01      02      03      04      05      06      07      08       09       10       11       12       13       14       15       16      17
Peebee

My aliens friends

ตอนที่12

"แสน อีกสองอาทิตย์ถ้าพวกเราได้กลับบ้าน แสนจะดีใจไหม" พี่ชัยถามผมขึ้นมา ผมอึ้งไปสักพัก การกลับบ้านเป็นความปรารถนาของพวกเราในช่วงแรกที่มาที่นี่มาก แต่หลังจากที่อยู่ที่นี่มาสักพัก ทุกคนก็เริ่มมีความผูกพันกับผู้คนและวิถีชีวิตที่นี่ จนลืมเรื่องกลับบ้านไปเลย
"ผะ..ผม ผมไม่รู้" ผมตอบไม่เต็มเสียงนัก พี่ชัยพยักหน้าเข้าใจก่อนพูดต่อ
"พี่รู้ แต่ว่าพวกเราก็ต้องกลับไปโลกของเรา ยุคของเรา เมื่อวานอาร์ดีนบอกพี่ว่าแสนตอบตกลงกับเขา" ชัยหยุดเพื่อดูสีหน้าของน้องชาย แสนหน้าแดงขึ้นวูบหนึ่ง
"เอ่อ...อ...อะ...อีกอาทิตย์นึง" ผมอึกอัก
"พี่รู้แล้ว แต่ถ้าพวกเราจะกลับบ้าน พี่ว่าแสนยังไม่ควรจะมีความสัมพันธ์ที่เกินเลยกับอาร์ดีน เพราะความผูกพันยิ่งฝังรากลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เราเจ็บช้ำเท่านั้นเมื่อต้องจากกัน" ชัยให้เหตุผล
"ลองหาทางเลื่อนข้อตกลงของอาร์ดีนจนกว่าพวกเราจะจัดการทุกอย่างเรียบร้อยนะ...แต่อย่าเพิ่งบอกอาร์ดีนล่ะ เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง"
"....." แสนเงียบไปไม่ได้ตอบคำอะไร ธรรมดาเขาเองก็เป็นคนรับฟังคำพูดของพี่ชายเสมออยู่แล้ว แต่ครั้งนี้รู้สึกเหมือนมันเจ็บลึกๆในใจยังไงก็ไม่รู้
ชัยเองก็ไม่ได้เร่งอะไรน้องชาย เพราะเขาคิดว่าแสนคงรับฟังเขา...ชัยตบไหล่น้องชายก่อนเดินจากห้องไป แสนยังนั่งอยู่ที่เดิม

ชัยพยายามมอบหมายงานทั้งหมดที่เขาทำที่เหมืองให้กับช่างเทคนิคที่ชำนาญงานของอาร์ดีน เขาเองไม่อยากทอดทิ้งอาร์ดีนในสถานการณ์คับขันเช่นนี้หรอก แต่ฟล็อกเองเร่งเขาตลอดเรื่องกลับบ้าน เขาจึงจะพยายามฝึกคนของอาร์ดีนให้ทำงานแทนเขาให้ได้มากที่สุด
ชัยรู้ว่าฟล็อกเองอยากกลับบ้านมาก บางครั้งตอนดึกๆ ฟล็อกเองถึงกับละเมอเรียกพ่อเรียกแม่ขึ้นมา บางทีก็สะอื้นร้องไห้ ชัยเองก็สงสาร ฟล็อกคงคิดถึงบ้าน สำหรับเขาครอบครัวคือที่ที่เขากับแสนสองคนพี่น้องอยู่ แต่สำหรับฟล็อกมันไม่ใช่แค่นั้น เท่าที่ชัยฟังฟล็อกเล่าเสมอถึงครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ทุกคนพร้อมหน้ารักใคร่กันดี ชัยได้แต่ถอนหายใจครั้งที่ร้อยแปดของวัน
จากแปลนที่ฟล็อกให้เขาดู ชัยรู้สึกว่าไม่เกินแรงเขาเท่าไหร่นัก ขาดแต่วัสดุบางส่วนซึ่งฟล็อกก็บอกว่าสามารถใช้อะไหล่ของยานเขาก็ได้
"ชัย...คิดอะไรอยู่น่ะ" อาร์ดีนทักขณะที่เข้ามาตรวจเหมืองตามปรกติ
"อ้าว..อาร์ดีน..ไม่มีอะไรหรอก เรื่องทั่วๆไปนะ"
"งานไปถึงไหนแล้วล่ะ เริ่มต้นได้ด้วยดีไหม" อาร์ดีนสำรวจมองทั่วบริเวณ เสียงการทำงานดังจนกลบเสียงพวกเขาไปได้พอสมควร คนงานทุกคนตั้งใจทำอย่างเร่งรัด
"ก็ดีนะ ช่วงแรกอาจจะช้าหน่อย เพราะเราผลิตชิ้นส่วนหลายๆชิ้นก่อน แล้วค่อยเอามาประกอบกันทีหลัง ช่วงเดือนแรกอาจจะยังได้เสื้อเกราะไม่ทันใจนัก แต่ช่วงเดือนที่สองจะผลิตได้มากหลายเท่าตัว ผมว่าอาจจะได้เกือบถึงสองพันตัวได้" ชัยอธิบาย
"อืม ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอุปสรรคก็คงจะดี ชั้นเองก็ไม่รู้ว่าพวกหุบเขาบาร์แดนมันจะมาโจมตีเมื่อไหร่ ถ้ามาวันนี้วันพรุ่งพวกเราคงจะตายกันหมด" อาร์ดีนถอนหายใจ
"นายเองก็ดูท่าทางเหนื่อยมาก ชั้นเองก็ต้องขอบใจนาย นายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยชั้นตั้งหลายอย่าง ชั้นเองก็ไม่รู้จะตอบแทนนายยังไง พักผ่อนให้พอก็แล้วกันนะ" อาร์ดีนพูดต่ออย่างเป็นห่วง เมื่อสังเกตว่าชัยขอบตาคล้ำไป
ส่วนชัยเองก็รู้สึกว่าอาร์ดีนเป็นชายนิสัยดีคนหนึ่ง เป็นห่วงเป็นใยทุกคน ถ้าอาร์ดีนรู้ว่าพวกเขากำลังจะจากไป จะรู้สึกอย่างไรนะ เป็นการซ้ำเติมมากไปหรือเปล่า

เมื่อมาถึงห้องชัยก็ล้มตัวลงนอนบนเตียวด้วยความเหนื่อยอ่อน คนร่วมห้องได้แต่มองตามด้วยความสงสัย
"ท่าทางงานเยอะนะ ชัยบอกอาร์ดีนหรือเปล่า เรื่องที่พวกเราจะเดินทางกลับแล้วนะ"
"ไม่ได้บอก ชั้นสงสารอาร์ดีน ตอนนี้พวกนั้นกำลังวุ่นกันน่าดู กะจะรอให้อะไรเรียบร้อยก่อน" ชัยไม่ได้สบตาฟล็อก เขามองเพดานตอบ
"แล้วอีกอย่าง ถ้าบอกตอนนี้ไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับแสนหรือเปล่า....ชั้นเองก็เป็นห่วงน้องชายด้วย"
ฟล็อกเองไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะว่าชัยทำท่าไม่สบายใจเอามากๆ ฟล็อกเองก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ เขาเองแค่อยากกลับบ้านจึงเอาแต่ถามเท่านั้นเอง
ถ้าพูดจริงๆ ตอนนี้คนที่ลำบากใจที่สุดก็คือแสน เขาจะบอกอาร์ดีนยังไงเรื่องที่จะขอยกเลิกข้อตกลง เรื่องที่จะกลับบ้าน ใจเขาจริงๆต้องการยังงี้หรือ เขาขบคิดอยู่นานก็ยังตกลงใจไม่ได้สักที เขาชอบอาร์ดีนแน่ล่ะ แต่ความรู้สึกชอบกับรักมันไม่เหมือนกันนี่นา....แล้วเขารักอาร์ดีนหรือเปล่า...
แสนได้แต่พะวงจนเวลาผ่านไปเกือบห้าวันแล้ว ยังไงเขาก็ยังไม่กล้าบอกอาร์ดีนอยู่ดี ยิ่งเห็นใบหน้ายามเมื่ออาร์ดีนพบเขา เขาก็ยิ่งพูดไม่ออก ทุกวันอาร์ดีนเหนื่อยสายตัวแทบขาด เขาเดินทางไปกลับระหว่างเหมืองกับที่เมืองวันละเกือบห้าเที่ยว ตรวจดูความเรียบร้อยภายใน บางทีก็ออกสำรวจกับทางคนของเขาเพื่อตรวจสอบร่องรอยของพวกหลังหุบเขา แต่เมื่อกลับมาที่ห้องเขาก็ยังมีรอยยิ้มให้แสนเสมอ
"แค่เห็นหน้าแสนก็หายเหนื่อยแล้ว" เป็นคำพูดที่อาร์ดีนพูดเมื่อยามพบผมตลอด บางทีผมถึงขั้นน้ำตาปริ่ม แต่ไม่กล้าร้องไห้ออกมา เพราะกลัวว่าอาร์ดีนจะสงสัย....ผมคงพูดประโยคนั้นไม่ออกแน่
สงสัยเขาคงจะต้องแกล้งปวดหัวปวดท้องเสียแล้ว....มุกเก่าเด็กหนีโรงเรียนใช้กันประจำ แต่จะใช้ได้ที่นี่หรือเปล่าเนี่ย

"แสน ฟังชั้นอยู่หรือเปล่า" ฟล็อกถามขึ้นมาหลังจากเห็นว่าผมนั่งเหม่อ คำพูดของฟล็อกแทบจะทะลุหูซ้ายออกหูขวา
"เอ่อ ขอโทษนะ นายพูดอะไรเหรอ"
"เฮ้อ...ชั้นบอกนายว่าพี่นายสร้างราเรียจำลองได้เกือบเสร็จแล้ว พี่นายนี่เก่งมากเลยนะ แค่ห้าวันเท่านั้นเอง" ฟล็อกชมเสียงใส
"ถ้าพวกเรากลับไปเอรันเทร่าได้ ... จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราอีก" ผมเงียบไป ก่อนที่จะถามต่อ
"นายบอกว่า โทษของคนต่างดาวที่ลักลอบหนีเข้าเมืองคือโทษประหารใช่ไหม"
"ชั้นว่า กับพวกนายมีข้อแตกต่างกันนะ พวกนายถูกดึงมาโดยราเรียต่างหาก และทั้งหมดก็เป็นความผิดของชั้น พี่ชั้นค่อนข้างจะมีอำนาจทางการเมืองอยู่ คงจะช่วยพวกนายได้ ชั้นเองก็จะช่วยสุดความสามารถ" ฟล็อกพูดให้กำลังใจ ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะถูกตัดสินยังไง
"ชั้นว่าอยู่นี่ก็....." ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ก็รู้สึกได้ถึงพื้นดินที่สั่นสะเทือนเล็กน้อย และเสียงวุ่นวายของคนวิ่งกันให้พล่าน ราวกับเกิดเรื่องอะไรร้ายแรง
คนกลุ่มหนึ่งวิ่งผ่านหน้าผมไป ยังดีที่ผมจำได้ว่าคนที่วิ่งนำหน้าคือคนที่เคยเดินทางกลับจากราเรียด้วยกัน ผมเลยเอ่ยปากถาม
"ซีวา...เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมหน้าตาตื่นแบบนั้น"
"มีคนวางระเบิดที่เหมืองครับคุณแสน สงสัยจะเป็นพวกหลังหุบเขา ท่านอาร์ดีนสั่งให้ส่งคนไปช่วย"
"อาร์ดีนก็อยู่ที่เหมืองด้วยเหรอ แล้วพี่ชัยล่ะ" ผมถามเสียงเครียด ฟล็อกเองก็หน้าตื่นเช่นเดียวกัน
"คุณชัยกับท่านอาร์ดีนก็อยู่ที่เหมืองแหละครับ แต่โชคดีหน่อยตอนที่ระเบิดไม่ได้อยู่ข้างใน" ซีวาตอบด้วยสีหน้าเร่งรีบ
"ชั้นตามไปที่เหมืองด้วยนะ" ผมบอกซีวาด้วยสีหน้าเป็นห่วง "ชั้นขี่ร็อกตามไปได้ รับรองว่าไม่ยุ่งหรอก" ร็อกก็คือตัวประหลาดคอยาวที่ผมเคยเห็นมาก่อน อาร์ดีนสอนจนผมขี่ได้ค่อนข้างคล่อง ซีวาก็ไม่ได้ว่าอะไร
"ชั้นไปด้วยนะ ชั้นเป็นห่วงชัยนะ" ฟล็อกพูดพร้อมวิ่งตามมาอีกคน

ผมกับฟล็อกขี่ร็อกตัวเดียวกันตามหลังกลุ่มคนของซีวาไป เมื่อมาถึงเหมืองผมก็พบความโกลาหลที่นั่น ฝุ่นคลีคละคลุ้ง คนวิ่งกันให้วุ่น ได้ยินเสียงโหวกเหวก เสียงครางของคนเจ็บ เต็นท์ที่กางขึ้นลวกๆ รถลากที่บรรทุกคนเจ็บเพื่อเตรียมส่งเข้าตัวเมือง
ฟล็อกกระโดดลงจากหลังร็อก พร้อมกับสอดสายตาหาคนที่ต้องการ ส่วนผมหาที่ผูกร็อกได้ก็วิ่งตามไป พี่ผมตะโกนโหวกเหวกช่วยคนบาดเจ็บอยู่ หน้ามันด้วยเหงื่อไคล นิ้วมือชี้ไปทางโน้นทีทางนั้นทีตลอด แต่เมื่อมองเห็นพวกผมก็หยุดสั่งงาน
"ฟล็อก แสน มาทำไมที่นี่ สถานการณ์ยังไม่ปลอดภัยนะ กลับไปที่ตึกก่อน!!!" ผมไม่ได้ตอบคำ แต่สายตามองหาอีกคนที่ควรจะอยู่ด้วยกัน
"อาร์ดีนล่ะพี่" ผมถามด้วยความเป็นห่วง
"อาร์ดีนเข้าไปช่วยคนงานที่ยังติดอยู่ในเหมืองน่ะ เตือนก็ไม่ฟัง เข้าไปตั้งนานแล้วด้วย" พี่ผมพูดด้วยเสียงหอบๆ ผมได้แต่ชะเง้อมองตรงทางเข้า ที่มีคนออกันอยู่ แต่ยังไม่ทันมองละเอียดเท่าไหร่ เสียงระเบิดระรอกสองก็ตามมา พื้นดินสั่นสะเทือนแทบจะยืนไม่อยู่ ฟล็อกอุทานเมื่อเห็นชัยวิ่งตรงไปที่ทางเข้าเหมือง ผมมองตามไปก็แทบจะเป็นลม
เมื่อมองฝ่ากลุ่มฝุ่นควันที่คละคลุ้งก็พบว่ากองดินอิฐหินถล่มลงมาปิดปากทางเข้าเหมืองจนหมด ผมกับฟล็อกวิ่งตามไป ชัยวิ่งหน้าตื่นไปถามรายละเอียด คนงานหลายคนพยายามที่จะขยับหินที่ปิดปากเหมืองออกมา
"ท่านอาร์ดีนยังติดอยู่ข้างใน!!!" ซีวาพูดด้วยความตกใจ
"ระดมคนมาขุดหินพวกนี้ออกไปด่วนเลย ก่อนที่อากาศข้างในจะไม่พอ" ชัยบอกซีวาที่สั่งคนงานอยู่ ชัยหน้าตากังวล ผมเองตอนนี้น้ำตาไหลออกมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝุ่นหรือว่าความรู้สึกที่บอกไม่ถูกกันแน่ ผมวิ่งไปที่ปากเหมือง หินก้อนใหญ่ทลายลงมาปิดพร้อมกับเศษดินโคลน เศษไม้เศษดินจากการก่อสร้าง แต่ยังไม่ทันที่จะเริ่มขุดก็ได้ยินเสียงเหล็กกระทบกัน พร้อมกับเสียงโห่ร้องมาจากอีกทิศหนึ่งของเหมือง กลุ่มคนแต่งตัวประหลาดถืออาวุธร่วมร้อยกำลังวิ่งตรงเข้ามา!!!

แนะนำติชมได้ที่บอร์ดนิยายนะคะ...................
1