลยนะ" ฟล็อกชวนต่อ
"นั่นมันสำหรับนาย...แต่สำหรับชั้นที่นี่ไม่เห็นต่างจาก โลก ที่ชั้นมาเท่าไหร่เลย" แสนพูดกระแทกเสียง เขาเคืองฟล็อกนิดๆ ที่อยู่ๆมาบอกว่าที่นี่ลำบาก
"นายเองเคยบอกว่าอยากจะเป็นนักผจญภัยอวกาศ แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้ว อย่างนี้จะเป็นได้หรือนักผจญภัยอะไรน่ะ" แสนย้อนฟล็อกกลับไป ฟล็อกหน้าชา
"ชั้นแค่จะมาชวนนายกลับเพราะสงสารชัยต่างหากล่ะ แต่ถ้านายไม่อยากกลับก็เรื่องของนาย ชั้นไม่พูดอะไรแล้ว!!!" ฟล็อกขึ้นเสียงตอบบ้าง เขาเริ่มมีอารมณ์เหมือนกัน พูดจบเขาก็สะบัดหน้าเดินปึงปังออกไปโดยไม่สนใจชัยที่เดินเข้ามาหาพวกเขาเลย ชัยได้แต่มองหน้าน้องชายกับฟล็อกสลับกัน สุดท้ายก็วิ่งตามฟล็อกออกไป

ผมเดินกลับเข้าห้องรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่พูดกับฟล็อกแบบนั้น ยามเมื่อก้าวขาเข้าไปในห้อง ผมก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ อาร์ดีนนั่งอยู่ตรงมุมมืด ไฟตะเกียงก็หรี่ซะจนทำให้มองอะไรแทบไม่เห็น
"เมื่อกี้ชัยมาลาชั้น...." อาร์ดีนพูดทำลายความเงียบขึ้นมา ถึงตอนนี้ผมก็เริ่มเข้าใจ อาร์ดีนคงคิดว่าผมคงจะเดินทางกลับไปพร้อมกับพี่ด้วยแน่ๆ ผมยังไม่ได้บอกกับอาร์ดีนว่าผมตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะว่าผมยังตัดสินใจไม่ได้ แต่เป็นเพราะผมกระดากปากตัวเองต่างหากที่จะสารภาพรักกับผู้ชายด้วยกัน ผมกล้าบอกทุกคนรวมทั้งพี่ แต่ผมยังไม่กล้าบอกเจ้าตัวตรงๆ
"ผมรู้แล้ว..ผมจะบอกว่า..." พูดไม่ทันจบ อาร์ดีนก็ยกมือห้าม
"พอแล้ว ชั้นยังไม่อยากรับฟังอะไร" เขาส่ายหัว ผมพยายามจะพูดต่อ แต่อาร์ดีนพูดแทรกขึ้นมาก่อน
"แสนจำสัญญาที่ให้ชั้นไว้ได้รึเปล่า" ผมหน้าแดงขึ้นมา
"ชั้นขอยกเลิกก็แล้วกัน ชั้นเบื่อที่ต้องมานั่งรอเด็กเต็มทีแล้ว แสนจะกลับบ้านหรือจะไปไหนก็ไปเถอะ" อาร์ดีนพูดเสียงหน่ายๆ แต่มันเหมือนกับค้อนทุบลงกลางอกผม ด้วยทิฐิ คำพูดที่กำลังจะหลุดออกจากปากถูกกลืนลงไป
"ก็ได้ ถ้าอาร์ดีนอยากจะเลิก ผมไม่พูดอะไรแล้วกัน" พูดจบผมก็เดินออกจากห้องไป ไม่ได้หันมามองอาร์ดีนอีก

ฟล็อกได้แต่เดินฮึดฮัดโดยมีชัยเดินตามหลังติดๆ เมื่อถึงห้อง ชัยได้แต่มานั่งปลอบใจเด็ก
"เอาน่า ไม่ต้องโมโหไปหรอก ชั้นเข้าใจความรู้สึกของฟล็อกน่ะ" ชัยยกมือลูบหัวเจ้าตัวเล็ก
"ทั้งพี่ทั้งน้องเหมือนกันเลย กวนโมโหทั้งสองคน" ฟล็อกแว้ดขึ้นมา
"อ้าว ทำไมรวมชั้นไปด้วยล่ะ" ชัยงงกับความพาลของฟล็อก
"ชั้นแค่พูดว่าที่นี่ลำบาก เอรันเทร่าในอนาคตสบายกว่าตั้งแยะ แค่นั้นเอง มาบอกว่าชั้นไม่เหมาะจะเป็นนักสำรวจ ความลำบากแค่นี้ก็ทนไม่ได้ มันเกี่ยวกันที่ไหนล่ะ"
ที่จริงก็เกี่ยวเหมือนกันนะ ชัยอยากจะพูดคำนี้ออกไป แต่กลัวว่าจะเป็นการเอาน้ำมันเข้าไปราดกองไฟเสียมากกว่า เลยได้แต่เออออตามเรื่อง เสร็จแล้วก็ตัดปัญหาโดยการดึงเจ้าตัวเล็กเข้ามาจูบสักครู่ใหญ่
"เอาน่า โมโหอะไรก็คนน้องก็ระบายออกมาที่คนพี่ก็แล้วกัน แผ่นหลังนี้ยอมให้หยิกให้ข่วนได้ตลอด" พูดจบก็ดันฟล็อกล้มไปที่เตียง ฟล็อกบ่นพึมพำในทีแรก...แต่ในไม่ช้าก็กลายเป็นเสียงครวญคราง...

อาร์ดีนได้แต่มองตามหลังแสนไป เขาอยากจะกระชากร่างเล็กลงมาจูบและระบายอารมณ์ที่คั่งค้างอยู่ให้หมดแต่เขาก็ทำไม่ได้ เขารักแสน รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน เขาไม่อยากทำร้ายคนที่เขารัก ทุกวันร่างเล็กตาดำผมสีดำยิ่งเข้ามาอยู่ในใจเขามากขึ้นทุกที เขาเคยคิดว่าการชนะใจแสนไม่ใช่เรื่องยาก แสนเพียงแต่บอกว่าชอบเขาแต่ไม่เคยบอกว่ารักเขา เขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายพร่ำพูดคำนั้นเสมอ แล้วที่แสนตกลงสัญญากับเขา เป็นเพราะว่าเขาบังคับแสนทางอ้อมหรือเปล่า เขาไม่อยากฟังคำลาจากปากของแสน เขาเลยเป็นฝ่ายบอกลาเสียเอง....
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา อาร์ดีนเอ่ยปากอนุญาต ร่างอ้วนใหญ่เดินเข้ามาตรวจบาดแผลตามปกติ
"ต๊าย...ทำไมไม่จุดตะเกียงให้สว่างกว่านี้ล่ะคะ..มืดแบบนี้เดินสะดุดอะไรบาดเจ็บขึ้นมาอีกจะแย่" ไม่บ่นเปล่า แม่หมอเซียร่าจุดไฟตะเกียงซะสว่างพรึบ
"อ้าว เมรันอาไม่อยู่นี่คะ ไม่ได้อยู่ดูแลท่านอาร์ดีนหรือนี่" แม่หมอจ้อไปตามเรื่อง ขณะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้อาร์ดีน ข้างฝ่ายคนฟังไม่ได้ตอบคำอะไร
"ยังดีนะคะ ที่ท่านอาร์ดีนเลิกดื่มนั้นโดม่านั้นไปแล้ว ไม่ยังงั้นแผลใหญ่แบบนี้ร่างกายจะทนไม่ไหวเอา อิชั้นละก็เป็นห่วงท่านแทบแย่"
"หึ ถ้าชั้นตายๆไปซะอาจจะดีกว่า ไม่ต้องมาทนปวดใจแบบนี้"อาร์ดีนบ่นพึมพำ แต่ก็ยังไม่พ้นหูที่ไวกว่าแสงของแม่หมอได้
"ต๊าย ต้องมาปวดใจอะไรอีกล่ะคะ ในเมื่อใจตรงกันแท้ๆ" แม่หมออุทาน อาร์ดีนได้แต่มองหน้างง
แม่หมอเซียร่าเป็นคนเดียวที่อาร์ดีนเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรให้ฟังเสมอ ตอนที่เขาไปขอน้ำโดม่ากับเซียร่าเขาเองก็เล่าปัญหาของเขาให้แม่หมอฟัง คนที่รู้ว่าเขากับแสนไม่เคยมีอะไรกันก็มีแค่แม่หมอคนเดียว
"หึ รู้ได้ไงว่าใจตรงกัน ชั้นคิดไปเองฝ่ายเดียวเสียมากกว่า" อาร์ดีนถอนหายใจ
"โถ ไม่ได้คิดไปเองหรอกค่าาาา อิชั้นได้ยินคุณแสนพูดเต็มสองหู" แม่หมอพูดถึงตอนนี้อาร์ดีนชะงักกึก
"แต่ไม่ได้พูดกับอิชั้นก็เท่านั้นเอง" แม่หมอต่อความ
ถึงตอนนี้อาร์ดีนอยู่ไม่สุขแล้ว
"เมื่อไหร่ แสนพูดอะไรเมื่อไหร่"
"ก็คงประมาณสี่ห้าวันก่อนมั้งคะ ตอนที่ท่านอาร์ดีนบาดเจ็บกลับมา อิชั้นได้ยินเสียงคุณแสนกับคุณชัยทะเลาะกันเสียงดังเชียว ได้ยินคุณแสนพูดว่าไม่กลับบ้านอะไรนี่แหละค่ะ แล้วยังบอกด้วยว่ารักท่านอาร์ดีน คุณชัยโมโหเกือบถึงขนาดจะตีคุณแสนเชียวนะคะ ดีที่ฟล็อกเข้าไปฉุดไว้ทัน" แม่หมอคุยจ้อไม่หยุด ไม่ทันได้สังเกตสีหน้าคนฟังที่ขาวซีดลงเรื่อยๆ อาร์ดีนลุกพรวดขึ้นมา เขาเดินจ้ำไปที่ประตู ไม่หยุดฟังเสียงแม่หมออีก เขาเตะเก้าอี้ที่ขวางทางเต็มแรง แผลปริออกมา แม่หมออุทานเสียงแหลม
อาร์ดีนไม่เคยรู้สึกโมโหตัวเองเท่าครั้งนี้มาก่อน ทำไมเขาไม่ยอมให้แสนพูดให้จบนะ เขาเองกลับเป็นฝ่ายปฏิเสธหัวใจตัวเอง...อาร์ดีนจ้ำพรวดเดินออกนอกห้อง เขามองหาแสนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา อากาศก็เริ่มมืดครึ้มเย็นลงเรื่อยๆ หรือว่าไปหาชัยนะ อาร์ดีนได้แต่คิด เขาเดินขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องชัย

อาร์ดีนเคาะประตูห้องชัยอย่างแรง เจ้าของห้องเดินมาเปิดประตูด้วยความประหลาดใจ
"แสนมานี่หรือเปล่า" เขาถามด้วยความร้อนรน
"ไม่นี่...เกิดอะไรขึ้นรึไง" ชัยมองสภาพของอาร์ดีนที่เดินมาหาด้วยความตกใจ เลือดที่ขาไหลย้อยเป็นทาง แถมหน้าตาร้อนรนนั่นอีก
"เอ่อ...คือพวกเราทะเลาะกันนิดหน่อย แสนเลยวิ่งออกจากห้องไปน่ะ" อาร์ดีนสารภาพ
"นายทะเลาะกับน้องชายชั้น!!! แล้วปล่อยน้องชั้นหายไปเนี่ยนะ" ชัยเริ่มโมโห
"เอ่อ..ชั้นจะไปสั่งคนให้ออกตามหาอีก" อาร์ดีนหันหลังจะวิ่งไปเรียกคน
"เดี๋ยว!!! นายทะเลาะกับน้องชั้นเรื่องอะไร"
"ชั้น..เอ่อ..ชั้นขอเลิกกับแสน" อาร์ดีนตอบไม่เต็มคำ แต่พอพูดถึงตอนนี้หมัดของชัยก็สวนเข้าไปเต็มหน้า
"นายขอเลิกกับแสน!!! ทั้งที่แสนตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่...ทั้งที่เค้าตัดสินใจที่จะทิ้งชั้นซึ่งเป็นพี่ชายไปงั้นเรอะ!!!" ชัยตะโกนอย่างโมโห อาร์ดีนได้แต่นั่งกุมหน้า เขาเองก็พูดอะไรไม่ออก สมควรแล้วที่เขาจะถูกต่อย คนงี่เง่าอย่างเขาสมควรแล้ว
"ชั้นขอโทษ!!! ชั้นไม่รู้ว่าแสนตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ ชั้นมันบ้าเองที่ใจร้อนไม่ตัดสินใจฟังอะไรให้มันจบ" อาร์ดีนพูด
ชัยโมโหอาร์ดีนมาก เขาแทบระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้ จนฟล็อกตะโกนเตือนสติ
"ตามหาแสนก่อนดีกว่า อย่าพึ่งทะเลาะกันเลย"
ชัยจึงหยุดที่จะซ้ำอาร์ดีน เขาเดินออกจากห้องไปทางบันไดลงของตึก

อาร์ดีนสั่งทหารของเขาอีกส่วนหนึ่งให้ออกตามหาแสน เมื่อเขาลองทำใจให้สงบเดินกลับไปที่ห้อง สำรวจร่องรอยที่เหลือทิ้งไว้ ในที่สุดเขาก็เดินลงบันไดไปทางชั้นล่างสุด เดินอ้อมตัวตึกไปทางด้านหลังซึ่งเป็นสวน เขาพบร่องรอยของกิ่งไม้เล็กๆที่ถูกเด็ดหักไป รอยยังค่อนข้างใหม่อยู่ อาร์ดีนเดินตามรอยไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็พบร่างเล็กนั่งกุมเข่าเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่ อาร์ดีนถอนหายใจโล่งอก ผมสีดำสะท้อนประกายสีนวลของแสงรอบข้าง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่เห็นดวงค่อนข้างชัดเจน เอรันเทร่ามีดวงจันทร์สองดวงขนาดค่อนข้างใหญ่ แสงเป็นประกายสีเงินยวง ถึงแม้ดวงดาวรอบข้างจะถูกลดทอนรัศมีไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจนตัดกับความมืดของท้องฟ้ายามราตรี อาร์ดีนกะจะเอ่ยปากเรียก แต่บรรยากาศที่ดูเงียบสงบทำให้เขาชะงักไว้
เขาตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งข้างร่างเล็กเงียบๆ แสนไม่ได้หันมามองเขา ร่างเล็กยังนั่งนิ่งมองท้องฟ้าอยู่ อาร์ดีนล้มตัวลงนอนกับพื้นหญ้าเงยหน้ามองสิ่งที่ร่างเล็กให้ความสนใจ..ก่อนที่จะเริ่มเอ่ยปากออกมา
"ชั้นเลิกที่จะสนใจท้องฟ้ามาตั้งแต่สิบขวบ....ชั้นไม่เคยสังเกตท้องฟ้าจริงๆจังๆสักที พอมาวันนี้ฉันถึงเห็นความสวยงามของมัน ไม่น่าเชื่อว่ายังมีดาวดวงอื่นที่เหมือนเราอยู่ในห้วงอวกาศนั้นด้วย" อาร์ดีนทอดสายตามองไปไกล ใจเขาสงบอย่างประหลาด
"โลกของผมก็คงอยู่ที่ไหนสักแห่งบนท้องฟ้านั่น...ผมเคยนั่งมองดาวดวงอื่นจากโลก แต่วันนี้ผมมองโลกจากดาวดวงอื่น" แสนเอ่ยปากทำลายความเงียบขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ยอมหันหน้า แต่ฟังจากน้ำเสียงเหมือนไม่ได้โกรธเท่าไหร่ อาร์ดีนใจชื้นขึ้นมา
"แต่อีกไม่นานผมก็คงได้กลับโลกของผม..." แสนพูดถึงตรงนี้อาร์ดีนใจหายวูบ
"แสน..ชั้นขอโทษ..."
"ไม่ยกโทษให้"

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1